วิศวะมหิดล ถอดบทเรียนบนลำน้ำสายเศรษฐกิจ ชี้ 3 ปัจจัย เรือล่มกลางแม่น้ำป่าสัก จ.อยุธยา พร้อม 6 ข้อเสนอแนะกระทรวงคมนาคม

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

จากเหตุบนแม่น้ำสายเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว เรือยนต์ที่กำลังลากจูงเรือบรรทุกสินค้าล่มลงใต้น้ำกลางสามแยกแม่น้ำเจ้าพระยา-แม่น้ำป่าสัก บริเวณท่าน้ำวัดพนัญเชิงวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้คนขับเรือและภรรยาจมน้ำสูญหายไปพร้อมเรือ จากนั้น ถัดมาอีก 2 วัน ได้เกิดอุบัติเหตุเรือล่มอีกครั้ง ที่หน้าวัดบางกะจะ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจุดเกิดเหตุทั้ง 2 แห่ง อยู่ไม่ห่างกันมาก จากอุบัติเหตุครั้งนี้ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถอดบทเรียนชี้ 3 ปัจจัย เรือล่มกลางแม่น้ำป่าสัก จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขแก่กระทรวงคมนาคม

วิศวะมหิดล ถอดบทเรียนบนลำน้ำสายเศรษฐกิจ ชี้ 3 ปัจจัย เรือล่มกลางแม่น้ำป่าสัก จ.อยุธยา พร้อม 6 ข้อเสนอแนะกระทรวงคมนาคม

รศ.ดร.ธนภัทร์ วานิชานนท์ นักวิชาการ (Thanapat Wanichanon) ผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เนื่องจากการขนส่งทางแม่น้ำมีความสำคัญที่ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและลดต้นทุนด้านขนส่งโลจิสติกส์ของประเทศ ตลอดจนส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งสร้างรายได้แก่ประเทศ อีกทั้งคนไทยมีวิถีชีวิตที่สัมพันธ์กับการคมนาคมทางน้ำมายาวนาน ทั้งเป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวชมสถานทางประวัติศาสตร์ ล่องเรือ จากสถิติในปี 2562 มีปริมาณการขนส่งสินค้าบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาและป่าสัก ใช้เรือขนส่งสินค้าทั้งสิ้น 62,236 เที่ยวลำ มีสินค้าทั้งหมด 18 ประเภท ปริมาณสินค้ารวมประมาณ 56 ล้านตัน ทั้งนี้ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาเครื่องกล มหาวิทยาลัยมหิดล เคยลงพื้นที่ทำการสำรวจวิจัยลักษณะสามแยกแม่น้ำ หน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร ที่ทำให้เรือมีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุล่ม ซึ่งบริเวณนี้มีแม่น้ำป่าสักมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วยสามฝั่ง คือ 1.ฝั่งวัดพนัญเชิงวรวิหาร 2. ฝั่งวัดบางกระจะ (แหลมบางกระจะเคยเป็นศูนย์กลางการค้าทางน้ำในยุคอยุธยา) 3.ฝั่งป้อมเพชร เป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่บริเวณทางแยกระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก หากย้อนประวัติศาสตร์ในอดีตสมัยกรุงศรีอยุธยารุ่งเรือง ตลอดบริเวณเหล่านี้เป็นย่านท่าเรือและการค้านานาชาติที่มีความสำคัญของโลกในยุคก่อน มีเรือนแพและร้านค้ามากมาย เรือสินค้าจากหัวเมืองชายทะเล และเรือสินค้าชาวต่างชาติจะเข้ามาจอดขายเต็มไปหมด ส่วนบริเวณหลังป้อมเพชรเป็นย่านพักอาศัยของขุนนางชั้นสูง ตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยาลงไปทางทิศใต้ มีชุมชนต่างชาติอาศัยอยู่ เช่น บ้านฮอลันดา บ้านญี่ปุ่น เป็นต้น ในบริเวณนี้ยังพบว่ามี ชื่อท้องถิ่นที่น่าสนใจ คือ บ้านวังน้ำวน ตำบลสำเภาล่ม บ่งบอกถึงภูมิศาสตร์ที่มีมาแต่อดีต วิศวะมหิดล ถอดบทเรียนบนลำน้ำสายเศรษฐกิจ ชี้ 3 ปัจจัย เรือล่มกลางแม่น้ำป่าสัก จ.อยุธยา พร้อม 6 ข้อเสนอแนะกระทรวงคมนาคม

