ธปท.ชี้ไทยยังไม่เผชิญ Stagflation ขณะที่วิจัยกรุงศรีปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้เติบโตเหลือ 2.8% นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธปท. ระบุว่าไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเงินเฟ้อสูง (Stagflation) เพราะจะเกิดภาวะนั้นได้เศรษฐกิจไทยต้องชะลอตัวและเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่มองว่าเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มการฟื้นตัวต่อเนื่องแม้ในระยะข้างหน้าอาจชะลอตัวลงบ้างจากความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มเร่งขึ้นจากราคาน้ำมันซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยชั่วคราวและเฉลี่ยทั้งปีมีโอกาสเกินกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 3%
วิจัยกรุงศรีประเมินในกรณีฐานหากสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนมีการสู้รบยืดเยื้อไปจนถึงไตรมาส 2/2565 ทำให้ชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงมากขึ้น โดยมีการห้ามนำเข้าสินค้าที่ไม่ใช่พลังงานจากรัสเซียไปจนถึงกลางปีหน้า กระทบการผลิตและการค้าของโลกลดลง ซึ่งจะเชื่อมโยงมาสู่การส่งออก การผลิต และภาคท่องเที่ยวของไทย ล่าสุดวิจัยกรุงศรีจึงปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตชะลอลงเหลือ 2.8% จากเดิมคาด 3.7% โดยปรับลดมูลค่าการส่งออก (รูปดอลลาร์) ขยายตัวอยู่ที่ 2.6% จากเดิมคาด 5% นอกจากนี้ ภาพการส่งออกที่อ่อนแอลง ขณะที่ราคานำเข้าที่พุ่งสูงขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะราคาพลังงาน ประกอบกับรายได้จากการท่องเที่ยวที่ลดลง จึงอาจนำไปสู่การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่องในปีนี้ อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวเร่งขึ้นโดยทั้งปีคาดว่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.8% อาจบั่นทอนกำลังซื้อและทำให้การบริโภคของผู้มีรายได้ในแต่ละกลุ่มฟื้นตัวได้แตกต่างกัน การคาดการณ์อัตราการเติบโตของการบริโภคภาคเอกชนในปีนี้จึงปรับลดลงเหลือ 3.0% จากเดิมคาด 3.8% แม้การใช้จ่ายอาจได้รับแรงหนุนจากการปรับดีขึ้นของรายได้เกษตรกรที่ได้อานิสงส์จากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์อยู่บ้างก็ตาม
ทางการผ่อนคลายมาตรการเปิดประเทศเพิ่มเติม ขณะที่การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวยังเผชิญหลายแรงกดดัน การประชุมของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบค.) วันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบปรับระดับพื้นที่ของสถานการณ์การระบาดเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ โดยปรับพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) เหลือ 20 จังหวัด (จาก 44 จังหวัด) พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) เป็น 47 จังหวัด (จาก 25 จังหวัด) พื้นที่สีฟ้า (นำร่องการท่องเที่ยว) เป็น 10 จังหวัด (จาก 8 จังหวัด) นอกจากนี้ ยังมีการผ่อนคลายมาตรการ Test & Go เพิ่มเติม โดยปรับเกณฑ์ไม่ต้องแสดงการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ในช่วง 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง แต่ให้ตรวจ RT-PCR ในวันแรกที่เดินทางถึงไทย และตรวจแบบ ATK ในวันที่ 5 ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน
แม้ทางการไทยจะมีการปรับปรุงมาตรการเพื่ออำนวยความสะดวกและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ แต่การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวอาจยังเผชิญแรงกดดันจากหลายปัจจัยลบ อาทิ i) จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงการยกระดับไทยเป็นพื้นที่มีความเสี่ยงสูง (ระดับ 4) จากสหรัฐฯเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว ii) การสู้รบระหว่างรัสเชีย-ยูเครนที่มีแนวโน้มยืดเยื้อถึงไตรมาส 2 ซึ่งนอกจากจะส่งผลทางตรงต่อนักท่องเที่ยวรัสเซียที่เดินทางมาไทยในช่วงที่เหลือของปีแล้ว ทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอลง ส่งผลกระทบเชิงลบต่อรายได้ ขณะที่วิกฤตราคาพลังงานส่งผลต่อต้นทุนการเดินทางขยับขึ้นทำให้นักท่องเที่ยวอาจชะลอการเดินทางออกไป ล่าสุดวิจัยกรุงศรีปรับลดคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้อยู่ที่ 5.5 ล้านคน จากเดิมคาด 7.5 ล้านคน
'มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย)' เคาะราคาหุ้นละ 8.60 บาท ระดมทุน 5.6 พันล้านบาท
NITMX แอนท์ อินเตอร์เนชันแนล และธนาคารกรุงไทย ขยายการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินระหว่างไทย-จีน ผ่านพร้อมเพย์
NITMX, Ant International and Krungthai Bank Expand Payment Connectivity Between Thailand and China via PromptPay
บล.วีบูลล์-สมาคมนักลงทุนประเทศไทย- Elysium Trader
กสิกรไทย ผนึกกำลัง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ อบก. Kubix และ Orbix Technology เปิดตัวโครงการนำร่องทดสอบการแปลงคาร์บอนเครดิตเป็นโทเคนดิจิทัล ครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้กรอบ Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย
แตะจ่ายรถไฟฟ้า MRT ด้วยบัตรกรุงศรี เดบิต หรือบัตร Krungsri Boarding Card รับฟรี Potato Corner มูลค่า 89 บาท
"MMM" ลุย Roadshow 27 ต.ค.นี้ ก่อนเปิดขายหุ้น PO 64.2 ล้านหุ้น เร็วๆ นี้
SABINA ประเมินไตรมาสสุดท้ายสัญญาณใช้จ่ายกระเตื้อง เดินหน้าอัดแคมเปญ พร้อมเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ กระตุ้นกำลังซื้อโค้งสุดท้าย
"กอช." ผนึกกำลังหน่วยงานพันธมิตร ขยายช่องทางการจำหน่าย และชำระเงิน "สลาก กอช." ครอบคลุมทุกช่องทาง