กองทุนบัวหลวงชี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังน่าลงทุน กำไรของบริษัทจดทะเบียนยังเติบโตได้ดี ทยอยสะสมได้ แนะนำ B-USALPHA เป็นการลงทุนหลักในพอร์ต เสริมด้วยกองทุน Thematics
นายสันติ ธนะนิรันดร์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ กองทุนบัวหลวง เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนจากนี้ไปจนถึงช่วงสิ้นปี จะยังคงเห็นเม็ดเงินไหลเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Markets) เนื่องจากมีอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในระดับที่สูง ทำให้เศรษฐกิจดำเนินกิจกรรมตามปกติได้ โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งมีความน่าสนใจ เนื่องจากนโยบายการเงินและการคลังยังเอื้ออำนวย
สำหรับนโยบายการเงินนั้น ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศแล้วว่า อาจจะเริ่มการลดซื้อสินทรัพย์สภาพคล่อง (QE Tapering) ภายในสิ้นปีนี้ แต่ยังไม่จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยทันที หลังจากจบการทำ QE Tapering เป็นการส่งสัญญาณว่า นโยบายการเงินยังคงเกื้อหนุนตลาดหุ้นต่อไปทำให้เงินลงทุนวิ่งเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นอยู่
ด้านนโยบายการคลังของสหรัฐฯ ยังคงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป โดยประธานาธิบดี โจ ไบเดน เดินหน้าโครงการใหญ่ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญๆ เช่น โครงการลงทุนนวัตกรรมและการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการสร้างงาน 5.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และงบประมาณช่วยเหลือสังคม 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะถัดไป
นายสันติ กล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เติบโตตามขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ขึ้น จากสถิติย้อนหลัง 94 ปี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนเป็นบวกถึง 69 ปี และให้ผลตอบแทนเป็นลบ เพียง 25 ปี ดังนั้น ถ้าลงทุนแบบมีวินัยในระยะยาว ตลาดหุ้นสหรัฐฯ สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้
ส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับสูงกว่า 20 เท่า ถึงแม้ว่าจะอยู่ในระดับสูง แต่ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนเติบโตขึ้น ทำให้ P/E ค่อยๆ ลดลงได้ ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีสภาพคล่องสูง มีบริษัทจดทะเบียนที่มีคุณภาพดีมากที่สุดในโลก นักลงทุนจึงควรมีไว้ในพอร์ตลงทุน
"ที่ผ่านมา มีผู้ที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา สอบถามเข้ามาว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นมามากแล้ว ยังเข้าลงทุนได้หรือไม่ และราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) ของหุ้นสหรัฐฯ แพงเกินไปหรือยัง กองทุนบัวหลวงแนะนำว่า ผู้ลงทุนสามารถลงทุนในสหรัฐฯ ต่อเนื่องได้ เพียงแต่การจับจังหวะเป็นเรื่องที่ยาก จึงควรใช้กลยุทธ์ทยอยลงทุนอย่างสม่ำเสมอ และเลือกกองทุนที่บริหารงานเชิงรุก (Active Management) เพื่อช่วยคัดเลือกหุ้นที่มีมูลค่าไม่สูงเกินไป และมีโอกาสที่ผลประกอบการจะเติบโตที่ดีได้" นายสันติ กล่าว
สำหรับ ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง และรับความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศได้ อาจจัดพอร์ตลงทุนในสหรัฐฯ ได้สูง เช่น ลงทุนในสัดส่วน 60% ของพอร์ตลงทุนโดยรวม ในจำนวนนี้สามารถแบ่งสัดส่วนลงทุนในกองทุนเปิดบัวหลวงยูเอสอัลฟ่า (B-USALPHA) เป็นการลงทุนหลักของพอร์ต 30% และอีก 30% ลงทุนเสริมในพอร์ตด้วยกองทุนที่ลงทุนตาม Theme ที่น่าสนใจ ซึ่งส่วนใหญ่ Theme เหล่านี้ก็มีหุ้นสหรัฐฯ อยู่
