ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 อาจส่งผลกระทบกับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวหลายโรคที่ต้องติดตามผลหรือเช็กสุขภาพอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผู้ป่วยโรคหัวใจด้วยที่ต้องได้รับการรักษาหรือเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ แต่ด้วยสภาวะไม่ปกติขณะนี้ผู้ป่วยและครอบครัวอาจเกิดความกังวลใจในความปลอดภัยจากเชื้อ COVID-19
นพ.วิฑูรย์ ปิติเกื้อกูล ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคหัวใจที่ได้รับเชื้อ COVID-19 มีโอกาสเสียชีวิตสูงถึง 20% และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในการรักษา อาจตกอยู่ในภาวะฉุกเฉิน และใช้เวลาในการรักษาที่นานขึ้นกว่าปกติ ฉะนั้นการดูแลตนเองให้ห่างไกลจาก COVID-19 จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ ควรเลี่ยงการออกนอกบ้าน โดยเฉพาะการไปที่ชุมชนหรือพบเจอผู้คนจำนวนมาก ควรใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาหรือทุกครั้งที่ออกจากบ้าน และหากอยู่ในบ้านกับผู้มาจากที่อื่นควรสวมหน้ากากอนามัยด้วยเช่นเดียวกัน ควรล้างมือทุกครั้งที่สัมผัสสิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะเวลาสั่งอาหารหรือสั่งของไม่ควรรับโดยตรง เมื่อได้รับของแล้วควรฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ทันที หลังจากแกะของแล้วควรทำความสะอาดก่อนนำไปใช้งาน นอกจากนี้การชำระเงินควรเป็นการจ่ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ควรใช้เงินสดเพราะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ควรแยกกันรับประทานอาหาร เว้นระยะห่างและรับประทานในจานของตัวเองเท่านั้น หากจำเป็นจะต้องรับประทานอาหารร่วมกันต้องมีช้อนส้อมส่วนตัวและช้อนกลางแยกของแต่ละคน ไม่ควรใช้ห้องน้ำร่วมกัน หากมีความจำเป็นควรให้ผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำใช้ห้องน้ำก่อนแล้วตามด้วยผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ควรทำความสะอาดห้องน้ำและใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดอีกครั้งก่อนออกจากห้องน้ำ นอกจากนี้ผู้ที่ดูแลหรือใกล้ชิดผู้ป่วยโรคหัวใจต้องดูแลตัวเองให้ดีเพื่อป้องกันการติดเชื้อเช่นเดียวกัน และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ผู้ป่วยโรคหัวใจควรที่จะรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอและพบแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้ง เพื่อตรวจปัจจัยเสี่ยงและการควบคุมโรคว่าเป็นไปด้วยดีหรือไม่ เพื่อที่แพทย์จะได้ปรับการรักษาและการรับประทานยาให้เหมาะสมและป้องกันการเกิดความรุนแรงของโรค ดังนั้นเมื่อจำเป็นต้องไปโรงพยาบาลผู้ป่วยควรสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือให้บ่อย และรีบกลับทันทีเมื่อตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในกรณีที่ผู้ป่วยโรคหัวใจจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจ การผ่าตัดซ่อมหรือเปลี่ยนลิ้นหัวใจ การผ่าตัดรักษาหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ต้องเป็นการผ่าตัดในภาวะฉุกเฉินหรือภาวะเร่งด่วน และเป็นการผ่าตัดที่พิจารณาโดยแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจเท่านั้น โดยผู้ป่วยและผู้ดูแลจะต้องตรวจไม่พบเชื้อ COVID-19 ภายใน 72 ชม. ก่อนผ่าตัด หากต้องเข้ารับการผ่าตัดทันทีโดยไม่สามารถรอผลตรวจหาเชื้อได้ หรือผู้ป่วยโรคหัวใจติดเชื้อ COVID-19 แล้วต้องผ่าตัดทันที แพทย์สามารถทำการผ่าตัดรักษาได้ทันทีภายใต้มาตรการป้องกันการติดเชื้อในทุกกระบวนการเพื่อความปลอดภัยที่สูงที่สุด ในผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง แพทย์จะพิจารณาเลื่อนผ่าตัดออกไปก่อนประมาณ 3 - 6 เดือน เพื่อให้สถานการณ์ COVID-19 เป็นที่ไว้วางใจและลดความกังวลใจให้กับผู้ป่วยในการผ่าตัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์เป็นสำคัญ
สำหรับโรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพมีมาตรฐานในการให้บริการ ทั้งในด้านความสะอาดของสถานที่ เครื่องมือ และอุปกรณ์ต่าง ๆ บุคลากรทางการแพทย์ที่ให้บริการจะต้องผ่านการตรวจหาเชื้อ COVID-19 เป็นที่เรียบร้อย ลดระยะเวลาในการพูดคุยขณะทำการรักษา นอกจากนี้เมื่อผู้ป่วยมาถึงจะต้องเข้ารับการตรวจวัดอุณหภูมิและซักประวัติเพื่อเช็กความเสี่ยงในการป่วยเป็น COVID-19 หากมีความเสี่ยงจะต้องตรวจรักษาในบริเวณที่โรงพยาบาลจัดไว้เท่านั้น ผู้ป่วยโรคหัวใจจึงมั่นใจได้ในการเข้ารับบริการกับทางโรงพยาบาล สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ รพ.หัวใจกรุงเทพ โทร. 02-310-3000 โทร.1719 หรือ LINE Official : @hearthospital
ภาพข่าว: รพ. หัวใจกรุงเทพ มุ่งพัฒนาคุณภาพการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ ด้วยเทคนิคสายสวนผ่านทางข้อมือ
ภาพข่าว: งาน “Share the power” แชร์พลังหัวใจ ลดเสี่ยง ห่างไกลโรค
เคทีซี ร่วมกับ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ จัดโปรแกรมตรวจหลอดเลือดแดงโป่งพอง โรคร้ายที่มาไม่ทันตั้งตัว
จริงหรือ! ต้องยุติการตั้งครรภ์หากคุณแม่เป็นโรคลิ้นหัวใจ
โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ อัดงบใหญ่ ปักหมุด 'ศูนย์กลางผ่าตัดหัวใจแผลเล็ก' MICS CABG และ 3D Valve Surgery สู่ผู้นำภูมิภาค
โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ อัดงบใหญ่ ปักหมุด 'ศูนย์กลางผ่าตัดหัวใจแผลเล็ก' MICS CABG และ 3D Valve Surgery สู่ผู้นำภูมิภาค
5 ขั้นตอนชวนรอดเมื่อหัวใจหยุดเต้น
Heart Challenge Fun Run 2022 เดิน วิ่ง ให้หัวใจคนกรุงแข็งแรง