TEI ผนึกกำลัง ก.ล.ต. พร้อมด้วย 28 องค์กรพันธมิตร เปิดตัวโครงการ "ถนนวิภาวดีฯ ไม่มีขยะ (ระยะที่ 2) : ร่วมขับเคลื่อนตลาดทุนไทยสู่ความยั่งยืน" สานต่อการบริหารจัดการขยะภายในองค์กร

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกับ 28 องค์กรพันธมิตร ได้ร่วมกันจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ "ถนนวิภาวดีฯ ไม่มีขยะ (ระยะที่ 2) : ร่วมขับเคลื่อนตลาดทุนไทยสู่ความยั่งยืน" โดยเป็นการจัดงานแถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์ Zoom และ ผ่านทาง Facebook Live ของ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และ Facebook Live เพจ "สำนักงาน กลต." เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด COVID-19 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแถลงข่าวเปิดตัวและนำเสนอกรอบแผนการดำเนินงานโครงการฯ ระยะที่ 2 พร้อมทั้ง รายงานสรุปผลการดำเนินงานโครงการฯ ระยะที่ 1 ที่ผ่านมา ให้กับองค์กรภาคีเครือข่ายและสังคมได้รับทราบข้อมูลในวงกว้าง พร้อมทั้ง องค์กรพันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 2 ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์เพื่อร่วมสนับสนุนการขับเคลื่อนและขยายผลการดำเนินงานโครงการฯ เพื่อพัฒนาสู่โมเดลการบริหารจัดการขยะภายในองค์กร โดยเป็นการส่งเสริมให้ธุรกิจในประเทศไทยดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล ควบคู่ไปกับการคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อนำพาธุรกิจสู่ความยั่งยืน

TEI ผนึกกำลัง ก.ล.ต. พร้อมด้วย 28 องค์กรพันธมิตร เปิดตัวโครงการ "ถนนวิภาวดีฯ ไม่มีขยะ (ระยะที่ 2) : ร่วมขับเคลื่อนตลาดทุนไทยสู่ความยั่งยืน"  สานต่อการบริหารจัดการขยะภายในองค์กร

โดยงานแถลงข่าวในครั้งนี้ ดร. วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) กล่าวต้อนรับและกล่าวรายงานว่า "ปัจจุบันสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยได้มีการดำเนินงานร่วมกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม ทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในระดับเชิงนโยบายและการปฏิบัติในระดับพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การอนุรักษ์ การพัฒนาและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล อันจะเป็นรากฐานสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันประเทศไทยและทั่วโลกต่างก็ประสบกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้ส่งผลกระทบต่อทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ปัญหาจากขยะ ขยะพลาสติกและการบริหารจัดการขยะที่ไม่เต็มประสิทธิภาพก็ได้กลายมาเป็นปัญหาหลักทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค ซึ่งได้บรรจุอยู่ในวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติเช่นกัน และส่วนของประเทศไทยทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ได้มีความตระหนักถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอย และขยะพลาสติกโดยรัฐบาลไทยได้ประกาศให้การจัดการปัญหาขยะมูลฝอยยกระดับเป็น "วาระแห่งชาติ" โดยการมุ่งเน้นการลดการเกิดขยะมูลฝอยตั้งแต่ต้นทาง ควบคู่กับการนำวัสดุใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำและนำมาใช้ประโยชน์ใหม่ นอกจากนี้ ยังมีการบรรจุเรื่องการจัดการขยะอย่างยั่งยืนไว้ในโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวาระแห่งชาติด้านเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy Model) อีกด้วย ทั้งนี้ การร่วมขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาของประเทศ ด้านการบริหารจัดการขยะสามารถดำเนินการได้โดยการเริ่มต้นจากการบริหารจัดการขยะภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพ และส่งต่อความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์และองค์ความรู้ในกลุ่มธุรกิจและถ่ายทอดองค์ความรู้ไปสู่สังคมภายนอก เพื่อแสดงถึงพลังจากการรวมตัวขององค์กรภาคธุรกิจในการขับเคลื่อนสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน และสามารถขยายผลไปสู่ธุรกิจต้นแบบด้านความยั่งยืนและธุรกิจคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Business) พร้อมทั้ง ร่วมสนับสนุนและผลักดันนโยบายระดับประเทศ โดยจะร่วมสร้างต้นแบบที่ถนนวิภาวดี TEI ผนึกกำลัง ก.ล.ต. พร้อมด้วย 28 องค์กรพันธมิตร เปิดตัวโครงการ "ถนนวิภาวดีฯ ไม่มีขยะ (ระยะที่ 2) : ร่วมขับเคลื่อนตลาดทุนไทยสู่ความยั่งยืน"  สานต่อการบริหารจัดการขยะภายในองค์กร

ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นมาในการขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้โครงการ "ถนนวิภาวดีฯ ไม่มีขยะ (ระยะที่ 2) : ร่วมขับเคลื่อนตลาดทุนไทยสู่ความยั่งยืน" ซึ่งโครงการในระยะที่ 2 นี้ จะเป็นการดำเนินงานที่สานต่อการบริหารจัดการขยะภายในองค์กรและประสบการณ์ที่ได้จากการดำเนินงานในระยะแรกไปใช้ในการวางแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ และต่อยอดขยายผลการดำเนินงานโครงการ เพื่อพัฒนาสู่โมเดลการบริหารจัดการขยะภายในองค์กรที่จะนำไปปรับใช้และขยายผลต่อไป โดยในโครงการระยะที่ 2 ได้มีองค์กรพันธมิตรจากภาคธุรกิจไทยเข้าร่วมจำนวน 29 องค์กร จาก 19 อาคารหลักที่ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันและเสริมสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการดำเนินงานธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งปัจจุบันองค์กรภาคธุรกิจได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของประเทศ ได้แก่ วาระแห่งชาติ BCG และการมุ่งไปสู่คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ตามเป้าหมายระยะยาวของประเทศต่อไป และจะเป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจดังกล่าวเป็นการตอบสนองนโยบายของภาครัฐในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความยั่งยืนในอนาคต"

พร้อมทั้ง ได้รับเกียรติจาก นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวเปิดงานว่า "สำนักงาน ก.ล.ต. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลและพัฒนาตลาดทุนไทยเล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมและมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนภาคธุรกิจในตลาดทุนไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ครอบคลุมมิติต่าง ๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดประเด็นความยั่งยืนเป็นหนึ่งในเรือธงของแผนยุทธศาสตร์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งสอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และนโยบายโมเดลเศรษฐกิจใหม่ คือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) ตลอดจนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN SDGs) สำหรับมิติด้านสิ่งแวดล้อม สำนักงาน ก.ล.ต. มีนโยบายที่จะสนับสนุนการดำเนินธุรกิจคาร์บอนต่ำ โดยร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาคธุรกิจในตลาดทุน อันนำไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำของประเทศไทย ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ในฐานะสมาชิกและผู้ริเริ่มโครงการ ถนนวิภาวดีฯ ไม่มีขยะ ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการขยะภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม รวมทั้งได้ผลักดันและสนับสนุนโครงการ ถนนวิภาวดีฯ ไม่มีขยะ ระยะที่ 2 โดยให้การสนับสนุนมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยเป็นผู้ดำเนินโครงการ เพื่อเป็นต้นแบบและขยายผลต่อยอดไปสู่พื้นที่อื่นในวงกว้างต่อไป พร้อมสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนที่เข้าร่วมโครงการฯ ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะสะท้อนถึงภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรในระยะยาว นอกจากนี้ บริษัทจดทะเบียนยังสามารถนำผล การดำเนินงานภายใต้โครงการฯ นี้ เปิดเผยข้อมูลในแบบ 56-1 One Report ตามหลัก ESG ที่มีผลบังคับใช้ในปี 2565 ได้อีกด้วย