สาเหตุของเรือล่มในแม่น้ำป่าสัก หน้าวัดพนัญเชิงฯ มี 3 ปัจจัยหลักด้วยกัน

1. ลักษณะทางภูมิศาสตร์ เนื่องจากบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นสามแยกกลางแม่น้ำ ที่มีแม่น้ำ 2 สาย ไหลมาบรรจบกัน คือแม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำเจ้าพระยา กระแสน้ำจากสองแม่น้ำไหลมาต่างทิศทางมาปะทะกัน และยังเป็นโค้งน้ำอีกด้วย ยิ่งทำให้เกิด "กระแสน้ำวน"  ประกอบกับเป็นช่วงฤดูที่ปริมาณน้ำมากและกระแสน้ำไหลเชี่ยว จึงยากต่อการควบคุมเรือและเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ  2. โครงสร้างเรือพาณิชย์ที่ใช้ขนสินค้าโดยใช้เรือยนต์ลากจูง 5 ลำ ชักนำเรือใหญ่ที่ขนสินค้า จะเห็นว่ายังขาดการพัฒนาการนำเทคโนโลยีที่จะช่วยการควบคุมเรือให้ปลอดภัย โดยปกติหากเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงอาจจะไม่มีปัญหาอะไร แต่กรณีที่เกิดเหตุนี้จะต้องเลี้ยวโค้งขวาเข้าแม่น้ำป่าสัก และหลบเลี่ยงกระแสน้ำวน ทำให้เรือลากจูงลำริมสุดเสียหลักไปชนกับเรือลากจูงลำข้างเคียง มีผลให้เชือกดีงรั้งเอาเรือลากจูงลำดังกล่าวพลิกคว่ำจมลงกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยว ซึ่งมีคลื่นใต้น้ำที่มีแรงมหาศาล  3. ความเชี่ยวชาญของคนขับเรือ หากไม่มีประสบการณ์เพียงพอ หรือขาดเครื่องมือด้านความปลอดภัยและอุปกรณ์ปลดเชือกที่จะช่วยให้แก้ไขสถานการณ์ยามฉุกเฉิน จึงมีความเสี่ยงสูงต่ออุบัติเหตุ

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สรุปข้อเสนอแนะแก่กระทรวงคมนาคม  เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในการเดินเรือและประชาชน ดังนี้

  1. ควรกำหนดค่าแรงขับของเครื่องยนต์เรือที่เหมาะสมกับระวางเรือเพื่อความปลอดภัย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องกำหนดว่าหากเรือขนส่ง หรือ เรือนำเที่ยวจะผ่านเส้นทางนี้ ต้องใช้เครื่องยนต์ขับเรือเท่าไหร่ เนื่องจากกระแสน้ำมาหลายทิศทาง มีความเร็วและแรงกระทำกับตัวเรือสูง จึงควรที่จะปรับค่าแรงขับเรือตามลักษณะน้ำที่กระทบและมีขนาดของแรงที่เพียงพอต่อการชดเชยแรงที่กระทำกับตัวเรือ
  2. ควรส่งเสริมให้มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในเรือขนส่งสินค้า และเรือท่องเที่ยว เช่น ระบบควบคุมการโคลงของเรือโดยใช้แรงเฉื่อย (Gyro Stabilizer) หรือระบบควบคุมการเดินเรือเรืออัจฉริยะ ที่สามารถชดเชยแรงกระทำที่ไม่แน่นอน ซึ่งอาจเกิดจากกระแสน้ำหรือสิ่งกีดขวางอื่น ๆ ที่ลอยอยู่ในน้ำได้
  3. ติดตั้งป้าย-สัญญาณเตือนความปลอดภัยในการเดินเรือ
  4. ผู้ประกอบการเรือขนส่งสินค้า และธุรกิจทางน้ำ ควรลดขนาดบรรทุกสินค้าลงตามหลักความปลอดภัยเพื่อใช้จำนวนเรือลากจูงให้น้อยลงและไม่ใช้พื้นที่แม่น้ำกว้างจนเกินไป ทำให้คนขับเรือสามารถหลบหลีกกระแสน้ำวนได้ในยามฉุกเฉิน และควรยกระดับพัฒนานำระบบควบคุมเรืออัจฉริยะ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอัตโนมัติที่ก้าวหน้าทันสมัยมาใช้ควบคุม เพิ่มระวางเรือและแรงขับเรือลากจูง และบำรุงรักษาเรือให้อยู่ในสภาพดีและปลอดภัยเสมอ
  5. ควรจัดอบรมพัฒนาบุคลากรในการเดินเรือ เช่น คนขับเรือ เพื่อให้ความรู้ ฝึกฝนการขับเรืออย่างปลอดภัยและวิธีการเตรียมตัวและแก้ไขเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
  6. ประชาชนผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว ก็ควรระมัดระวังเลือกใช้บริการเรือที่มีระบบความปลอดภัย ทั้งระบบควบคุมเรือ ความเชี่ยวชาญที่ไว้วางใจได้ และมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตผู้โดยสารที่ครบครัน

