คาร์เทียร์ (Cartier) แบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาสัญชาติฝรั่งเศส สานต่อความคลาสสิกอันไม่มีที่สิ้นสุดของแคมเปญ The Culture of Design หรือศิลปะแห่งการออกแบบ นำร้านคาร์เทียร์ไอคอนิคป๊อปอัพ กลับมาอีกครั้ง พร้อมเชิญชวนทุกท่านร่วมค้นหาและสัมผัสกับคอลเลคชั่นอันโดดเด่นทั้ง 7 อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาอย่างยาวนาน ได้แก่ บัลลง เบลอ (Ballon Bleu), จุสต์ เอิง คลู (Juste un Clou), แทงก์ (Tank), ทรินิตี้ (Trinity), ปองแตร์ (Panthere), เลิฟ (Love) และซานโตส (Santos) ผ่านร้านคาร์เทียร์ไอคอนิคป๊อปอัพที่จะกลับมาสร้างสีสันอีกครั้ง ณ ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม พร้อมเปิดตัวมินิเกมในช่องทางดิจิทัล เพียงแอดไลน์ @CartierTH ร่วมค้นหาไอคอนของตัวเองและเลือกสรรเครื่องประดับและเรือนเวลาชิ้นโปรดให้กับตัวเองหรือคนพิเศษ ณ ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม ตั้งแตวันนี้ - 15 กุมภาพันธ์ 2565
แคมเปญ The Culture of Design หรือศิลปะแห่งการออกแบบ เป็นแคมเปญระดับโลกของคาร์เทียร์ที่เน้นย้ำเอกลักษณ์ของชิ้นงานไอคอนของแบรนด์ ถ่ายทอดผ่านลายเส้นอันงดงามของคอลเลคชั่นอันคลาสสิก ทั้ง 7 ที่มีเอกลักษณ์ดีไซน์เฉพาะตัว ประกอบไปด้วย คอลเลคชั่นบัลลง เบลอ (Ballon Bleu), จุสต์ เอิง คลู (Juste un Clou), แทงก์ (Tank), ทรินิตี้ (Trinity), ปองแตร์ (Panthere), เลิฟ (Love) และซานโตส (Santos) ทุกคอลเลคชั่นล้วนเป็นผลงานที่จดจำได้ตั้งแต่แรกเห็นและได้รับการสร้างสรรค์ผ่านแนวคิดอันแหวกแนว ซึ่งถูกหล่อหลอมและฝังรากลึกอยู่ในจิตวิญญาณของคาร์เทียร์ ซึ่งมุ่งมั่นรังสรรค์ผลงานศิลปะผ่านคอลเลคชั่นเครื่องประดับและเรือนเวลา ที่มาพร้อมกับดีไซน์โดดเด่นจนยากที่จะละสายตาคอลเลคชั่นอันเป็นไอคอนทั้ง 7 ได้แก่
- บัลลง เบลอ เดอ คาร์เทียร์ (Ballon Bleu de Cartier)
นาฬิกาบัลลง เบลอ (Ballon Bleu de Cartier) ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเมื่อปีค.ศ. 2007 คาร์เทียร์ได้เพิ่มมิติให้กับนาฬิกาหน้าปัดทรงกลม เกิดเป็นหน้าปัดทรงโค้งนูนแต่ยังคงความสมดุลระหว่างมิติและเส้นสายอย่างสมบูรณ์แบบ เม็ดมะยมสีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ถูกซ่อนไว้ในวงแหวนกลมเล็กอย่างแนบเนียนที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา
- จุสต์ เอิง คลู (Juste un Clou)
คอลเลคชั่นจุสต์ เอิง คลู (Juste un Clou) ถูกสร้างสรรค์ขึ้นที่เมืองนิวยอร์กในยุค 1970 โดย อัลโด ซิปูโย (Aldo Cipullo) ดีไซเนอร์ของคาร์เทียร์ได้นำรูปทรงตะปูที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปมาตีความใหม่เป็นเครื่องประดับอันทรงคุณค่า ด้วยเส้นสายโค้งมน ทว่ามีดีไซน์เฉียบคม พร้อมสัดส่วนที่รับกับข้อมืออย่างลงตัว
