โดย ราเจช ธานการาจ Edge Solutions Evangelist หน่วยธุรกิจ Secure Power ชไนเดอร์ อิเล็คทริค(Schneider Electric)
สิ่งที่เกิดในปี 2020 ได้เปลี่ยนแนวทางการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าในอุตสาหกรรมค้าปลีก ด้วยข้อจำกัดที่ยังคงเปลี่ยนแปลงอยู่อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนความไม่แน่นอนที่อาจทำให้เกิดการล็อคดาวน์ขึ้นอีกในอนาคต ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าผู้ค้าปลีกไม่สามารถพึ่งพาแค่การขายหน้าร้านอย่างเดียวเพื่อสร้างยอดขายได้อีกต่อไป
โดยเฉพาะผู้บริโภคในช่วงเวลานี้ ต่างกำลังมองหาทางเลือกอื่นในการช็อปปิ้ง เช่น การสั่งซื้อทางออนไลน์ ที่มีบริการจัดส่งให้ถึงบ้าน หรือการคลิกซื้อและไปรับสินค้าที่ร้านค้า หรือดูสินค้าจากเว็บและไปช้อปปิ้งที่ร้านค้า ผู้บริโภคล้วนต้องการหาทางเลือกที่มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดและให้ความสะดวกสบายสูงสุดในการจับจ่ายสินค้า
การจะประสบความสำเร็จได้ ผู้ค้าปลีกต้องนำเทคโนโลยีดิจิทัล และทางเลือกเรื่องของระบบออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างตัวตนในระบบดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งผู้ค้าปลีกสามารถขยายกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่าฐานลูกค้าที่มีอยู่ตามปกติ โดยใช้โฆษณาดิจิทัลเพื่อมุ่งเป้าไปยังผู้บริโภคที่ต้องการเจาะจง และเข้าถึงฐานข้อมูลในรถเข็น (cart) ที่ไม่เคยได้ใส่ใจดู และอื่น ๆ อีกมากมายเพราะความเป็นไปได้นั้นมีอยู่อย่างไม่สิ้นสุด
นำเสนอในร้านค้าให้มากกว่า
การนำเสนอที่ครอบคลุมและสอดคล้องกันในทุกภาคส่วน เป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการและเพื่อให้ได้ผลที่ดีเยี่ยม ร้านค้าปลีกจำต้องลงทุนในเทคโนโลยีเช่น IoT, AR และ AI
เนื่องจากลูกค้ากลายเป็นผู้ซื้อที่ฉลาดขึ้น พื้นที่ในร้านค้าปลีกจึงจำเป็นต้องนำเสนอมากกว่าแค่การโชว์สินค้า ร้านค้าต้องนำเสนอประสบการณ์ด้านแบรนด์สินค้าที่น่าประทับใจและเป็นที่จดจำ ประสบการณ์ของแบรนด์เหล่านี้อาจเกิดจากการสร้างความผูกพันของลูกค้าด้วยตัวคน (human touch) หรือเทคโนโลยี เช่น VR และ AR ลองนึกภาพร้านค้าที่คุณสามารถเล่นเกมบาสเก็ตบอลด้วยรองเท้าคู่ใหม่ของคุณ หรือคุณได้ลองเสื้อผ้าผ่านกระจก AR โดยไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าจริงๆ
พื้นที่ค้าปลีกที่คิดค้นขึ้นใหม่นี้ จะต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ได้อยู่บนคลาวด์ซะทั้งหมด
ประโยชน์ของเอดจ์ (Edge)
...ทำไมต้องใช้ เอดจ์คอมพิวติ้ง (Edge Computing)
...ทำไมไม่ใช่แค่ระบบคลาวด์
แม้การประมวลผลแบบคลาวด์ให้ประโยชน์ต่างๆ มากมาย รวมถึงศักยภาพในการปรับขยายระบบ พร้อมให้ความยืดหยุ่นก็จริง อย่างไรก็ตามก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องการเชื่อมต่อเครือข่าย และความล่าช้าในการตอบสนอง (latency) ในขณะที่การประมวลผลแบบเอดจ์ ให้ประสิทธิภาพ และการเชื่อมต่อที่น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น ช่วยให้ระบบทำงานต่อไปได้แม้ว่าเครือข่ายจะล้มเหลวก็ตาม
สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั่วโลกยังคงมาจากการขายในร้านค้าปกติ ด้วยเหตุนี้ร้านค้าประเภทนี้จึงลงทุนในเรื่องของ อุปกรณ์ช่วยในการประมวลผลที่อยู่ใกล้กับผู้ซื้อมากที่สุด ในส่วนของหน้าร้านของร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม จะมีเครือข่ายที่ประกอบด้วย ห้องเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก และเครื่องบันทึกเงินสด พร้อม UPS หรือเครื่องสำรองไฟฟ้าเฉพาะสำหรับร้าน ซึ่งสภาพแวดล้อมเอดจ์แบบใหม่ของร้านค้า จะมุ่งเน้นที่การมอบประสบการณ์ดิจิทัลให้กับลูกค้า และต้องอาศัยแอปพลิเคชันเอดจ์แบบใหม่ที่ให้ข้อมูลที่นำไปใช้งานได้ ในการดำเนินการดังกล่าวฝ่ายไอทีของร้านค้าปลีก ต้องออกแบบจัดวางอุปกรณ์ไอทีไปไว้ที่เอดจ์ หรือใกล้ตำแหน่งการใช้งานที่มากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าองค์ประกอบทางกายภาพและในระบบดิจิทัลจะผสานการทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้การโฮสต์แอปพลิเคชันเหล่านี้ไว้ที่เอดจ์จะช่วยปรับปรุงเรื่องการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ สินค้าคงคลังและซัพพลายเชน เพื่อช่วยลดต้นทุนได้ด้วย
