AIS Business 5G ในฐานะ Your Trusted Smart Digital Partner เผยเทรนด์ดิจิทัลเทคโนโลยีที่ธุรกิจและองค์กรต้องมีเพื่อผ่าวิกฤตท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หวังช่วยปลดล็อคศักยภาพปรับตัวเพื่อความอยู่รอดขององค์กรและธุรกิจทุกอุตสาหกรรม ชี้ 10 เทรนด์เทคโนโลยีที่ทุกองค์กรและธุรกิจต้องมี เพื่อเร่งปรับตัวและนำมาใช้งานจริง พร้อมทั้งยังได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรอย่าง ไมโครซอฟท์ ผู้นำดิจิทัลเทคโนโลยีระดับโลก มาเผยมุมมองที่องค์กรและธุรกิจต้องเร่งดำเนินการปรับตัวเพื่อมองหา New way, New ME เพื่อช่วยผลักดันให้ทุกองค์กรและธุรกิจสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและปรับใช้ได้อย่างมั่นคง
นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าองค์กร AIS Business เปิดเผยว่า จากผลกระทบของโควิด-19 ตั้งแต่ในปี 2020 จนถึงปัจจุบันได้สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในการเป็นตัวเร่งให้กับทุกองค์กรและธุรกิจก้าวข้ามอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยโควิด-19 มีส่วนอย่างมากในการเร่งให้องค์กรและธุรกิจทุกขนาดมีการปรับตัวอย่างรวดเร็วจากเดิม 18 เท่า เป็น 40 เท่า (จากการสำรวจของ McKinsey & Company) โดยมองหาเครื่องมือที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเดินต่อได้อย่างไม่สะดุด อาทิ การทำงานแบบ Remote, การทำงานจากที่บ้านหรือ Work From Home เป็นต้น อีกทั้งในวันนี้มีแนวโน้มว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันผู้คนไปอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นการทำธุรกิจและการขับเคลื่อนองค์กรในวันนี้คงไม่ได้มีแค่การใช้งานแบบ Online และ Offline แบบ 50:50 อีกต่อไป เพราะในวันนี้เทคโนโลยีได้เข้ามาส่วนช่วยให้การขับเคลื่อนองค์กรและธุรกิจ โดยมี 10 เทคโนโลยีที่ทุกองค์กรต้องให้ความสำคัญและพร้อมนำไปใช้ในทุกกระบวนการ เพื่อสามารถเดินหน้าฝ่าวิกฤตสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เพื่อก้าวสู่โลกของการทำ Digital Business ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดย 10 เทรนด์เทคโนโลยีที่องค์กรและธุรกิจต้องใช้เพื่อการปรับ ได้แก่
"สิ่งสำคัญที่ดีที่สุดในการ Digital Transformation คือการมีพันธมิตรที่ดี ในการสร้าง Ecosystem เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงของการทำงานให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง ผสมผสานกับความเชี่ยวชาญของเทคโนโลยีซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างมากในการทำ Digital Business เพื่อสร้างธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน โดย AIS ได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้งในประเทศและระดับโลกเพื่อสร้างสรรค์และออกแบบนวัตกรรมโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์กับองค์กรและธุรกิจในประเทศไทย โดย AIS ถือเป็นพันธมิตรรายแรกของ Microsoft ในประเทศไทยที่ให้ความร่วมมือกันในการอินทิเกรตเทเลคอมโซลูชันกับคลาวด์ระดับโลกของ Microsoft โดยให้บริการ Microsoft Edge Node และ AIS Azure ExpressRoute ทางด้านธุรกิจ นอกจากนี้ยังเป็นพันธมิตรในการเป็น Cloud Service Provider ในกับทาง Microsoft ด้วย" นายธนพงษ์ กล่าว
ด้าน นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทุกองค์กรและธุรกิจเกิดความยากลำบากและเป็นปัญหาสำหรับทุกคน แต่ในทางกลับกันภายใต้ปัญหานั้นก็นำมาซึ่งโอกาสมากมาย โดยโอกาสในที่นี่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อต้องคิดใหม่ทำใหม่ หรือ "New way, New ME" แต่ในการคิดใหม่ทำใหม่นั้นอาจจะต้องมานั่งมองหาว่าสิ่งที่อยากจะทำคืออะไร เพราะในขณะที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงอยู่รอบๆ ตัวเรา การขับเคลื่อนและดำเนินธุรกิจยังคงต้องเดินหน้าต่อไป โดยขอแนะนำ 8 สิ่งที่องค์กรและธุรกิจต้องเร่งดำเนินการปรับตัวเพื่อมองหา New way, New ME ดังนี้