การร่วมประกาศเจตนารมณ์ขององค์กรพันธมิตรในวันนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ภาคธุรกิจได้ร่วมแสดงพลังความร่วมมือในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบโดยคำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อม และมีธรรมาภิบาล ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต. พร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินงานของภาคธุรกิจในตลาดทุนเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นที่เชื่อถือและยอมรับในระดับสากล"
และภายในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการฯ ระยะที่ 2 ได้รับเกียรติจากผู้บริหารจากองค์กรพันธมิตรจากภาคธุรกิจไทยได้มาร่วมประกาศเจตนารมณ์ เพื่อร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันและเสริมสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการดำเนินงานธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้ง เพื่อช่วยขับเคลื่อนวาระแห่งชาติต่าง ๆ ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน อันเป็นแบบอย่างอันดีให้แก่องค์กรอื่น ๆ และพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศต่อไป


ข่าวสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์+สถาบันสิ่งแวดล้อมไทยวันนี้

ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศและคู่มือสำหรับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การทำรายการที่มีนัยสำคัญ และการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศและคู่มือสำหรับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การทำรายการที่มีนัยสำคัญ (Material Transaction: MT) และการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน (Related Party Transaction: RPT) ของบริษัทจดทะเบียน เพื่อให้หลักเกณฑ์มีความชัดเจน สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน และยกระดับการปกป้องคุ้มครองสิทธิผู้ลงทุน รวมถึงจัดทำคู่มือเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้บริษัทจดทะเบียนและผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถศึกษาและใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์

บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) ("AUR... AURA ออกหุ้นกู้มีหลักประกันครั้งแรก เปิดจอง 5 - 7 ส.ค.นี้ อัตราดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี — บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) ("AURA" หรือ "บริษัท" ) ผู้นำค้า...

ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและการเปิดเผยต่อ ก.ล.ต.

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเก็บรวบรวมและเปิดเผยข้อมูลต่อ ก.ล.ต. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ...

ก.ล.ต. แจ้งเตือนผู้ถือหุ้นกู้ EA จำนวน 14 รุ่น ใช้สิทธิในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ในวันที่ 27 มิถุนายน 2568

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอให้ผู้ถือหุ้นกู้ EA จำนวน 14 รุ่น ใช้สิทธิในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ศึกษาข้อมูล ซักถามผู้ออกหุ้นกู้หรือผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อให้...

ก.ล.ต. มีแนวคิดปรับปรุงหลักเกณฑ์การ Lock up หุ้นที่เสนอขายในราคาต่ำกว่า IPO และการเสนอขายหุ้นในราคาต่ำกว่า IPO/PO ของบริษัทต่างประเทศให้เทียบเท่าบริษัทไทย

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อการปรับปรุงหลักเกณฑ์การเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชน...

ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แล... แคปปิตอล วัน น้อมรับคำสั่ง ก.ล.ต. สั่งพักการให้ความเห็นชอบ และยืนยันแนวทางยกระดับกระบวนการทำงาน — ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์...

ก.ล.ต. สั่งพักการให้ความเห็นชอบ Capital One ในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งพักการให้ความเห็นชอบในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) (Capital One) ...

ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์ ICO portal ให้สามารถ outsource ระบบงานเพิ่มเติมได้ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการประกอบธุรกิจ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการมอบหมายงาน ให้บุคคลอื่นเป็นผู้รับดำเนินการ (outsource) และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้...

ก.ล.ต. มีแนวคิดปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการกำหนดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับกองทุนรวมให้มีความเหมาะสม ชัดเจน เป็นธรรม และสะท้อนบริการที่ผู้ลงทุนได้รับ และไม่สร้างภาระแก่ผู้ลงทุนเกินควร

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการเรื่อง การปรับปรุงหลักเกณฑ์การคำนวณและ...