'โชติวัฒน์อุตสาหกรรมการผลิต' ชูศักยภาพผู้ผลิตอาหารทะเลแปรรูปครบวงจรรายใหญ่ของไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

บมจ.โชติวัฒน์อุตสาหกรรมการผลิต หรือ CMCF โชว์ศักยภาพผู้ผลิตอาหารทะเลแปรรูปครบวงจรรายใหญ่ของไทย มุ่งพัฒนาและผลิตอาหารด้วยนวัตกรรมและมีความปลอดภัยให้กับสังคมโลก วางกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิตช่วยลดการเพิ่มแรงงานใหม่ในอนาคต พร้อมรุกขยายสินค้าอาหารสำเร็จรูป เพิ่มศักยภาพการเติบโต ล่าสุดได้รับการอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์จากสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว และอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเสนอขายหุ้น IPO

'โชติวัฒน์อุตสาหกรรมการผลิต' ชูศักยภาพผู้ผลิตอาหารทะเลแปรรูปครบวงจรรายใหญ่ของไทย

นายสมนึก โชติวัฒนะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โชติวัฒน์อุตสาหกรรมการผลิต จำกัด (มหาชน) หรือ CMCF เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจมากว่า 4 ทศวรรษ โดยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปบรรจุกระป๋องและถุงสูญญากาศ ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงสำเร็จรูป (Pet Food) ผลิตภัณฑ์อื่นๆ และผลิตภัณฑ์พลอยได้จากการแปรรูปอาหารทะเล (By Product) เพื่อจำหน่ายแก่ลูกค้าทั่วโลก ภายใต้วิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ ในการพัฒนาและผลิตอาหารด้วยนวัตกรรมและมีความปลอดภัยให้กับสังคมโลก 'โชติวัฒน์อุตสาหกรรมการผลิต' ชูศักยภาพผู้ผลิตอาหารทะเลแปรรูปครบวงจรรายใหญ่ของไทย

บริษัทฯ แบ่งธุรกิจหลักเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปบรรจุกระป๋องและถุงสูญญากาศ ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลักกว่า 80% ของรายได้จากการขายรวม ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปลาทูน่าและปลาทะเลอื่นๆ พร้อมรับประทาน (Standard Product) และผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปจากปลาทูน่าและปลาทะเลอื่นๆ แบบปรุงรสชาติพร้อมรับประทาน (Value-Added Product) 2.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงสำเร็จรูป (Pet Food) 3.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อื่นๆ และ 4.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลอยได้จากการแปรรูปอาหารทะเล (By Product) ได้แก่ ปลาป่นเพื่อเป็นอาหารปศุสัตว์

"ปัจจุบันเราถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตและแปรรูปปลาทูน่าแบบครบวงจรรายใหญ่ของประเทศ โดยมีกำลังการผลิตอาหารทะเลแปรรูปบรรจุกระป๋องและถุงสูญญากาศ และผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงสำเร็จรูปรวม 87,900 ตันน้ำหนักสุทธิ (Net Weight) ต่อปี สามารถผลิตสินค้าจำนวนมากและมีความหลากหลายด้วยต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำ โดยเราให้ความสำคัญกับการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และการส่งมอบสินค้าที่ตรงต่อเวลาในราคาที่แข่งขันได้" นายสมนึก กล่าว

ทั้งนี้ ในปี 2563 บริษัทฯ ได้รุกขยายฐานการผลิตในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นแหล่งจับปลาทูน่าขนาดใหญ่ของโลกและเป็นแหล่งการประมงอย่างยั่งยืน (Sustainable Fishing) ที่สำคัญของโลก โดยเข้าถือหุ้น 49% ใน PT Lautindo Synergy Sejahtera หรือ LSS ซึ่งประกอบธุรกิจแปรรูปและจำหน่ายปลาทูน่าตัดแต่งแช่แข็ง มีกำลังการผลิต 12,700 ตันน้ำหนักสุทธิ (Net Weight) ต่อปี เพื่อนำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์ตั้งต้นในการผลิตปลาทูน่าแปรรูปของบริษัทฯ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการจัดหาปลาและความเสี่ยงจากการขาดแคลนแรงงาน รวมถึงรองรับแผนงานรุกขยายตลาดในภูมิภาคเอเชีย ยุโรปและอเมริกาเหนือ

บริษัทฯ วางกลยุทธ์การเติบโต โดยบริษัทฯ จะเน้นขยายฐานลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงสำเร็จรูป ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นและมีการเติบโตสูง และขยายตลาดผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปที่ใช้วัตถุดิบจากการประมงอย่างยั่งยืนซึ่งมีแนวโน้มเติบโตขึ้น ตลอดจนมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิตภายในโรงงานเพื่อลดการเพิ่มแรงงานในอนาคต และ LSS ในอินโดนีเซียมีแผนที่จะผลิตและจำหน่ายปลาทูน่าแปรรูปถุงสูญญากาศและผลิตภัณฑ์อื่นๆ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังใช้กลยุทธ์การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและลดของเหลือจากกระบวนการผลิต (Zero Waste) โดยการนำผลพลอยได้ในกระบวนการแปรรูปปลาทูน่ามาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต ซึ่งจะเพิ่มรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น รวมถึงลดค่าใช้จ่ายจากการบำบัดน้ำเสียในกระบวนการผลิต

