RAZER รายงานผลประกอบการครึ่งปีแรก 2564 เผยรายรับพุ่งสูงด้วยผลกำไรสุทธิ 31 ล้านดอลลาร์

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

บริษัททุ่มการลงทุนต่อเนื่องตามแผนสร้างการเติบโตทางธุรกิจระยะยาว

RAZER รายงานผลประกอบการครึ่งปีแรก 2564 เผยรายรับพุ่งสูงด้วยผลกำไรสุทธิ 31 ล้านดอลลาร์

เรเซอร์ (Razer(TM)) แบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลกสำหรับเกมเมอร์ (เรเซอร์และกลุ่มบริษัทในเครือ: รหัสในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง: 1337) แถลงผลการเงินที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบบัญชีจากการดำเนินธุรกิจ 6 เดือนแรกของปี โดยเก็บข้อมูลถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 (ครึ่งแรกของปี)

"เรเซอร์สร้างปรากฏการณ์อีกครั้งในการดำเนินงานครึ่งปีแรกนี้ ซึ่งนอกจากการเติบโตที่ต่อเนื่องจากการขยายฐานอุตสาหกรรมเพื่อสร้างผลกำไรในกลุ่มธุรกิจหลักของเรา ผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมของเรเซอร์ยังเกิดจากตำแหน่งทางการตลาดที่เข้มแข็งและฐานผู้ใช้งานที่เชื่อมั่นในแบรนด์ของเราอย่างมาก ตลอดจนความก้าวล้ำของบริษัทซึ่งเป็นที่ยอมรับทั้งในด้านการคิดค้นนวัตกรรม การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร รวมถึงการบริหารการดำเนินงานที่เปี่ยมประสิทธิภาพ" นายหมิง เหลียง ตัน ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เรเซอร์ กล่าว

"เมื่อมองไปยังอนาคต ทั้งการเติบโตทางธุรกิจที่ต่อเนื่อง รากฐานอันแข็งแกร่ง และโอกาสอันน่าตื่นใจที่เราเล็งเห็นในตลาดวันนี้ ล้วนทำให้เรามั่นใจว่านี่คือเวลาที่เหมาะสมอย่างมากในการขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยเราตั้งใจจะนำผลกำไรจากการดำเนินงานตลอดทั้งปีมาลงทุนซ้ำในส่วนงานที่มีศักยภาพสูง อาทิ Razer Gold และ Razer Fintech รวมถึงเพิ่มการลงทุนกับโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ในนิเวศระบบของเรเซอร์ เราเชื่อว่ากลยุทธ์การลงทุนเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถสร้างแพลตฟอร์มที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพื่อให้เรเซอร์บรรลุเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจในระยะยาวและมอบมูลค่าที่โดดเด่นให้แก่ผู้ถือประโยชน์ทุกฝ่าย"

ข้อมูลไฮไลต์จากผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2564

ภาพรวมบริษัท

  • รายรับพุ่งสูงที่ 752.0 ล้านดอลลาร์ ด้วยอัตราการเติบโต 68.0% เมื่อเปรียบเทียบกับปีต่อปี ซึ่งเกิดจากอุปสงค์ปริมาณมาก การเป็นผู้นำครองส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจฮาร์ดแวร์ และการเติบโตที่ต่อเนื่องของกลุ่มธุรกิจบริการ (Services segment) ของบริษัท
  • อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) เพิ่มขึ้น 27.1% เมื่อเปรียบเทียบกับ 22.0% ของช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน โดยส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของส่วนต่างราคาทุนกับราคาขาย (Margin) ของกลุ่มธุรกิจฮาร์ดแวร์ (Hardware segment)
  • กำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA* (ตามเกณฑ์ที่ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานบัญชีทั่วไป) ซึ่งถูกปรับปรุงมาอยู่ที่ 59.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเติบโตสูงถึง 1,759.4% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี จาก 3.2 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปี 2563
  • กำไรสุทธิที่ 31.3 ล้านดอลลาร์ เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราขาดทุนสุทธิที่ 17.7 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปี 2563 ผลกำไรนี้เกิดจากการเติบโตของรายรับอย่างมหาศาล การเพิ่มขึ้นของส่วนต่างราคาทุนกับราคาขาย (Margin) ที่ต่อเนื่อง และการยกระดับขีดความสามารถในการผลิต

