วายแอลจี เผยทองคำดีดกลับหลังนักลงทุนคลายกังวลผลการประชุมเฟด ที่ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ไม่ได้ใช้ยาแรงเกินคาดหมาย และลดงบดุลแบบค่อยเป็นค่อยไปน้อยกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่นักลงทุนยังกังวลเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง แต่ยังต้องจับตาการประชุมอีก 2 ครั้งถัดไป สำหรับคนรับความเสี่ยงได้ แนะเพิ่มโอกาสการลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยล่าสุด วายแอลจีจับมือ CME ตลาดฟิวเจอร์สอันดับหนึ่งของโลก ให้บริการลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเทศ ลงทุนได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง ไม่เว้นวันหยุดราชการไทย ลงทุนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่พลาดโอกาสการลงทุนแม้แต่วันเดียว ส่วนกลยุทธ์การลงทุน แนะรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,889-1,877 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,860 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หรือหากรับความเสี่ยงได้ไม่มากอาจเลือกทยอยปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไรเล่นรอบบริเวณโซนแนวต้าน 1,920-1,934 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนทองคำในประเทศคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30,000 - 31,200 บาทต่อบาททองคำ
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (TFEX) เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้น หลังการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงวันที่ 3-4 พ.ค. ที่ผ่านมาเสร็จสิ้น ซึ่งนักลงทุนในตลาดมองว่าเฟดไม่ได้ใช้ยาแรงเกินไปกว่าความคาดหมาย ทั้งนี้ เฟด มีมติ "ขึ้น" อัตราดอกเบี้ย 0.50% หรือ 50 bps สู่ระดับ 0.75-1.00% พร้อมประกาศแผนการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening หรือ QT) ซึ่งจะ "เริ่มต้น" ดำเนินการปรับลดงบดุลในวันที่ 1 มิ.ย. ในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน (แบ่งเป็นลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล 3 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน และลดการถือครองหลักทรัพย์ MBS 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน) และการลดงบดุลจะเพิ่มขึ้นจนแตะระดับสูงสุดที่ 9.5หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนภายใน 3 เดือน นอกจากนี้ ปัจจัยหลักที่หนุนราคาทองคำมาจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ที่ได้ปฏิเสธแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยมากถึง 0.75% แม้มีความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นรุนแรงก็ตาม นั่นทำให้นักลงทุนปิดโอกาสความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย. ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปีของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 2.9149% ส่วนดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 102.457 จนเป็นที่มาที่ทำให้ราคาทองคำทะยานขึ้นจนกระทั่งทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,903.28 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเช้าของวันนี้ในตลาดเอเชีย
อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของราคาทองคำในครั้งนี้มองว่า จะเป็นการปรับขึ้นในกรอบจำกัด ซึ่งยังต้องระวังแรงขายสลับออกมาเป็นระยะ เนื่องจากทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังเป็นไปในลักษณะแข็งค่า รวมทั้งทิศทางดอกเบี้ยที่ยังคงเป็นขาขึ้นจากการกลับมาคุมเข้มนโยบายของเฟด
นอกจากนี้นักลงทุนได้ลดความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดในรัสเซียกับยูเครน โดยเฉพาะกรณีที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ออกมาระบุว่าสถานการณ์ความขัดแย้งนี้จะมีโอกาสน้อยมากที่จะพัฒนาไปสู่ส่งครามโลกครั้งที่ 3 ทำให้เริ่มกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้ตลาดหุ้นเริ่มปรับตัวกลับขึ้นมา ทำให้นักลงทุนประเมินว่าตลาดหุ้นสหรัฐอาจมีสัญญาณดีดตัวขึ้นมา ซึ่งการเข้าซื้อหุ้นของวอร์เรน บัฟเฟตต์ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนเป็นอย่างมาก จนบั่นทอนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
สำหรับคำแนะนำนักลงทุนในช่วงนี้ แนะนำให้หาจังหวะทยอยขายทำกำไรทองคำออกบางส่วน เมื่อราคามีการปรับตัวขึ้น เพราะแม้ประเด็นเงินเฟ้อยังอยู่ระดับสูง แต่ยังต้องจับตาการประชุมของเฟดในรอบถัดไป เพื่อรอราคาย่อตัวลงมาอีกครั้งจึงค่อยเข้าซื้อตามบริเวณแนวรับ ทั้งนี้ประเมินกรอบแนวต้านบริเวณ 1,920-1,934 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และประเมินกรอบแนวรับบริเวณ 1,889-1,877 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดแนวรับดังกล่าวจะมีแนวรับต่อไปบริเวณ 1,860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นอกจากนี้ แนะนำนักลงทุนยังสามารถลงทุนผ่านตลาดซื้อขายล่วงหน้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศนั้น วายแอลจีได้ร่วมมือ กับ ซีเอ็มอี กรุ๊ป อิงค์ (CME Group Inc) ผู้ให้บริการตลาด Futures อันดับหนึ่งของโลกจากสหรัฐฯ ที่มีสินค้าที่สำคัญต่อเศรษฐกิจโลกครอบคลุม ทองคำ น้ำมันดิบ ดัชนีหุ้นสหรัฐ cryptocurrency สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง อีกทั้ง สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชม. ไม่เว้นวันหยุดของประเทศไทย จึงทำให้นักลงทุนไม่พลาดโอกาสการลงทุนแม้แต่วันเดียว
ทั้งนี้วายแอลจีมีมองกรอบการเคลื่อนไหวทองคำในประเทศคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30,000 - 31,200 บาทต่อบาททองคำ
ครั้งแรกในไทย "บิ๊กซี x เถ้าแก่น้อย" ยกทัพสาหร่ายส่งออกจากทั่วโลก มาให้ช้อปที่ บิ๊กซี ราชดำริ ที่เดียว !
"แสนสิริ" ผนึก "ไทยเวย์ พร็อพเพอร์ตี้" Global Launch รุกตลาดต่างชาติเต็มสูบ เปิดขาย 2 คอนโดใหม่ 'WIDEN และ XELF' ตั้งเป้า 2.4 พันล้าน
YouTrip ปล่อยบิลบอร์ดทั่วกรุง ชวนสงสัย!! แต่โดนใจสุดๆๆ เดินหน้าย้ำความเป็นผู้นำ Travel Card อันดับหนึ่งของไทย
TOA กำไรไตรมาส 2/68 พุ่งแรงกว่า 36.7% จ่ายปันผลครึ่งปีแรก 0.36 บาทต่อหุ้น ตอกย้ำความแข็งแกร่งและเติบโตยั่งยืน
ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว "ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว" ครั้งแรกของโลก ชูธง SMART PROTEIN คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ
SABINA เปิดตัว "กรีน ลีฟวิ่ง สโตร์" ต้นแบบร้านยั่งยืนเพื่อสิ่งแวดล้อม ปักหมุดสาขาแรก ณ พุทธมณฑลสาย 5 ตอกย้ำแบรนด์แฟชั่นรักษ์โลก
เชลล์และบี-ควิก มอบเงินกว่า 2.6 ล้านบาท แก่ ร.พ.รามาธิบดี เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว
LINE อัปเดตเทรนด์ลักชัวรีในงาน FLAIR BKK '25 เปิดอินไซต์ผู้บริโภคยุคใหม่ สู่กลยุทธ์ดิจิทัล ดันไทยสู่ Luxury Destination
ATLAS เดินเครื่องเต็มกำลัง! หลังได้เงินไอพีโอ 1.2 พันลบ. บุกขยายธุรกิจ LPG ภาคครัวเรือน-ขนส่ง หนุนมาร์เก็ตแชร์ขึ้นผู้นำตลาด