สแกนเนีย กับ "สัญญาบริการ" ให้ลูกค้าต่อสู้ในตลาดอย่างแข็งแกร่ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ สแกนเนีย ชู "สัญญาบริการ" เป็นหัวใจให้ผู้ประกอบการ ต่อสู้ในตลาดได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยงานบริการหลังการขายเต็มรูปแบบ มาตรฐานและรับประกันคุณภาพระดับสากลให้กับลูกค้าคนไทย รวมถึงการเชื่อมโยงงานบริการกับระบบเทคโนโลยีที่ช่วยบริหารจัดการฟลีทรถ และแผนการบำรุงรักษารถแต่ละคัน เพื่อประโยชน์และผลกำไรของลูกค้าสแกนเนียทุกท่าน

สแกนเนีย กับ "สัญญาบริการ" ให้ลูกค้าต่อสู้ในตลาดอย่างแข็งแกร่ง

นายจักรี รักขาวชญานนท์ ผู้จัดการด้านสัญญาบริการ บริษัท สแกนเนียสยาม จำกัด กล่าวว่า ในปัจจุบัน "สัญญาบริการ"เป็นปัจจัยในการตัดสินใจของลูกค้าเพื่อเลือกซื้อรถ โดยเฉพาะในเชิงพาณิชย์อย่างรถบรรทุกและรถโดยสาร ที่ผู้ซื้อนำไปใช้ทำมาหากิน สัญญาบริการจึงเป็นการดูแลงานซ่อมและบำรุงรักษาให้กับลูกค้าด้วยมาตรฐานศูนย์บริการสแกนเนีย ลูกค้าจึงมั่นใจได้กับอะไหล่แท้พร้อมรับประกันและงานซ่อมตามมาตรฐานสแกนเนีย โดยสแกนเนียมีระบบสัญญาณเชื่อมโยงกับตัวรถ เพื่อนำข้อมูลมาทำการวิเคราะห์ปัญหาอย่างแม่นยำ สามารถเก็บประวัติการบำรุงรักษา ระยะทางการวิ่งของรถและพฤติกรรมการขับขี่ เพื่อนำมาปรับปรุงประสิทธิภาพได้อย่างดี โดยสแกนเนียจะมีสัญญาบริการให้เลือกพิจารณา 2 ประเภท คือ 1.สัญญาซ่อมและบำรุงรักษา และ 2.สัญญาบำรุงรักษา หรือ คือการดูแลงานเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและตรวจสอบสภาพรถ แต่ไม่รวมงานซ่อม สำหรับในช่วงสถานการณ์โควิด-19 สแกนเนียได้จัดโปรโมชั่นออกมาในแบบสัญญาบำรุงรักษาในราคาพิเศษ โดยจะมี 4 โปรแกรม คือ S-M-S-L S เป็นรอบเล็ก M รอบกลาง และ L รอบใหญ่ ในช่วงโปรโมชัน เหลือเพียง 66,000 บาท จากราคาปกติ 80,000-90,000 บาทต่อสัญญาบำรุงรักษา 4 โปรแกรม ทำให้จะช่วยลูกค้าประหยัดไปประมาณ 2 -3 หมื่นบาท นอกจากนี้รถทรัคของสแกนเนียที่ใช้แล้วเป็นเวลานาน ลูกค้าสามารถนำมาเปลี่ยนรถเป็นรถรุ่นใหม่ได้ โดยสแกนเนียมีแผนกรับซื้อรถใช้แล้วมาให้บริการด้วย สแกนเนีย กับ "สัญญาบริการ" ให้ลูกค้าต่อสู้ในตลาดอย่างแข็งแกร่ง

"ดังนั้นความสำคัญของ "สัญญาบริการ" หากเทียบกับรถที่มีสัญญากับไม่มีสัญญานั้น ปัญหาคือรถที่ไม่มีสัญญาจะไม่สามารถควบคุมหรือคำนวณค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงได้ในแต่ละครั้ง และงบประมาณการซ่อมอาจบานปลายได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น มาตรฐานการขับของผู้ขับขี่แต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน เส้นทางการขนส่ง สินค้าที่บรรทุก เป็นต้น แต่สัญญาบริการจะคำนวณค่าใช้จ่ายที่แน่นอนในแต่ละเดือนให้เรียบร้อย ซึ่งครอบคลุมงานซ่อมและบำรุงรักษา รวมถึงอุปกรณ์อะไหล่ต่าง ๆ ไว้แล้ว ผู้ประกอบการสามารถนำไปวางแผนทั้งค่าใช้จ่ายและรายได้ ได้แม่นยำมากขึ้น สามารถวางแผนธุรกิจได้ไกลมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดภาระงานด้านธุรการ งานเอกสาร ลดขั้นตอนและเวลาในการเข้าศูนย์บริการ โดยศูนย์บริการสแกนเนียจะทำการเสนอราคาอนุมัติงานซ่อมประกันตามสัญญาบริการให้อัตโนมัติ พูดง่าย ๆ เราจะเหมือนเป็นลูกค้าที่ดูแลผลประโยชน์ให้ลูกค้านั่นเอง เพราะสแกนเนียดูแลให้ทุกขั้นตอน" นายจักรี กล่าว