ทั้งนี้ กองทุน B-USALPHA ลงทุนผ่านกองทุน JPMorgan Funds - US Growth Fund (กองทุนหลัก) เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยส่วนที่เหลือ ผู้จัดการกองทุนของบลจ.บัวหลวง สามารถคัดเลือกลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ โดยตรงได้ โดยกองทุนนี้เน้นลงทุนทั้งหุ้นที่มีโอกาสเติบโตสูง และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ขณะที่ กองทุนตาม Theme ได้แก่ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH) ที่ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีคุณภาพดี มีโอกาสเติบโต กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเพื่อคนรุ่นใหม่ (B-FUTURE) ลงทุนในหุ้นที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยผู้จัดการกองทุน ปรับน้ำหนักการลงทุนหมวดอุตสาหกรรม หรือตลาดหุ้นประเทศต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลธีมเมติกออพพอร์ทูนิตี้ (B-GTO) ซึ่งลงทุนในธุรกิจที่มีนวัตกรรม หรือใช้นวัตกรรมทำให้ธุรกิจเติบโต และกองทุนเปิดบัวหลวงยั่งยืน (B-SIP) ลงทุนในธุรกิจที่สร้างผลเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม เช่น รถยนต์ไฟฟ้า อาคารประหยัดพลังงาน พลังงานหมุนเวียน เป็นต้น
สำหรับ ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดกองทุน หรือติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและคู่มือการลงทุนได้ที่กองทุนบัวหลวง โทร. 02-674-6488 กด 8 และ/หรือดูข้อมูลได้ที่ www.bblam.co.th หรือผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และลูกค้ากองทุนบัวหลวงสามารถเปิดบัญชีกองทุน รวมถึงซื้อกองทุนผ่าน Bangkok Bank Mobile Banking ได้
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นกับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
เสนอขายครั้งแรก 2-8 พฤษภาคม 2568 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM พร้อมเสนอขายกองทุน Thai ESGX ใหม่ จำนวน 3 กองทุน ซึ่งต่างก็มีสไตล์การลงทุนแตกต่างกัน โดยเริ่มจากกองทุนแรก "BMDIV-TESGX" เป็นแบบ Low Fee Low Beta มีปันผล ลงทุนหุ้นยั่งยืนไม่เกิน 70% ที่สำคัญ หุ้นที่เลือกมีสภาพคล่องและจ่ายเงินปันผล หรือมีความเคลื่อนไหวของราคาตาม SET Index ในระดับต่ำ และเก็บค่าธรรมเนียมต่ำสุดใน 3 กองทุน ส่วนกองทุนที่สอง "BM70-TESGX" เป็นแบบลงทุนหุ้นบริษัทเติบโต สถานะการเงินดี ไม่เกิน 70%
บลจ.อีสท์สปริง ตั้งThai ESGX กองผสม-กองหุ้นไทยปันผลดี ด้าน ESG เสริมพอร์ต พร้อมรับสิทธิประโยชน์ภาษี IPO 2-8 พ.ค. 68 นี้
—
บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุน Tha...
"อเบอร์ดีน" เปิดตัวกองทุน ThaiESGX ชูปรับพอร์ตลงทุนเหมาะทุกสภาวะตลาด
—
บลจ.อเบอร์ดีน เปิดตัว "ABALL-TESGX" กองทุนลดหย่อนภาษีน้องใหม่ ลงทุนแบบผสมในหุ้นและต...
บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุน TThai70ESGX และ TThaiESGX ช่วยลูกค้าบริหารภาษี - ลดหย่อนสูงสุด 800,000 บาท
—
บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้น 70 ไทยเพื่อความยั่ง...
KTAM ร่วมส่งเสริมการลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี ปล่อย 3 กองทุน "Thai ESGX" IPO 2 - 8 พ.ค.นี้
—
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จั...
บลจ.ไทยพาณิชย์ ขานรับภาครัฐ จัดเต็มเปิด 4 กองทุนใหม่ Thai ESGX เปิดทางเลือกลงทุนแบบ Extra
—
บลจ.ไทยพาณิชย์ ขานรับภาครัฐ จัดเต็มเปิด 4 กองทุนใหม่ Thai ESGX...
บลจ.เกียรตินาคินภัทร เปิดตัวกองทุน KKP BL THAI ESGX รับโอกาสสร้างผลตอบแทนจากหุ้นและตราสารหนี้ไทยกลุ่มยั่งยืน เปิดเสนอขายครั้งแรก 2 - 8 พฤษภาคม นี้
—
บริษัทหลักท...
บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุนใหม่ "ES-GQG-UH" ลงทุนหุ้นคุณภาพดีทั่วโลก IPO 24-30 เม.ย. 68 นี้
—
บลจ.อีสท์สปริง เปิดตัวกองทุนใหม่ "อีสท์สปริง Global Quality...
บลจ.กสิกรไทย เตรียมเปิดตัว 2 กองทุนใหม่ Thai ESGX รับโอกาสจากหุ้นไทยปันผลสูง ลงทุนยั่งยืนพร้อมคืนภาษี
—
บลจ.กสิกรไทย ปักหมุดต้นเดือนพฤษภาคมนี้ เตรียมเปิดเ...
บลจ.กสิกรไทย คว้า 5 รางวัลยอดเยี่ยม Best of the Best Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกองทุนของไทย
—
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กส...