วิจัยกรุงศรีชี้เศรษฐกิจเสี่ยงหดตัวในไตรมาส 3 ผลกระทบจากการระบาดระลอกสามของไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ด้านธปท.เร่งช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs และรายย่อย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

วิจัยกรุงศรีรายงานว่า การใช้จ่ายในประเทศและการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคมได้รับผลกระทบมากขึ้นจากการระบาดของ COVID-19 ที่รุนแรง โดยดัชนีการบริโภคภาคเอกชนเดือนกรกฎาคมลดลงมากจากเดือนก่อน (-5.3% MoM sa) ตามกำลังซื้อที่อ่อนแอลง กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ถูกจำกัดจากมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดขึ้น รายได้และความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง ด้านดัชนีการลงทุนภาคเอกชนลดลงจากเดือนก่อนเช่นกัน (-3.8%) โดยลดลงทั้งในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ และหมวดก่อสร้าง สอดคล้องกับอุปสงค์ที่ซบเซาและความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่อ่อนแอ อีกทั้งยังได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากมาตรการควบคุมการระบาดในพื้นที่ก่อสร้างที่เข้มงวดขึ้น ขณะที่ภาคส่งออกยังเติบโตได้แต่มีอัตราที่ชะลอลง เนื่องจากการแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้นในบางประเทศคู่ค้าทำให้ความต้องการสินค้าลดลง สำหรับดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงมากจากเดือนก่อน (-5.1%) เนื่องจากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศอ่อนแอลง กอปรกับการแพร่ระบาดในบางโรงงานทำให้ต้องหยุดการผลิตชั่วคราว ส่วนภาคท่องเที่ยว แม้เริ่มเปิดโครงการภูเก็ตแซนบ็อกซ์ในเดือนกรกฎาคมแต่ยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 18,056 คน ซึ่งต่ำกว่าระดับปกติอยู่มาก

วิจัยกรุงศรีชี้เศรษฐกิจเสี่ยงหดตัวในไตรมาส 3 ผลกระทบจากการระบาดระลอกสามของไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ด้านธปท.เร่งช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs และรายย่อย

วิจัยกรุงศรีประเมินเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ของปีนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะกลับมาติดลบจากไตรมาสก่อน ซึ่งจะนับเป็นการติดลบครั้งแรกตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีที่แล้ว จากการระบาดที่รุนแรงของ COVID-19 จากไวรัสสายพันธุ์เดลต้าที่แพร่ กระจายรวดเร็วตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมและลากยาวกว่าคาด ทำให้ต้นเดือนสิงหาคมทางการประกาศขยายมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดเพิ่มเป็น 29 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ทั้งนี้ จากการประเมินผลกระทบจากวิกฤต COVID-19 หากไม่มีมาตรการรัฐเพิ่มเติม คาดว่าธุรกิจราว 27.6% ของจำนวนธุรกิจทั้งหมด จะประสบปัญหาสภาพคล่อง จนนำไปสู่ความเสี่ยงของการเลิกกิจการ ทำให้แรงงาน 9.3 ล้านคนมีความเสี่ยงที่จะถูกเลิกจ้างหรือลดเงินเดือน ล่าสุดแม้ทางการจะได้เริ่มปรับมาตรการควบคุมการระบาดในบางกิจการ/กิจกรรมกลับมาดำเนินการได้บ้างภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา แต่โดยภาพรวมแล้วยังต้องอยู่ภายใต้พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดอยู่ จึงคาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายภาคธุรกิจและการจ้างงานยังคงซบเซาแม้อาจเห็นการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงที่เหลือของปีก็ตาม วิจัยกรุงศรีชี้เศรษฐกิจเสี่ยงหดตัวในไตรมาส 3 ผลกระทบจากการระบาดระลอกสามของไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ด้านธปท.เร่งช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs และรายย่อย