กลุ่มธุรกิจหลัก

ฮาร์ดแวร์:

  • รายรับเพิ่มขึ้น 77.0% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี โดยอยู่ที่ 677.3 ล้านดอลลาร์ 
  • ธุรกิจอุปกรณ์ต่อพ่วง (Peripherals business) ยังสามารถรักษาสถานะผู้นำตลาดอุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับเล่นเกม ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก
  • ธุรกิจระบบ (Systems business) ยังครองสถานะผู้นำตลาดในกลุ่มเกมมิ่งแล็บท็อประดับพรีเมียมของสหรัฐอเมริกา และยังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่องในตลาดใหม่นอกสหรัฐฯ 
  • หมวดธุรกิจใหม่อื่น ๆ ที่เกี่ยวกับเกม สามารถเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง เช่น ระบบการถ่ายทอดสดและเก้าอี้สำหรับเล่นเกม

ซอฟต์แวร์:

  • บัญชีผู้ใช้งานรวมเพิ่มขึ้น 50.0% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี โดยมีจำนวนราว 150.0 ล้านราย โดยแต่ละเดือนมีผู้ใช้งานจริงเพิ่มขึ้นมากกว่า 51.4%
  • อัตราผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจซอฟแวร์ทั้งหมด ซึ่งถูกกระตุ้นด้วยกิจกรรมการเล่นเกม อีสปอร์ต และการถ่ายทอดสด
  • เรเซอร์พยายามเติมเต็มประสบการณ์ผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง และทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกยึดมั่นกับนิเวศระบบของเรเซอร์ ผ่านการดำเนินงานต่าง ๆ ได้แก่
    • ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 กิจกรรม Razer Cortex PC Squad Rewards Seasons 6 และ 7 ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของเกมเมอร์มากกว่า 200,000 คนที่มาเข้าร่วมการแข่งขันของแต่ละซีซั่น โดยมีผู้เล่นที่ลงชื่อใช้งานเกมพีซีรวมมากกว่า 3.5 ล้านชั่วโมงในแต่ละซีซั่น
    • Razer ChromaTM RGB พยายามส่งเสริมสถานะการเป็นตัวเลือกยอดนิยมของบริษัทคู่ค้า โดยทำงานร่วมกับพันธมิตรบริษัทฮาร์ดแวร์ชั้นนำหลายรายผ่านโปรแกรมในอุปกรณ์เชื่อมต่อ โดยในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 มีเกมและแอปพลิเคชันมากกว่า 180 รายชื่อที่บูรณาการระบบแบบติดตั้งพร้อมใช้งานเข้ากับ Razer ChromaTM RGB Software Development Kit (SDK)

บริการ:

  • ธุรกิจบริการ (Services business) ซึ่งประกอบด้วย Razer Gold และ Razer Fintech เติบโต 13.8% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 72.8 ล้านดอลลาร์สำหรับครึ่งแรกของปี 2564
  • อัตรากำไรขั้นต้น (Gross margin) อยู่ที่ 41.9% และส่งผล 15% ของกำไรขั้นต้น (Gross Profit) ของบริษัทในช่วงครึ่งแรกของปี 2564