นอกจากนี้ บริษัทฯ จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากการผลิตและจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ได้แก่ 'เอ็มโปร' ผลิตภัณฑ์อาหารเหลวที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ (Functional Food) และมีคุณค่าทางโภชนาการ เจาะกลุ่มผู้ดูแลสุขภาพและผู้สูงวัย โดยเริ่มจำหน่ายแก่โรงพยาบาลในปีที่ผ่านมา และ 'อีซี่ ควิก' ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปผลิตจากเนื้อสัตว์ ผัก และธัญพืชพร้อมรับประทาน เจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรที่ต้องการอาหารสำเร็จรูปพร้อมทานเพื่อให้บริการหรือ จัดงานต่างๆ

ทั้งนี้ หลังจากบริษัทฯ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขออนุมัติเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 187,500,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 30.0 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 125,000,000 หุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย CH Group Capital Limited จำนวนไม่เกิน 62,500,000 หุ้น ปัจจุบันได้รับการอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ และอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการเสนอขายหุ้น IPO

นายสมบูรณ์ โชติวัฒนะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท โชติวัฒน์อุตสาหกรรมการผลิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงงานผลิตในประเทศ 2 แห่ง ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ประกอบด้วย โรงงานผลิตอาหารทะเลแปรรูปบรรจุกระป๋องและถุงสูญญากาศ อาหารสัตว์เลี้ยงสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์อื่นๆ และโรงงานผลิตปลาป่นเพื่อเป็นอาหารปศุสัตว์ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทย่อย รวมถึง โรงงานแปรรูปและจำหน่ายปลาทูน่าตัดแต่งแช่แข็งในอินโดนีเซียภายใต้การดำเนินงานของ LSS

ทั้งนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนากระบวนการผลิตสินค้าภายในโรงงาน จนได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากลต่างๆ อาทิ ใบรับรองห่วงโซ่การคุ้มครอง (Chain of Custody) ตามมาตรฐานการรับรองอาหารทะเลจากการประมงธรรมชาติอย่างยั่งยืน (Marine Stewardship Council หรือ MSC), มาตรฐานโคเชอร์ (Kosher) รองรับตลาดในกลุ่มผู้บริโภคชาวยิวที่นับถือศาสนาจูดาย ฯลฯ และให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว จึงเกิดเทรนด์การบริโภคอาหารทะเลแปรรูปบรรจุกระป๋องและถุงสูญญากาศ ที่ใช้วัตถุดิบจากการทำประมงอย่างยั่งยืน (Sustainable Seafood) การทำประมงที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมแปรรูปปลาทูน่า โดย Grand View Research องค์กรด้านการวิจัยระดับโลกประเมินว่าในปี 2562 อุตสาหกรรมปลาทูน่าแปรรูปทั่วโลกมียอดขายรวม 11,721 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 17,331.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2570 หรือเติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปี

"เราเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิต เช่น การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล โดยติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสีย Anaerobic Fixed Film Reactor ที่ทันสมัยและประหยัดพลังงาน การนำก๊าซชีวภาพที่เกิดจากปฏิกิริยาย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสียมาใช้ประโยชน์ในการอุ่นน้ำป้อนก่อนเข้าบอยเลอร์ ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงในการผลิตไอน้ำ เพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อม" นายสมบูรณ์ กล่าว


ข่าวโชติวัฒน์อุตสาหกรรมการผลิต+อาหารทะเลแปรรูปวันนี้

ตะลุยโรดโชว์ครั้งที่ 2 "Phangnga Fair 2025" วันที่ 21-25 มิถุนายน 2568 ฟิน กิน ช้อป สินค้าอัตลักษณ์ สินค้าชุมชน อาหารทะเล สินค้าเด่นของจังหวัดพังงา

จังหวัดพังงาจัดกิจกรรมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าอัตลักษณ์พังงา เดินสายโรดโชว์อย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 สำหรับ "Phangnga Fair 2025" เปิดบ้านจัดใหญ่ชวนชิม ช้อปสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนมากมาย อาทิ สินค้าเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูป สินค้าชุมชน อาหารทะเล และอาหารทะเลแปรรูป รวมทั้งสินค้าขึ้นชื่อและหายากของจังหวัดพังงา ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียนสาลิกาพังงา ข้าวไร่ดอกข่าพังงา มังคุดทิพย์พังงา และปลิงทะเลเกาะยาว พร้อมสนุกกับกิจกรรมสินค้านาทีทอง ลุ้นรับของรางวัล เพลิดเพลินกับศิลปินชื่อดังทุกวัน งานจัดระหว่างวันที่ 21

คุณยุวรินทร์ ศรีทอง ผู้จัดการบริหารบริษัท... พีเอฟพี ฉลองเปิดสาขาใหม่ 'Shop PFP สาขา บางบอน' ชวนชิม-ช็อป รับโปรโมชั่น ส่งท้ายปี — คุณยุวรินทร์ ศรีทอง ผู้จัดการบริหารบริษัท พี.เอฟ .พี. เทรดดิ้ง จำกัด ...