ธปท.ปรับมาตรการทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ สะท้อนการมุ่งเน้นใช้นโยบายการเงินที่ตรงกลุ่มเป้าหมายเป็นสำคัญ ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท).ร่วมกับสมาคมธนาคารไทยชี้แจงมาตรการสนับสนุนการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 เพิ่มเติม เพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับลูกหนี้ได้มากขึ้นในสถานการณ์ที่การระบาดยังคงยืดเยื้อ โดยมาตรการเพิ่มเติมประกอบด้วย
(i) มาตรการรักษาสภาพคล่องและเติมเงินใหม่ให้กับลูกหนี้ SMEs และรายย่อย อาทิ การปรับปรุงหลักเกณฑ์สินเชื่อฟื้นฟู เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น รวมถึงการผ่อนปรนหลักเกณฑ์เกี่ยวกับสินเชื่อรายย่อยเป็นการชั่วคราว ในส่วนของบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล
(ii) มาตรการแก้ไขหนี้เดิมอย่างยั่งยืน โดยผ่อนคลายหลักเกณฑ์การจัดชั้นและการกันเงินสำรองเพื่อสนับสนุนให้สถาบันการเงินมุ่งเน้นการปรับโครงสร้างหนี้ระยะยาวที่เหมาะสมแก่ลูกหนี้แต่ละราย เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน

ผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ที่รุนแรงและมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวด เป็นผลให้เศรษฐกิจซบเซาลงมาก กระทบต่อภาคธุรกิจและครัวเรือนไทยในวงกว้าง ซึ่งจากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือนพบว่า ธุรกิจใน 29 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม มีทั้งหมด 615,813 ราย (คิดเป็น 76.6% ของจำนวนธุรกิจทั้งหมด) และสร้างรายได้ประมาณ 93% ของรายได้รวมทั้งประเทศ ส่วนด้านแรงงานใน 29 จังหวัดนั้น มีประมาณ 18 ล้านคน โดยเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง 8.8 ล้านคน (24% ของแรงงานทั้งหมด) ทั้งนี้ มาตรการทางการเงินที่เพิ่มเติมดังกล่าวคาดว่าจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของลูกหนี้โดยเฉพาะกลุ่มที่เปราะบาง นอกจากนี้ ยังสะท้อนการดำเนินนโยบายการเงินของทางการที่เน้นการแก้ปัญหาที่เฉพาะเจาะจงสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น


ข่าวภาคอุตสาหกรรม+วิจัยกรุงศรีวันนี้

มจพ. ร่วมกับสมาคมเทคโนโลยีสุขภาพไทย จัดงาน HTCON 2025 ผลักดัน "AI และนวัตกรรมการแพทย์" สู่เวทีสากล

สมาคมเทคโนโลยีสุขภาพไทย ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) จัดงานประชุมวิชาการเทคโนโลยีสุขภาพแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 5 หรือ HTCON 2025 ภายใต้หัวข้อ "AI and Medical Innovation" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีเผยแพร่องค์ความรู้ แลกเปลี่ยนนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสุขภาพ และสร้างความร่วมมือระหว่างภาควิชาการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ โดยมี ดร.ภาฝัน จิตต์มิตรภาพ นายกสมาคมเทคโนโลยีสุขภาพไทย และ ศ.ดร.สุชาติ เซี่ยงฉิน ที่ปรึกษาอธิการบดีด้านส่ง

ในขณะที่ประเทศไทยเดินหน้าตามเป้าหมาย ประเ... Thermax ชูโซลูชันชีวมวลเพื่อขับเคลื่อน Thailand 4.0 ในงาน Boiler World S.E.A. 2025 — ในขณะที่ประเทศไทยเดินหน้าตามเป้าหมาย ประเทศไทย 4.0 (Thailand 4.0) The...

ส่งสัญญาณทุบสถิติ สร้าง All Time High ต่อ... WHA Group เสิร์ฟข่าวดี 2 เด้ง โชว์ 9 เดือน กำไรปกติแตะ 3,787 ล้านบาท โต 14% (Y-Y) — ส่งสัญญาณทุบสถิติ สร้าง All Time High ต่อเนื่อง ตามแผนงาน เคาะจ่ายปันผ...

"SynBio Forum 2025" รวมพลังไทย-นานาชาติ ข... "SynBio Forum 2025" รวมพลังไทย-นานาชาติ ขับเคลื่อนชีววิทยาสังเคราะห์สู่เศรษฐกิจอนาคต — "SynBio Forum 2025" รวมพลังไทย-นานาชาติ ขับเคลื่อนชีววิทยาสังเคราะห...