บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ เคพีไอ (KPI) เผยวิสัยทัศน์ใหม่ปี 2565 เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเชื่อมโยงทุกมิติชีวิต ด้วยเทคโนโลยีและบริการที่ทุกคนเข้าถึงง่าย พร้อมสร้างคุณค่าแก่สังคมไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เร่งต่อยอดธุรกิจในปี 2565 ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับตรงเพิ่มอีกอย่างน้อย 5 พันล้าน ในปี 2565 ผ่านการทำกลยุทธ์ธุรกิจแบบ O2O (Offline-to-Online) ผสานคุณค่าจากธุรกิจออฟไลน์ไปยังออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง ตลอดจนการขยายกลุ่มตัวแทน นายหน้า พันธมิตรคู่ค้า มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน เคพีไอ ได้มีการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมเข้ามาต่อยอดระบบการทำงาน เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่หลากหลายเพื่อตอบรับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล
นอกจากนี้ เคพีไอ ยังตั้งเป้าในการเพิ่มลูกค้าให้ได้จำนวน 5 ล้านรายในปี 2570 ด้วยการนำกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2565 มาปรับใช้และให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจแบบออฟไลน์ร่วมกับ กลุ่มตัวแทน นายหน้า พันธมิตรคู่ค้าทั่วประเทศ ผสานการใช้โมเดลธุรกิจแบบออนไลน์ ด้วยการใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาออกแบบระบบการทำงาน เพื่อรองรับตัวแทน นายหน้า ให้สามารถบริหารจัดการงานขายทุกกระบวนการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะดวกและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น รวมถึงการมุ่งเน้นการให้บริการลูกค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่จะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เน้นความสะดวก รวดเร็ว และเข้าถึงการใช้บริการได้ง่ายขึ้นบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟน นอกจากการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากรภายในองค์กร ให้มีทักษะในการนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้ในการทำงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลถึงการสร้างยอดขายและการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างดีที่สุด
ดร.พงษ์ภาณุ ดำรงศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ในปี 2565 นี้ เคพีไอ ได้วางแผนกลยุทธ์การทำงานให้สอดคล้องไปกับวิสัยทัศน์ใหม่ของบริษัทฯ เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะกับธุรกิจประกันภัย ที่ต้องปรับตัวอย่างมากให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความต้องการแบบใหม่ ๆ ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือกับคู่ค้าพันธมิตรธุรกิจ ตัวแทน นายหน้าทั่วประเทศ เพื่อให้พวกเขาสามารถทำงานได้ง่ายขึ้นและทุกที่ ทุกเวลา ที่เขาต้องการ"
เคพีไอ ตั้งเป้าในการผลักดันให้ประกันภัยเข้ามามีบทบาทสำคัญที่จะเชื่อมโยงเข้ากับทุกมิติชีวิตของผู้บริโภคให้มากขึ้น ผ่านแนวคิดในการทำงานดังนี้
- การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาพัฒนาระบบการทำงาน เพื่อให้สามารถออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่ผู้บริโภคทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ง่าย
- การใช้กลยุทธ์ด้านการบริหารงานแบบ O2O (Offline-to-Online) ที่ให้ความสำคัญกับคู่ค้าพันธมิตรธุรกิจ ตัวแทน นายหน้าทั่วประเทศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นการผสมผสานและสร้างคุณค่าให้กับตัวแทน นายหน้า ด้วยการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมาเพื่อรองรับให้การทำงานของตัวแทน นายหน้าให้คล่องตัวขึ้น เช่น การนำเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันภัย การนำเสนออัตราเบี้ยประกันภัย การจัดการกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการเชื่อมต่อข้อมูลในระบบของแต่ละตัวแทน นายหน้านั้น ๆ ให้สามารถจัดการข้อมูลของตัวเองได้ โดยวางเป้าที่จะเพิ่มจำนวนตัวแทนและนายหน้าอีก 700 ราย ภายในกลางปี 2565 นี้
- การพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ เพื่อให้บริการลูกค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ด้วยแนวคิดการออกแบบเฉพาะบุคคล (Personalization) ที่ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลและเข้าถึงบริการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ด้วยตนเอง นอกจากนี้ เคพีไอ ยังมีบริการเสริมอีกมากมายเพื่อให้บริการกับลูกค้า โดยร่วมกับพันธมิตรธุรกิจที่หลากหลาย
เคพีไอ ในฐานะบริษัทประกันวินาศภัยสัญชาติไทยที่ดำเนินธุรกิจด้านประกันภัยมาอย่างต่อเนื่องจนย่างเข้าปีที่ 69 และยังเป็นหนึ่งในบริษัทประกันภัยที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจที่มีความมั่นคงด้านการเงิน ล่าสุดข้อมูลอ้างอิงสรุป ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ได้เผยให้เห็นว่าบริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 37.88% อยู่ที่ 16,300 ล้านบาท และมีรายได้เบี้ยประกันภัยตรงรับรวมเติบโตถึง 15.44% อยู่ที่ 4,540 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปี 2563
"เคพีไอ ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ที่ก่อให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่ธุรกิจประกันวินาศภัยจะเติบโตไปได้อีกมาก จึงถือเป็นโจทย์ที่สำคัญและท้าทายของบริษัทฯ ที่จะต้องเร่งปรับกลยุทธ์องค์กรให้สอดรับกับสิ่งใหม่นี้อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในตลาดที่มีการแข่งขันสูง มีเทคโนโลยีและเทรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เคพีไอจึงให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เข้าถึงง่ายบนแพลตฟอร์มดิจิทัล การพัฒนาช่องทางการขายบนระบบออนไลน์ การพัฒนาความสัมพันธ์กับคู่ค้าใหม่ ๆ เพื่อเสริมศักยภาพให้กับธุรกิจองค์กร ตลอดจนการดำเนินธุรกิจที่ควบคู่กับการสร้างคุณค่า ดูแลคนในสังคม คำนึงถึงผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อบรรลุเป้าหมายของการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน" ดร. พงษ์ภาณุ กล่าวสรุป
บางจากฯ ร่วมมือกับ Noovoleum เดินหน้าโครงการ Ucollect Box ตู้รับซื้อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วแบบอัตโนมัติ เพื่อผลิต SAF
ตอบแทนความผูกพัน "ยิ่งอยู่นาน ยิ่งรักกัน" ทรู คอร์ปอเรชั่น มอบของขวัญรับปีใหม่ เสิร์ฟสุขเลือกได้ ชวนอิ่มฟรีวันเดียว บาร์บีคิว พลาซ่า หรืออร่อยข้ามปีกับแบรนด์ดัง ห้ามพลาด! เช็กสิทธิ์ 18-22 ธ.ค. นี้
Central Pattana wins the Prime Minister Award 2025 for "Innovation for Sustainability," reinforcing its leadership as a Centre of Life and Thailand's No.1 real estate developer on the path toward Net Zero 2050
เซ็นทรัลพัฒนา คว้ารางวัล Prime Minister Award 2025 'Innovation for Sustainability' ตอกย้ำผู้พัฒนา Centre of Life และผู้นำการเติบโตอย่างยั่งยืน สู่เป้าหมาย NET Zero 2050
Bangchak Group Reinforces the Strength of Thai Brands with Continued Superbrands Recognition
กลุ่มบริษัทบางจาก ย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ไทย คว้ารางวัล Superbrands ต่อเนื่อง
"ศิริราช-กาญจนา" มุ่งสู่การเป็นสถาบันการแพทย์ชั้นนำ เปิดตัว "ศูนย์ความเป็นเลิศ GJCOE" ยกระดับบริการทางการแพทย์แบบไร้รอยต่อ
PTTT Partners with Centrica to Strengthen Competitiveness in the Asian LNG Market
PTTT ผนึก Centrica เดินหน้ายกระดับศักยภาพการแข่งขันในตลาด LNG ระดับเอเชีย