กลุ่มธุรกิจ RAZER GOLD 

  • ยอดการชำระเงินผ่านแพลตฟอร์มรวม (Total Payment Volume: TPV) เพิ่มขึ้น 13.8% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี เบื้องต้นเกิดจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์ม Razer Gold
  • ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 Razer Gold ระบุจำนวนผู้ใช้ที่ลงทะเบียนแล้วราว 30 ล้านราย คิดเป็นอัตราการเติบโต 25.3% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี
  • การขยายพื้นที่ดำเนินงานและการเพิ่มช่องทางจุดบริการในภูมิภาคต่าง ๆ เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และละตินอเมริกาซึ่งครอบคลุมผู้ใช้งานมากกว่า 130 ประเทศและช่องทางจุดบริการมากกว่า 5.6 ล้านแห่ง
  • การส่งเสริมสถานะการเป็นตัวเลือกยอดนิยมของพันธมิตรด้านคอนเทนต์ โดยมีเนื้อหาสื่อบันเทิงแบบดิจิทัลมากกว่า 42,000 รายชื่อที่สนับสนุนและเพิ่มจำนวนเกมใหม่ ๆ มากยิ่งขึ้น
  • การริเริ่มโครงการระยะยาวที่ช่วยส่งเสริมให้ Razer Gold สามารถคงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่ง เพื่อสร้างการเติบโตในขั้นต่อไป อาทิ
    • การนำ Razer Gold รุกตลาดมากขึ้นสู่ภูมิภาคที่มีการเติบโตสูง เช่น ละตินอเมริกา ซึ่งคาดว่าตลาดเกมในภูมิภาคนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 3.6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2556
    • การส่งเสริมกลยุทธ์เฉพาะประเทศทั้งในด้านคอนเทนต์และช่องทางธุรกิจ เพื่อให้ทราบถึงรสนิยมและความต้องการในรูปแบบเฉพาะของพื้นที่ที่เรเซอร์เข้าไปดำเนินธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจ RAZER FINTECH  

  • อัตราการเติบโตประจำปี (CAGR) ในส่วนการชำระเงินผ่านแพลตฟอร์มรวม (TPV) มีอัตราอยู่ที่ 63.7% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
  • กว่า 95% ของ TPV มาจากธุรกิจ Razer Merchant Services (RMS) ซึ่งเป็นธุรกิจการบริหารการชำระเงินแบบธุรกิจต่อธุรกิจของกลุ่มบริษัท ซึ่งให้การสนับสนุนผู้ค้ามากกว่า 60,000 รายทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • ธุรกิจ RMS มีความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ในขอบเขตต่าง ๆ ดังนี้ 
  • TPV:  ระบุอัตราการเติบโต 79.5% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี มูลค่าที่ 3.2 พันล้านดอลลาร์ในครึ่งแรกของปี 2564 ส่วนใหญ่เกิดจากการซื้อขายในตลาดอีคอมเมิร์ซ การส่งอาหาร และการเติมเงินในอีวอลเล็ตต์
  • การรับผู้ค้าเข้าระบบ: ระบุอัตราการเติบโต 88.6% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี ด้วยจำนวนผู้ค้ามากกว่า 60,000 รายทั้งจากธุรกิจค้าปลีก อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และบริการอาชีพ/พาณิชย์
  • การจดทะเบียนหลักและการขยายเครือข่าย: การดำเนินงานโครงสร้างพื้นฐานหลักที่มั่นคง ขอบเขตธุรกิจที่กว้างขวาง และการจดทะเบียนเพิ่มเติมที่มั่นคงยิ่งขึ้นทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การดำเนินธุรกิจองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG)

  • การพัฒนาแนวทางด้านสิ่งแวดล้อมด้วยโร้ดแมประยะ 10 ปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ #GoGreenWithRazer ที่สนับสนุนโดย 4 โครงการหลัก ได้แก่ Green Organization (องค์กรสีเขียว), Green Products (ผลิตภัณฑ์สีเขียว), Green Community (ชุมชนสีเขียว) และ Green Investments (การลงทุนสีเขียว)
  • การประกาศแผนงานทั้งระยะสั้น กลาง และยาว เพื่อนำแบรนด์เรเซอร์สู่การสร้างอนาคตสีเขียวยิ่งกว่า นั่นคือ
    • ภายในปี 2564: 

Green Organization: งดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง

Green Products: การใช้บรรจุภัณฑ์สีเขียว

  • ภายในปี 2568: 

Green Organization: การใช้พลังงานหมุนเวียน 100%

Green Products: ผลิตภัณฑ์ 100% สามารถนำมารีไซเคิลได้กับทางเรเซอร์

  • ภายในปี 2573: 

