บล.บัวหลวง บล.เคทีบีเอสที และ บล. ยูโอบี เคย์เฮียน แนะนำซื้อหุ้น "LEO" เคาะราคาเป้าหมายปี65อยู่ที่ 22 - 22.50 บาทต่อหุ้น ประเมินปัญหารัสเซีย-ยูเครน หนุนค่าระวางเรือพุ่ง 7% ขณะที่การเติบโตของกำไรขับเคลื่อนโดยทั้งธุรกิจเดิมที่ดี และมีธุรกิจใหม่ช่วยหนุน คาดกำไรทำ new high ถึงไตรมาส2/2565 แผนออกหุ้นกู้แปลงสภาพ (CB) และวอร์แรนท์ (LEO-W1) เป็นไอเดียการเงินที่ดีเยี่ยม เพิ่มกระแสเงินสดขยายธุรกิจอย่างมาก ผลักดันกำไรอนาคตโตแรง
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง เผยแพร่บทวิเคราะห์แนะนำ"ซื้อ"หุ้นบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ราคาเป้าหมาย 22.50 บาท เนื่องจากมองว่าเงินทุนรอบใหม่ ช่วยเร่งโอกาสเติบโตก้าวกระโดด โดยการเติบโตของกำไร LEO ขับเคลื่อนโดยทั้งธุรกิจเดิมที่ดีอยู่แล้ว คือ การขนส่งทางเรือ และอากาศ (ทั้งที่ทำกับ China Post และเพิ่งซื้อ WA เข้ามาเติม) และธุรกิจใหม่ (การเข้าทำ M&A บริษัทขนสงเพิ่ม ร่วมถึงการเริ่มธุรกิจขนส่งทางรางข้ามประเทศ) ปัจจัยชี้นำอื่นๆ ที่สำคัญ อาจมาจากปัญหาระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น จึงหนุนค่าระวางเรือสูงขึ้นไปอีก อย่างน้อยจึงคาดกำไรทำ new high ไปจนถึงไตรมาส 2/2565 ได้
ส่วนประเด็นการออกหุ้นกู้แปลงสภาพ (CB) และ warrant (LEO-W1) ฝ่ายวิจัยมองว่าเป็นไอเดียด้านการเงินที่ดีเยี่ยม กระทบราคาเป้าหมายน้อยมาก แต่อีกด้านช่วยเพิ่มกระแสเงินสดขยายธุรกิจอย่างมาก โดยหากให้สมมติฐานใช้เงิน 70% จาก CB และมีการแปลง warrant จะเป็น upside ต่อกำไร 21-28% ในระยะยาว (ขณะที่ dilution แค่ 12%)
บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คงคำแนะนำซื้อหุ้นLEO โดยปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 22 บาท อิง PER ที่ 27 เท่า (peers avg. เทรดอยู่ที่ 23.7เท่า) ซึ่งมองเป็นบวกต่อการประชุม Analyst meeting ประเด็นสำคัญได้แก่ ผู้บริหารคาดค่าระวางมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อในช่วง high seasonในไตรมาส 3/2565 และมองค่าเฉลี่ยทั้งปี จะคงระดับสูง
ส่วนรายได้ไตรมาส1/2565 ยังคงทำ new high ต่อเนื่อง คงเป้ารายได้ปี 2565 เติบโต 30-35% และคาด volume ของขนส่งทางทะเลโต 15-20% ขณะที่ volume ของขนส่งทางอากาศโต 25-30% หลังควบรวมกับบริษัท World Air ขณะที่ขนส่งทางรางยังอยู่ในช่วงทดลอง คาดจะเริ่มขนส่งจริงในช่วงปลาย ไตรมาส2/2565 รวมทั้งบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาดีล M&A กับบริษัทในอินโดนิเซีย และเวียดนาม ปรับประมานการกำไรปี 2565-2566 ขึ้น13% และ 14% มาที่ 265 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น33%จากงวดเดียวกันปีก่อน) และ 290 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 9% จากงวดเดียวกันปีก่อน) ตามลำดับ โดยเรามองบวกมากขึ้นต่อค่าระวางที่คาดว่าจะอยู่ในระดับสูง ใกล้เคียงปี2564
นอกจากนี้ได้รวมผลประโยชน์จากการควบรวมกับบริษัท World Air เข้ามา (ปี 2564 มีกำไรราว 50 ล้านบาท) และคาดว่าจะช่วยหนุนรายได้การขนส่งทางอากาศให้โตได้ที่30% จากงวดเดียวกันปีก่อน ส่วนการขนส่งทางรางร่วมกับ China post อาจมีความล่าช้า เนื่องจาก infrastructure ของทาง จีนยังไม่รองรับ ประเมินรายได้ในปี2565 ที่ 100 ล้านบาทจากการขนส่ง 1 พันตู้ ราคาหุ้น outperform เพิ่มขึ้น 23% เพิ่มขึ้น 26% ใน 3 และ 6เดือน ทั้งนี้คงคำแนะนำ "ซื้อ" จากกำไรที่คาดว่า จะยังทำ new high ได้ต่อเนื่อง และยังมีโอกาสทำ M&A ในต่างประเทศอีก 1-2 ดีล อย่างไรก็ตาม Key risk คือค่าระวางอาจปรับตัวลงได้หาก port congestion เริ่มคลี่คลาย
บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่าคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 22บาท อิงวิธี P/E ที่ 25 เท่า บนสมมุติฐานประมาณการ รายได้อย่างระมัดระวังที่ 4.5 พันลานบาทและอัตรากำไรขั้นต้นที่ 19% โดยในระยะสั้นคาดว่ากำไรของLEO ยังทำจุดสูงสุดต่อเนื่องในไตรมาส 1-2/2565 ทั้งนี้ การประมาณการกำไรปี 2565ไม่รวมโอกาสจาก M&A ที่เข้ามา ซึ่งคาดว่าตลาดจะปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิ และราคา เป้าหมายขึ้นมาใกล้เคียงกับที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้
ในขณะเดียวกัน นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ CEO ของ LEO ได้กล่าวว่า ยอดขายของบริษัทในไตรมาส 1 ยังคงเป็นนิวไฮอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างนิวไฮได้อย่างต่อเนื่องในไตรมาส 2 เนื่องจากอัตราค่าระวางเรือจากประเทศไทยไปยังสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่เป็นตลาดส่งออกสำคัญของประเทศไทยมีการปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อยระดับ 5-7% เท่านั้น ไม่ได้ปรับตัวลดลงถึงระดับ 40% ของ SCFI INDEX เนื่องจาก SCFI จะเป็นอัตราค่าระวางเรือที่ออกจากประเทศจีนและได้รับผลกระทบโดยตรงจากการ Locked Down ในเมืองท่าหลักๆ และทางบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป อัตราค่าระวางเรือจะกลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นฤดูกาลใหม่ของการส่งออกทั่วโลก และสินค้าในประเทศจีนที่ไม่ได้ถูกส่งออกในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเป็นตัวเร่งที่ทำให้ความต้องการของตู้และสเปซบนเรือพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและทำให้อัตราค่าระวางเรือสูงขึ้น
นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล (กลาง) ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายจิรายุทธ ภูวพูนผล (ที่ 4 จากขวา) ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่สายงานเกษตรอัจฉริยะ นายวรเดช สุชัยบุญศิริ (ที่ 3 จากขวา) ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ซัพพลายเชน รศ.นพ.สมศักดิ์ เชาว์วิศิษฐ์เสรี (ที่ 2 จากขวา) ประธานกรรมการ นายชัดชาญ เอกชัยพัฒนกุล (ขวา) ที่ปรึกษา บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ พร้อมด้วย นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
"OKJ" เซ็นสัญญาแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ พร้อมประกาศราคาขายหุ้น IPO 6.70 บาทต่อหุ้น เตรียมเปิดจองซื้อ 23 - 25 ก.ย. 67 นี้
—
นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล (...
KH Academy เปิดหลักสูตร Prep for Investment Analyst รุ่นที่ 2
—
สถาบันการเรียนรู้ KH Academy จัดงานเปิดตัวหลักสูตร Prep for Investment Analyst เตรียมความพ...
ธนาคารกรุงเทพ จัดเต็มส่งท้ายปี ห้ามพลาด! พบกับหลากหลายผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ครบวงจร
—
ธนาคารกรุงเทพ จัดเต็มส่งท้ายปีห้ามพลาด! พบกับหลากหลายผลิตภัณฑ์ทางการ...
DR 4 หลักทรัพย์ใหม่อ้างอิงหุ้นใหญ่ในยุโรปและ ETF จีนฮ่องกง เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก
—
ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งปร...
บมจ.เคซีจี คอร์ปอเรชั่น แต่งตั้ง Underwriter ประกาศราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 8.50 บาทต่อหุ้น
—
ดร.วาทิต ตมะวิโมกษ์ (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผ...
MEB ผู้นำธุรกิจ E-Book บริษัทในเครือ CRC เคาะราคาไอพีโอหุ้นละ 28.50 บาท เปิดจองซื้อ 3,6-7 ก.พ. 66 เข้าเทรด mai ประมาณวันที่ 14 ก.พ. นี้
—
บมจ. เมพ คอร์ปอเ...
"เบทาโกร" แต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์สำหรับการเสนอขายหุ้น IPO
—
นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบท...
DR "CN01" และ "CNTECH01" เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก
—
ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ รินใจ ชาครพิพัฒน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาด ตล...