เนื่องจากเอดจ์ได้กลายเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญสำหรับการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลในพื้นที่ ซึ่งไมโครดาต้าเซ็นเตอร์จะให้ระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบบูรณาการที่สามารถตั้งค่าการทำงานล่วงหน้าได้ในแบบ plug and play ซึ่งโหนดของเอดจ์เหล่านี้จะถูกบริหารจัดการผ่านซอฟต์แวร์ระยะไกล ช่วยให้เจ้าหน้าที่ไอทีสามารถดูแลให้ระบบทำงานต่อไปได้ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ที่หน้างานก็ตาม
เทคโนโลยีช่วยให้ทุกอย่างดำเนินต่อไปได้
ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าการต้องเสียลูกค้าไปในระหว่างขั้นตอนการชำระเงิน ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์หรือในร้านค้าปกติก็ตาม ลูกค้ามักจะไม่อดทนรอในเวลาที่ซอฟต์แวร์ประมวลผลการขายมีปัญหา และต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับมาทำงานได้ตามปกติ อย่าปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับการขายของคุณ ควรลงทุนในเทคโนโลยีที่จำเป็นเพื่อให้ทุกอย่างใช้งานได้ดีและต่อเนื่อง เทคโนโลยี อย่างตู้แร็ก หรือ ระบบไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ UPS ระบบรักษาความปลอดภัย ตลอดจนเครื่องมือบริหารจัดการแบบคลาวด์เบส ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของสถาปัตยกรรมเอดจ์ที่แข็งแกร่ง
ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ (ทรู ไอดีซี) ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์และคลาวด์ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ สร้างชื่อเสียงในระดับประเทศ คว้ารางวัล Sustainability Impact Award 2024 จากการประกวดโครงการด้านความยั่งยืนของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำระดับโลกด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน รางวัลนี้มีเป้าหมายเพื่อยกย่ององค์กรที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์โลกที่ยั่งยืน ผ่านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งมีบริษัทชั้นนำหลากหลายแห่งทั่วโลกร่วมส่งผลงานเข้าประกวด และ
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว Galaxy VXL ยูพีเอสสุดล้ำสำหรับ AI ดาต้าเซ็นเตอร์ เครื่องเล็ก แต่พลังงานจัดเต็ม
—
UPS รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อ ปกป้องพลังงานขั้...
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เผยโฉมโซลูชั่นสำหรับ AI ดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านพลังงานและความยั่งยืน
—
ตอกย้ำพันธกิจของบริษัทในการลดคาร์บอนในโครงส...
อาซีฟา รุกตลาดโครงสร้างพื้นฐานพลังงานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ เสริมความเชี่ยวชาญโซลูชันจาก ชไนเดอร์ อิเล็คทริค
—
อาซีฟา (ASEFA) ร่วมมือกับ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค...
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ปลื้ม คว้าใบรับรองความปลอดภัยทางไซเบอร์ขั้นสูง ให้โซลูชั่น EcoStruxure(TM) IT DCIM ได้สำเร็จเป็นเจ้าแรกในอุตสาหกรรม
—
ชไนเดอร์ อิเล็ค...
ปรับโฉมดาต้าเซ็นเตอร์ ให้พร้อมสำหรับ AI
—
โดย นาตาลยา มากาโรชกีนา รองประธานอาวุโส, Secure Power International, ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในปีที่ผ่านมา...
ภัทร โปรเกรส ใช้ EcoStruxure เสริมทัพความแข็งแกร่งด้านดาต้าเซ็นเตอร์
—
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดกา...
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค สร้างแพลตฟอร์มความรู้ระดับมือโปร ช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญดาต้าเซ็นเตอร์
—
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ผู้นำด้านดิจ...
แนวทางปฏิบัติในการปรับปรุงดาต้าเซ็นเตอร์ให้ทันสมัย
—
โดย ดร.บิน ลู รองประธานอาวุโส ระบบดาต้าเซ็นเตอร์ และดาต้าเซ็นเตอร์แบบโมดูลาร์สำเร็จรูป ชไนเดอร์ อิเ...
ตัวชี้วัด คือการส่งสาร เพื่อก้าวสู่มาตรฐานความยั่งยืนที่ครอบคลุมสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์
—
โดย คาร์สเตน โบมานน์ ผู้อำนวยการฝ่ายสถาปัตยกรรมด้านโซลูชันและโครงกา...