Green Organization: เป็นกลางทางคาร์บอน 100%

Green Products: ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลและสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ 100%

  • ในฐานะส่วนหนึ่งของการผลักดันเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก กลุ่มบริษัทจึงจับมือเป็นพันธมิตรกับองค์กร Conservation International ในเดือนตุลาคม 2563 และเปิดตัวแคมเปญ Sneki Snek ซึ่งโดยใช้มัสคอตเพื่อความยั่งยืนยอดนิยมของเหล่าแฟนเรเซอร์เป็นสื่อกลาง ข้อมูล ณ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2564 ระบุว่ากลุ่มบริษัทสามารถดูแลต้นไม้ได้มากกว่า 500,000 ต้น 

การลงทุนเพื่อการเติบโต

  • นิเวศระบบที่เน้นเกมเป็นศูนย์กลางของเรเซอร์ขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และกลุ่มบริษัทคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการเกิดโอกาสในตลาดใหม่อันน่าตื่นใจ
  • เกม อีสปอร์ต และฟินเทค ถือเป็นแนวทางธุรกิจที่สร้างความเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเข้าไปมีบทบาทในวิถีชีวิตประจำวันของผู้คน
  • การลงทุนที่สำคัญ ครอบคลุมถึง
    • ฮาร์ดแวร์: การลงทุนเพิ่มเติมจะถูกจัดสรรให้กับการวิจัยและการพัฒนาทั้งอุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับเล่นเกมที่น่าตื่นใจและสินค้าฮาร์ดแวร์ประเภทใหม่
    • ซอฟต์แวร์: พัฒนาบริการต่าง ๆ เพื่อครองสัดส่วนผู้ใช้งาน สร้างการมีส่วนรวม และรักษาฐานผู้ใช้งาน รวมถึงสำรวจโครงการสร้างรายได้และเสริมความสามารถด้านการวิเคราะห์ข้อมูลให้ลึกยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มสัดส่วนและยกระดับกิจกรรมของผู้ใช้งาน
    • บริการ: 

Razer Gold: ขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคใหม่ ๆ ทั่วโลกและเน้นรุกตลาดที่มีการเติบโตสูง เช่น ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเสริมโครงสร้างพื้นฐานหลัก และรับสมัครบุคคลที่มีทักษะสูงเพื่อมาช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้งาน เพิ่มจำนวนผู้ใช้รายใหม่ และเพิ่มปริมาณการใช้งาน/การจ่ายเงินจากผู้ใช้แต่ละคน

Razer Fintech: การลงทุนเพิ่มเติมจะถูกจัดสรรให้กับการขยายธุรกิจให้ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มขนาด TPV อย่างรวดเร็วพร้อมขยายฐานผู้ค้า เพิ่มความสามารถของบริการต่าง ๆ สำหรับลูกค้าในปัจจุบัน และการควบรวมกิจการ/การลงทุน

คาดการณ์ปีงบประมาณ 2564

เรเซอร์มีการตรวจตราสภาวะตลาดอย่างใกล้ชิดในระหว่างเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 โดยตั้งใจดำเนินธุรกิจและเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินงาน ซึ่งยังคงอยู่ในแนวทางการสร้างความเติบโตของรายรับและการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างมั่นคง พร้อมเพิ่มการลงทุนเพื่อสร้างความเติบโตตลอดปี 2564