นายจักรี กล่าวต่อว่า 35 ปีในประเทศไทยของสแกนเนีย เราฟังเสียงจากลูกค้าคนไทยเสมอมา ทำให้เราปรับปรุงเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์ผู้ประกอบการคนไทยมากขึ้น เช่น สัญญาบริการที่คิดตามระยะทางการใช้งาน กิโลเมตรละ 1 บาท โดยทำสัญญากับสแกนเนียในระยะยาว 5 ปีหรือระยะการใช้รถ 6 แสนกิโลเมตร ก็จะชำระค่าสัญญาบริการเพียง 6 แสนบาท (เป็นรูปแบบรายปีหรือแล้วแต่จะตกลงกัน) ทั้งนี้เมื่อซื้อรถบรรทุกสแกนเนียคันใหม่ ลูกค้าจะได้แถมงานซ่อมฟรี 2 ปี (หรือ 270,000 กิโลเมตรอย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) พร้อมบำรุงรักษาฟรี 5 ปี (หรือ 600,000 กิโลเมตรอย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)ไปกับตัวรถอยู่แล้ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า หลังจากนั้นขึ้นอยู่กับการเจรจากับลูกค้ากับสแกนเนียในการขยายสัญญาเพิ่มเติม

นอกจากนี้ นายจักรีกล่าวถึงพื้นฐานของ Connected Service (ระบบเชื่อมต่องานบริการ) ที่มีความเชื่อมโยงกับ Fleet Management System (ระบบช่วยบริหารจัดการฟลีทรถ) ว่า โดยปกติแล้ว รถสแกนเนียจะมีระบบตัวส่งสัญญาณที่ติดตั้งในตัวรถเรียกว่า C300 เป็นอุปกรณ์ที่ส่งข้อมูลจากตัวรถ มาเก็บไว้ในระบบของสแกนเนีย ทำให้เมื่อรถเกิดปัญหา เราสามารถวิเคราะห์ได้จากระยะไกล อีกทั้งศูนย์บริการสามารถรู้และแจ้งให้ลูกค้าได้ทราบก่อนเกิดความเสียหายหนัก ข้อมูลนี้ยังสามารถรู้ถึงพฤติกรรมการขับขี่ จึงสามารถนำมาแนะนำปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพ ประหยัดน้ำมัน ลดการสึกหรอของชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น โดยสแกนเนียมีทีมผู้ฝึกสอนการขับขี่คอยให้บริการในส่วนการแนะนำนี้ด้วย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้รถลูกค้ามีความพร้อมใช้งานสูงสุด ให้ลูกค้าแข่งขันในตลาดแบบไม่พลาดแม้แต่งานเดียว (No room for downtime)


ข่าวบริหารจัดการ+สแกนเนียสยามวันนี้

บลจ.อีสท์สปริง โชว์จ่ายปันผลกองทุนอสังหาฯ และโครงสร้างพื้นฐานต่างประเทศ 3 กองทุน รวม 342 ล้านบาท ดีเดย์ 22 ธ.ค. 68 นี้

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนภายใต้การบริหารจัดการจำนวน 3 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดอีสท์สปริง Asia Pacific Property Flexible (ES-APPF) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย ส่วนอีก 2 กองทุน สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ได้แก่ กองทุนเปิดอีสท์สปริง Property and Infrastructure Income Plus

บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มห... TGE คว้าเรตติ้ง ESG ระดับ A จาก SET ปี 2568 ตอกย้ำผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดที่เติบโตอย่างยั่งยืน — บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE ได...

กรุงศรี โดย นางสาวนิลวรรณ จีระบุญ ประธานค... Krungsri One Payment คว้ารางวัลระดับโลกด้านนวัตกรรมการชำระเงินองค์กร — กรุงศรี โดย นางสาวนิลวรรณ จีระบุญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกรรมการเงิน ธนาคารกรุง...

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่ง... กคช. ร่วม ธอส. จัดโครงการส่งเสริมวินัยการเงินในชุมชน ปี 2568 — นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ มอบหมายให้ นายอธิวัฒน์ ศิลาหม้อม ผู้ช่วยผู้ว่...

บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มห... ASIMAR ขยับมาตรฐานความยั่งยืน สู่ SET ESG Ratings ระดับ "BBB" ประจำปี 2568 — บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR ได้รับการประเมินด้า...