- แทงก์ (Tank)
เมื่อปีค.ศ. 1917 หลุยส์ คาร์เทียร์ ได้นำแรงบันดาลใจจากความคมชัดของเส้นสายต่างๆ และภาพจากมุมมองด้านบนของรถถังมาสร้างสรรค์เป็นรูปทรงใหม่ให้กับนาฬิการุ่นแทงก์ ซึ่งมีเอกลักษณ์เป็นโลหะสองชิ้นที่ประกบตัวเรือนทรงเหลี่ยมด้วยหลักการออกแบบกราฟฟิกให้คานทรงเหลี่ยมสองชิ้นที่ประกบตัวเรือนเป็นดั่งล้อรถ และตัวเรือนดุจหอบังคับการ โดยที่การประกอบตัวเรือนกับสายนาฬิกาต้องกลมกลืนจนเกือบจะเป็นเส้นเดียวกันเพื่อรักษาหัวใจหลัก ของแรงบันดาลใจไว้
- ทรินิตี้ (Tritiny)
แหวนทรินิตี้ เป็นผลงานการออกแบบของหลุยส์ คาร์เทียร์เมื่อปีค.ศ.1924 ด้วยการเผยความงดงามของวงแหวนสีทองไวท์โกลด์ เยลโลโกลด์และพิงค์โกลด์ 3 วงที่มีเส้นสายเรียบง่ายและขนาดสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบซึ่งกระหวัดพันเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
- ปองแตร์ เดอ คาร์เทียร์ (Panthere de Cartier)
นาฬิกาปองแตร์ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเมื่อปีค.ศ.1983 ให้เป็นมากกว่างานศิลปะ ด้วยตัวเรือนทรงเหลี่ยมมุมมน เส้นสายที่กลมกลืนอย่างไร้รอยต่อของตัวเรือนและสายนาฬิกา รวมถึงหมุดตอกที่เห็นบนกรอบตัวเรือน คาร์เทียร์ปรารถนาที่จะให้นาฬิกาปองแตร์รักษาความความโดดเด่นของเส้นสายแต่ยังความอ่อนช้อย ซึ่งทำให้เรือนเวลารุ่นนี้เป็นเสมือนเครื่องประดับในคราวเดียวกัน โดยนาฬิกาเรือนนี้มีชื่อเดียวกับกำไลข้อมือที่สะท้อนความเคลื่อนไหวของเสือแพนเตอร์ สัตว์ที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ประจำเมซง นาฬิกาเรือนนี้ได้ถูกนำมาออกแบบตีความใหม่อีกครั้งในปีค.ศ. 2017 ถ่ายทอดนิยามความเป็นอิสตรีที่เปี่ยมสุข เด็ดเดี่ยว และเป็นอิสระ
- เลิฟ (Love)
เลิฟ คือเครื่องประดับที่สะท้อนวิสัยทัศน์ด้านการดีไซน์ของคาร์เทียร์ และเส้นสายที่คมชัดคือความสมบูรณ์แบบ กำไลข้อมือทรงรีนี้ถูกสร้างสรรค์โดย อัลโด้ ซิพูลโล (Aldo Cipullo) ที่เมืองนิวยอร์กเมื่อปีค.ศ.1969 ด้วยการนำทองคำหรูหราทรงโค้งสองชิ้นมาประกอบเข้ากันด้วยสกรูและไขควงที่ให้มาโดยเฉพาะ
- ซานโตส เดอ คาร์เทียร์ (Santos de Cartier)
นาฬิกาซานโตสถูกสร้างสรรค์ขึ้นเมื่อปีค.ศ.1904 บนแนวคิดเรื่องรูปทรง รสนิยมแบบเรียบง่าย ความถูกต้องของสัดส่วนและรายละเอียดที่ปราณีตซึ่งเป็นครั้งแรกที่คาร์เทียร์ออกแบบนาฬิกาข้อมือที่มีหน้าปัดสี่เหลี่ยม ขณะที่ในยุคนั้นนาฬิกาพกมักมีทรงกลม ส่วนสกรูที่มักถูกซ่อนไว้อยู่เสมอในเทคนิคการประกอบเรือนเวลาชั้นสูงก็กลับปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดและกลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความสวยงามของคอลเลคชั่นในที่สุด