"Digital Transformation ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วย Technology แต่ขับเคลื่อนด้วย Business เมื่อ Business ไปได้แล้ว Digital technology จึงเข้ามา support ตัวอย่างเช่น Intelligent Cloud และ Intelligent Edge เราลงทุนมากกว่า 200 Data center ทั่วโลก เราต้องการทำให้เป็นเหมือนน้ำ ไฟ ที่ทำให้ทุกคนเข้าถึงได้จริง ๆ ไม่เพียงแต่ Intelligent Cloud เท่านั้น เรายังให้ความสำคัญกับ Intelligent edge ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันมีอุปกรณ์ IoT มากมายที่มีอุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่สามารถประมวลผลได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องส่งกลับมาที่ระบบ cloud ไม่ว่าจะเป็น Autonomous Cars, Robotics, Smart City ต่างๆ ดังนั้น AIS จึงร่วมกับ Microsoft ทำตรงนี้เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้รับบริการเหล่านี้เพื่อช่วยเสริมศักยภาพให้ตอบโจทย์ Business ได้" นายธนวัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ AIS Business ยังได้แนะแนวทางสำหรับธุรกิจทุกขนาดในการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเต็มประสิทธิภาพ พร้อมปรับทิศทางตามโจทย์ใหม่ ให้ก้าวสู่ความสำเร็จในยุคแห่งนวัตกรรม ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวระหว่าง บุคลากร กระบวนการ เทคโนโลยี และข้อมูล โดยแนวทางที่แนะนำ คือหลัก 4 รู้ ได้แก่ รู้ตนเอง, รู้ลูกค้า, รู้เทคโนโลยี, รู้ partner ต้องประกอบไปด้วย 4 อย่างนี้เข้าด้วยกัน จึงจะนำไปสู่กระบวนการในการหาทางออกด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ได้
"AIS Business มุ่งมั่นที่จะเดินสร้างแพลตฟอร์มและเวทีแห่งการแบ่งปันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการรวมตัวกันในแง่ของเทคโนโลยี และความเชี่ยวชาญของหลายๆ ภาคส่วน รวมทั้งภาคการศึกษาและภาคราชการ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่เรามองว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างมิติและแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นมาในการสนับสนุนธุรกิจในประเทศไทยและทำให้ประเทศไทยก้าวสู่ industy 4.0 แบบเต็มรูปแบบ" นายธนพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ประกอบการไทย ที่สนใจสมัครหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อทีมขายที่ดูแลองค์กรของท่าน หรือ เว็บไซต์ AIS Business https://business.ais.co.th/
Tanapong Ittisakulchai, Chief Enterprise Business Officer at Advance Info Services Public Company Limited (AIS), expressed enthusiasm about supporting businesses of all sizes in adopting technology for digital transformation. This collaboration with Krungthai Bank leverages the Krungthai BUSINESS platform to offer AIS Business customers "PromptBIZ," a comprehensive financial and payment infrastructure for business transactions. This digital solution facilitates seamless cross-bank operations,
IT SPU จัดทริปทัวร์ เรียนรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ศูนย์นวัตกรรม 5G A-Z Center แห่งแรกของประเทศไทย ในรูปแบบ Hybrid Tour (Onsite และ Online)
—
คณะเทคโนโลยีสารสน...
AIS ร่วมมือ MSyne Innovations รุกเดินหน้าสร้าง `COLLABORATION PLATFORM` จัดเต็มเทคโนโลยีดิจิทัล ขับเคลื่อนเคียงคู่ธุรกิจ
—
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิ...
AIS Business ก้าวล้ำนำการใช้เทคโนโลยี 5G สำหรับภาคธุรกิจไทย ด้วยการผสานความร่วมมือ ดีป้า สร้างศูนย์กลางนวัตกรรมและทดสอบ 5G แห่งแรกที่ EEC
—
AIS ยังคงเดินห...
AIS Business เปิดให้บริการ Open Source Support Service บน Local Cloud เป็น ครั้งแรกในไทย พร้อมให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาการใช้งาน
—
AIS Business ประกาศเปิดใ...