DEMCO ส่งซิกผลงานสดใส ทยอยรับรู้จากแบ็คล็อคตุนไว้กว่า 4,285 ลบ. ลุยประมูลงานใหม่ เน้นโครงการใหญ่มูลค่าสูงหนุนมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น

14 Dec 2021

บมจ.เด็มโก้ (DEMCO) ประเมินภาพรวมธุรกิจโค้งสุดท้ายปีนี้สัญญาณดี หลังนโยบายเปิดประเทศส่งผลให้ภาครัฐเอกชนเปิดประมูลโครงการใหม่มากขึ้น ฟาก ซีอีโอ "พงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์" ระบุปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้มูลค่ารวม 4,285 ล้านบาท เดินหน้าทยอยรับรู้ต่อเนื่อง พร้อมลุยประมูลงานใหม่ โดยเฉพาะงาน EPC มีมูลค่าโครงการสูงขึ้น ช่วยสนับสนุนความสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้น ผลักดันอนาคตเติบโตอย่างมั่นคง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้สม่ำเสมอ

DEMCO ส่งซิกผลงานสดใส ทยอยรับรู้จากแบ็คล็อคตุนไว้กว่า 4,285 ลบ. ลุยประมูลงานใหม่ เน้นโครงการใหญ่มูลค่าสูงหนุนมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น

นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO เปิดเผยว่าภาพรวมการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 4/2564 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังจากที่มีนโยบายเปิดประเทศได้เริ่มขับเคลื่อนและมีความชัดเจนมากขึ้น แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ที่กำลังกลายพันธุ์ แต่คาดว่าภาครัฐและเอกชนจะยังคงเดินหน้าลงทุนในโครงการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนให้ในปีนี้บริษัทสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

"ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่แล้ว 4,285 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ ในปี 2565 - 2566 ซึ่งเป็นงานออกแบบจัดหาพร้อมติดตั้ง (EPC) ในโครงการระบบวิศวกรรมโรงงานไฟฟ้า โครงการโรงไฟฟ้าหมุนเวียน ขณะที่มีแผนที่จะเดินหน้าประมูลงานโครงการใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการประมูลงานโครงการของภาครัฐ ทั้งในส่วนโครงการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งจะมีการเปิดประมูลงานในส่วนงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) เฉลี่ย 1 หมื่นล้านบาทต่อปี และโครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอเข้าประมูลงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยและสายส่ง และมีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะสนับสนุนให้บริษัทเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง"

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่าในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้ชนะงาน EPC ที่มีมูลค่างานในระดับที่สูงขึ้น เช่น โครงการสร้างระบบจำหน่ายไฟฟ้าสำหรับทางด่วนที่เชื่อมระหว่างเมือง 2 สาย บางใหญ่ - กาญจนบุรี (M81) และบางปะอิน - นครราชสีมา มูลค่ารวม 1,130 ล้านบาท รวมทั้งมูลค่าโครงการที่จะเปิดให้ประมูลใหม่ ส่วนมากจะมีมูลค่าโครงการสูงขึ้น ซึ่งบริษัทมีความชำนาญและมีความสามารถบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ดังนั้นน่าจะช่วยสนับสนุนให้ความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต

นอกจากนี้บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ไปสู่ธุรกิจการทำสถานีไฟฟ้าย่อย สำหรับรองรับสถานีชาร์จไฟฟ้า การบริหารจัดการโครงข่าย Micro Grid รวมถึงการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนประเภท BIOMASS, BIOGAS เพื่อต่อยอดธุรกิจหลัก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนอนาคตให้มีแหล่งรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

อนึ่ง ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 2564 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,191.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.4% จากงวดเดียวกันปีก่อนนี้มีรายได้รวมเท่ากับ 1,733.7 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 30.7 ล้านบาท ส่วนงวดไตรมาส 3/2564 มีรายได้รวมอยู่ที่ 857.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวมเท่ากับ 695.0 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 23.3 ล้านบาท