เพื่อตอกย้ำความเป็นแบรนด์เครื่องประดับและเรือนเวลาชั้นนำที่มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน คาร์เทียร์จึงสานต่อความคลาสสิกอันไม่มีที่สิ้นสุดของแคมเปญ The Culture of Design หรือศิลปะแห่งการออกแบบ และนำร้านคาร์เทียร์ไอคอนิคป๊อปอัพกลับมาอีกครั้ง ภายในร้านผู้เยี่ยมชมจะเพลิดเพลินไปกับการเลือกชมเครื่องประดับและเรือนเวลา พร้อมทั้งรับคำแนะนำเกี่ยวกับแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างใกล้ชิดจาก Cartier Ambassador นอกจากนี้ คาร์เทียร์ยังเปิดตัวมินิเกมสุดพิเศษที่ออกแบบมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เปิดโอกาสให้ทุกท่านร่วมค้นหาไอคอนในแบบฉบับของตัวเอง เพียงเพิ่มเพื่อนกับ @CartierTH เพื่อร่วมสนุกพร้อมรับของที่ระลึกเป็น Cartier Hand Sanitizer
ทั้งนี้ คาร์เทียร์มีมาตรการณ์ความควบคุมความสะอาดและความปลอดภัยอย่างสูงสุด จำกัดจำนวนคนภายในร้าน พร้อมทำความสะอาดทุกจุดสัมผัสตลอดวัน และมีเจลแอลกอฮอล์ให้บริการแก่ลูกค้าทุกท่าน พนักงานในร้านคาร์เทียร์ทุกคนได้รับวัคซีนแล้ว ใส่หน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัดและได้รับการตรวจสอบแล้วว่าไม่ได้เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง
ร่วมสัมผัสประสบการณ์ศิลปะแห่งการออกแบบ The Culture of Design ณ ร้านคาร์เทียร์ไอคอนิคป๊อปอัพ พร้อมเลือกสรรเครื่องประดับและเรือนเวลาชิ้นโปรดให้กับตัวเองหรือคนพิเศษได้ ตั้งแต่วันนี้ - 15 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ชั้น M ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม
อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ จัดงานเปิดตัวขนมไหว้พระจันทร์
คาร์เทียร์เผยโฉมเรือนเวลา "Santos de Cartier" ขนาดเล็ก
คาร์เทียร์รังสรรค์ความแตกต่างสองขั้วด้วยดีไซน์ใหม่ ในคอลเลคชั่น "Clash de Cartier"
TARIZ จับมือ UNIVERSAL ครั้งแรก! เจ้าแรกเจ้าเดียวเมืองไทย เปิดตัวคอลเลคชั่นเครื่องประดับ Jurassic World
'The NewsMakers' จัดงาน 'Clutter Sale for Charity' ครั้งที่ 15 ตลาดนัดการกุศลแบ่งปันเพื่อสังคม
คาร์เทียร์รังสรรค์คอลเลคชั่นไอคอนิค "Trinity" ในดีไซน์ใหม่ ผสานลวดลายสรรพสัตว์แห่งเมซง และจิวเวลรีทรงคุชชั่น
ครั้งแรก!!! วงการจิวเวลรี่ เปิดตัวแบรนด์ LUCKANA (ลัคนา) X หมอช้าง รับเทรนด์กระแสแฟชั่นแฝงมู ต้อนรับปีมะเส็ง! 7วันเกิด 7สีเสริมเฮง
คาร์เทียร์เผยคอลเลคชั่นกำไลข้อมือ LOVE เครื่องประดับไอคอนิค เพิ่มความหลากหลายให้ดีไซน์คลาสสิกเหนือกาลเวลา
ยูบิลลี่ ไดมอนด์ ผลึกกำลังบัตรเครดิตเคทีซี แลกคะแนนรับเพชรแท้ เอาใจนักช้อปจัดเต็มโปรแกรมพิเศษสุดคุ้มส่งท้ายปี 2024