สิ่งที่คาดการณ์ไว้ตลอดปีนี้ ได้แก่

  • การเติบโตของรายรับที่มั่นคง:
    • การนำเสนอผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่
    • การเพิ่มฐานผู้ใช้งานซอฟต์แวร์
    • การขยายธุรกิจบริการให้ต่อเนื่อง
  • การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง:
    • การตรวจสอบหลักเกณฑ์การบริหารต้นทุน
    • การเพิ่มส่วนต่างราคาทุนกับราคาขาย (Margin) ของฮาร์ดแวร์
    • การเพิ่มส่วนต่างราคาทุนกับราคาขาย (Margin)ทั้งฮาร์ดแวร์และบริการต่าง ๆ เพื่อเสริมรายรับรวม
  • การเพิ่มการลงทุนเพื่อความเติบโต:
    • การนำผลกำไรมาลงทุนซ้ำในส่วนงานที่มีศักยภาพสูง อาทิ Razer Gold และ Razer Fintech
    • การลงทุนดังกล่าวยังเกี่ยวกับการเพิ่มต้นทุนการดำเนินงานเมื่อขยายธุรกิจบริการของบริษัท
    • การเพิ่มอัตราการลงทุนกับโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ในนิเวศระบบของเรเซอร์

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาอ้างอิงจากเอกสารรายงานผลประกอบการครึ่งปีแรก 2564 ของกลุ่มบริษัท ซึ่งได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ให้สอดคล้องตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง รายละเอียดเรื่องการดำเนินธุรกิจองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) ของเรเซอร์สามารถดูได้ในเว็บไซต์ http://www.razer.com/go-green 


ข่าวตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง+ตลาดหลักทรัพย์วันนี้

สถาบัน FII จัดการประชุมสุดยอด Asia FII PRIORITY Summit ครั้งแรก 7-8 ธันวาคมที่ฮ่องกง

จัดงานร่วมกับรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง รวบรวมผู้นำทางธุรกิจและการเงินจากทั่วโลก คุณยาซีร์ อัล-รูไมยาน (Yasir Al-Rumayyan) ผู้ว่าการกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) ของซาอุดีอาระเบีย และประธานสถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต (Future Investment Initiative (FII) Institute) ประกาศจัดประชุมสุดยอด FII PRIORITY Asia Summit ครั้งแรกที่ฮ่องกง คุณจอห์น ลี (John Lee) ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง, คุณพอล ชาน (Paul Chan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, คุณคริสโตเฟอร์ ฮุย (Christopher

ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ รินใจ... DR "BYDCOM80" และ "XIAOMI80" เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก — ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ รินใจ ชาครพิพัฒน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลา...

ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับหลักทรัพย์ Tencent DR (TENCENT80) เริ่มซื้อขาย 26 เม.ย. นี้

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รับหลักทรัพย์ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (DR) ที่อ้างอิงบริษัท เทนเซ็นต์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด จำกัด ออกโดย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 26 เม.ย. นี้ โดย...

"จีซีแอล-โพลี เอเนอร์จี" เปลี่ยนชื่อเป็น "จีซีแอล เทค" เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีเซลล์แสงอาทิตย์

บริษัทจีซีแอล-โพลี เอเนอร์จี (GCL-POLY ENERGY) (03800.HK) ผู้นำด้านวัสดุเซลล์แสงอาทิตย์ระดับโลก ประกาศว่า บริษัทได้รับการอนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเปลี่ยนชื่อย่อเป็น "จีซีแอล เทค" (GCL TECH) ...

Premia Partners เปิดตัวกองทุน Premia China STAR50 ETF เพื่อคว้าโอกาสจากการเติบโตในภาคเทคโนโลยีและนวัตกรรมของจีน ชูจุดเด่นต้นทุนต่ำด้วยค่า TER ที่ 0.58% ต่อปี

Premia Partners ผู้ให้บริการกองทุนรวม ETF ชั้นนำของฮ่องกง ประกาศการนำกองทุน Premia China STAR50 ETF เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง...

Premia Partners จับมือ BOCHK Asset Management เปิดตัวกองทุนรวม ETF ตราสารหนี้อัตราผลตอบแทนสูงสกุล USD แห่งแรกในฮ่องกง

กองทุนรวม ETF แห่งแรกสำหรับพันธบัตรรัฐบาลจีนระยะยาว Premia Partners ผู้ให้บริการกองทุนรวมอีทีเอฟ (ETF) ชั้นนำของฮ่องกง ประกาศเปิดตัวกองทุนรวม ETF พันธบัตรรัฐบาลจีน 2 กองทุน...