ข่าวคณะวิศวกรรมศาสตร์+มหาวิทยาลัยมหิดลวันนี้

ม.มหิดลสร้างสรรค์นวัตกรรม AI ฝึกบัลเล่ต์เสมือนจริง

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญแม้แต่ทางด้านศิลปะแห่งโลกตะวันตก ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการแสดงในหลากหลายสาขาอย่างเช่น "บัลเล่ต์" (Ballet) ที่ได้รับการบรรจุเป็นหลักสูตรพื้นฐาน เพื่อการเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญทั่วโลก ศาสตราจารย์ ดร.ไพศาล มุณีสว่าง อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นับเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะ "ปัญญาของแผ่นดิน" ตามปณิธานของมหาวิทยาลัยมหิดล ที่ได้มีโอกาสร่วมวิจัยกับนักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยโตรอน

จากความสำเร็จที่ได้ออกแบบระบบโลจิสติกส์อั... ม.มหิดลเตรียมสร้าง Digital Medical Hub ขยายผลโลจิสติกส์ จากภาคสาธารณสุข สู่ภาคการเกษตร — จากความสำเร็จที่ได้ออกแบบระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะ นับตั้งแต่ช่วงวิก...

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกั... วิศวะมหิดล สร้างสรรค์ "จดจำ" อุปกรณ์จดบันทึกเพื่อน้องในโลกมืดและผู้พิการทางสายตา — คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ สถาบันราชสุดา คณะแพทยศาสตร์โ...

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นำโดย ... วิศวะมหิดล ผนึกความร่วมมือกับ โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี พัฒนาเยาวชน การศึกษา และการวิจัย — คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นำโดย รศ.ดร.ธนภัทร์ วานิชานนท์...

การใช้เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาอาหาร ยังคงมี... ม.มหิดลมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีอาหารยกระดับเศรษฐกิจชุมชนและประเทศชาติ — การใช้เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาอาหาร ยังคงมีความท้าทายในทุกยุคทุกสมัย เช่นเดียวกับมหาวิทยาล...

ปัจจุบันทั่วโลกตื่นตัวเตรียมพร้อมวัดและปร... ม.มหิดลแนะโลจิสติกส์สีเขียว สร้างได้ไม่เพิ่มต้นทุน เสริมเศรษฐกิจชาติยั่งยืน — ปัจจุบันทั่วโลกตื่นตัวเตรียมพร้อมวัดและประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์อย่างกว้างขวา...

ข่าวดีสำหรับเยาวชนนักเรียน ในการเตรียมตัว... 7 ก.ย. วิศวะมหิดล จัดเวิร์กชอปเพื่อเยาวชน "เตรียม Port(folio)แบบตัวตึง สอบสัมภาษณ์แบบถึงใจ" — ข่าวดีสำหรับเยาวชนนักเรียน ในการเตรียมตัวศึกษาต่อสู่อนาคตที่...

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตอกย้ำ... วิศวะมหิดล เดินหน้าพัฒนา 'วิศวศึกษายุคใหม่' ผนึกความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยจากญี่ปุ่นและไต้หวัน — คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตอกย้ำความร่วมมือกับ มห...