HSBC ร่วมกับ สวทช. เปิดตัวโครงการ "COVID-19 กับชีวิตที่เปลี่ยนไป เราทำอะไรได้บ้าง" ให้โอกาสให้เด็กและเยาวชนในสถานพินิจฯ สร้างสรรค์สื่อประกวดออนไลน์

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ทำพิธีเปิดโครงการแข่งขันสร้างสื่อ ภายใต้แนวคิด "COVID-19 กับชีวิตที่เปลี่ยนไป เราทำอะไรได้บ้าง" กิจกรรมดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการเสริมสร้างขีดความสามารถของครูและนักเรียนในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เด็กและเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นโครงการที่ธนาคารฯ ให้การสนับสนุนผ่านทางมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

HSBC ร่วมกับ สวทช. เปิดตัวโครงการ "COVID-19 กับชีวิตที่เปลี่ยนไป เราทำอะไรได้บ้าง" ให้โอกาสให้เด็กและเยาวชนในสถานพินิจฯ สร้างสรรค์สื่อประกวดออนไลน์

ดร.ชฎามาศ  ธุวะเศรษฐกุล กรรมการและรองเลขาธิการมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และรองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กล่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานพัฒนาเด็กและเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนให้มีความรู้และทักษะทางด้านคอมพิวเตอร์และไอที เป็นงานที่ทำร่วมกับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบันรวม 10 ปี จากเริ่มต้นเพียง 5 แห่ง ปัจจุบันมีการดำเนินงานในศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชน 18 แห่ง และสถานพินิจฯ 19 แห่ง รวมทั้งสิ้น 37 แห่ง ในปี 2564 นี้ ได้รับการสนับสนุนจากทางธนาคารเอชเอสบีซี ในการพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมเพิ่มเติม นอกจากหลักสูตรทางด้านไอทีแล้วยังมีหลักสูตรทางด้านการจัดการการเงินและการออม การทำงานจิตอาสาจิตสาธารณะ ซึ่งก็หวังว่าเด็กและเยาวชนจะได้นำทักษะความรู้เหล่านี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์เมื่อเข้าสู่ตลาดแรงงานอาชีพ HSBC ร่วมกับ สวทช. เปิดตัวโครงการ "COVID-19 กับชีวิตที่เปลี่ยนไป เราทำอะไรได้บ้าง" ให้โอกาสให้เด็กและเยาวชนในสถานพินิจฯ สร้างสรรค์สื่อประกวดออนไลน์

พ.ต.ท. วรรณพงษ์  คชรักษ์  อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า กรมพินิจฯ ให้ความสำคัญกับชีวิตและความเป็นอยู่ของเด็กและเยาวชนทั้งในปัจจุบันและอนาคต กิจกรรมสร้างเสริมประสบการณ์ต่าง ๆ มีคุณค่ามีความสำคัญที่จะช่วยเพิ่มพูนทักษะให้กับเด็ก แม้สถานการณ์โควิดไม่เกิดขึ้น เทคโนโลยีดิจิทัลก็มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดอยู่แล้ว โควิดทำให้เราต้องปรับตัวอย่างกะทันหันมาอยู่กับเทคโนโลยีมากขึ้น การได้เข้าร่วมกิจกรรมสร้างสื่อในครั้งนี้ จึงอยากให้น้อง ๆ เข้าใจและตระหนักถึงโอกาสที่ได้รับที่จะได้พัฒนาความรู้และทักษะการใช้สื่อเทคโนโลยีอย่างมีคุณภาพ มีคุณค่ากับตนเอง สามารถนำไปใช้ในการดำรงชีวิตต่อไปในอนาคตได้ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมสนับสนุนกรมพินิจฯ และให้โอกาสแก่เด็กและเยาวชน

ในส่วนของธนาคารเอชเอสบีซี คุณรสกมล วงศ์เชาวนาถ Head of Corporate Sustainability กล่าวว่า ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ในฐานะธนาคารพาณิชย์แห่งแรกในประเทศไทยที่เริ่มดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2431 มีเจตนารมณ์ที่จะร่วมพัฒนาประเทศให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา สังคมและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาทรัพยากรบุคคลโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมและประเทศชาติ นับเป็นสิ่งที่ธนาคารให้การสนับสนุนมาโดยตลอด โครงการนี้จะช่วยสร้างเสริมประสบการณ์และพัฒนาทักษะทางด้านเทคโนโลยีดิจิตัลให้แก่น้อง ๆ เยาวชนได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยหากมีโอกาส ก็จะนำพี่ ๆ พนักงานจากธนาคารมาร่วมเป็นอาสาสมัครแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับน้อง ๆ ด้วย

ดร.ศรีดา ตันทะอธิพานิช  กรรมการผู้จัดการมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย ในฐานะหน่วยงานดำเนินการ ได้กล่าวถึงการแข่งขันในครั้งนี้ว่าต้องการให้เด็กและเยาวชนได้ฝึกฝนทักษะทางด้านไอทีอย่างต่อเนื่อง มีกิจกรรมทำในยามว่าง โดยเฉพาะช่วงปิดเมืองเพราะสถานการณ์โควิด การได้ทำงานที่ท้าทายภายใต้ข้อจำกัดในช่วงนี้จะเป็นการระเบิดความคิด ปล่อยพลัง และสร้างแรงบันดาลใจที่ดีในการใช้ไอทีดิจิทัลให้เกิดประโยชน์ น้อง ๆ สามารถส่งผลงานเข้าร่วมการแข่งขันใน 3 รูปแบบ โดยไม่จำกัดจำนวน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ หนังสั้น คลิป TikTok และออกแบบมาสคอต ชิงเงินรางวัลเงินสดมากกว่าสามหมื่นบาท พร้อมของรางวัลและเกียรติบัตรเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดงสำหรับน้อง ๆ ทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรม สามารถส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและส่งใบสมัครได้ที่ เว็บไซต์และเฟซบุ๊กของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และ มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย


ข่าวโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน+มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศวันนี้

คาโอจุดประกายความรู้สู่ความยั่งยืน ส่งมอบ "ชุดโต๊ะส่งเสริมการเรียนรู้" ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล แก่โรงเรียน ตชด.ทั่วประเทศ

บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำการฉลองดำเนินธุรกิจปีที่ 60 เดินหน้าพันธกิจเพื่อสังคม ส่งมอบ "ชุดโต๊ะส่งเสริมการเรียนรู้" ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล ที่สร้างสรรค์จากพลาสติกใช้แล้ว เพื่อมอบให้แก่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทั่วประเทศ ภายใต้กิจกรรมครบรอบ 60 ปี ของคาโอ ประเทศไทย ชูแนวคิดการ "สร้างคุณค่าใหม่จากขยะพลาสติก" ผ่านเฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการศึกษาให้กับเยาวชนไทย คาโอตั้งเป้ามอบให้โรงเรียน ตชด. ครบทั้ง 222 แห่ง ภายในระยะเวลา 4 ปี โดยเริ่มส่งมอบ 60

คณะบุคลากรทางการแพทย์ของศูนย์การแพทย์ปัญญ... ทีมบุคลากรทางการแพทย์ ศปช. มศว ลงพื้นที่ปฏิบัติงานหน่วยแพทย์พระราชทานฯ จ.แม่ฮ่องสอน — คณะบุคลากรทางการแพทย์ของศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน มหาวิทย...

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดกา... ดั๊บเบิ้ล เอ มอบอุปกรณ์การศึกษาให้โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทั่วประเทศ — นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ มอบอุปกรณ์การเรียนให้ก...

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดกา... ดั๊บเบิ้ล เอ มอบอุปกรณ์การศึกษาให้โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทั่วประเทศ — นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ มอบอุปกรณ์การเรียนให้ก...

ชวลิต รัตนเสรีชัย (ซ้ายสุด) พร้อมตัวแทนผู... NEO ร่วมสร้างแหล่งน้ำชุมชน ส่งมอบธนาคารน้ำใต้ดินต้นแบบ ให้กับสถานศึกษาใน จ.กาญจนบุรี — ชวลิต รัตนเสรีชัย (ซ้ายสุด) พร้อมตัวแทนผู้บริหาร 'บริษัท นีโอ คอร์ป...