สทนช.ติดตามมาตรการรับมือแล้ง จ.ลำปาง เร่งจัดทำผังน้ำลุ่มน้ำวัง หวังเป็นเครื่องมือบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

สทนช. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนกิ่วลม-เขื่อนกิ่วคอหมา ตาม 9 มาตรการรับฤดูแล้ง ปี 64/65 เดินหน้าจัดหาแหล่งน้ำสำรองไว้รองรับน้ำหลากเพื่อใช้แล้งหน้า พร้อมเร่งจัดทำผังน้ำลุ่มน้ำวัง หวังใช้เป็นเครื่องมือบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ป้องกันอุทกภัย-ภัยแล้งอย่างยั่งยืน

สทนช.ติดตามมาตรการรับมือแล้ง จ.ลำปาง เร่งจัดทำผังน้ำลุ่มน้ำวัง หวังเป็นเครื่องมือบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ

นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยในโอกาสลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการศึกษาจัดทำผังน้ำ ลุ่มน้ำปิง วัง ยม น่าน พื้นที่ลุ่มน้ำวัง และการบริหารจัดการน้ำตามมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้ง ปี 2564/2565 และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2565 ระหว่างวันที่ 19-20 เม.ย. 65 ในพื้นที่ลุ่มน้ำวัง จ.ลำปาง ว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของลุ่มน้ำวังอยู่ใน จ.ลำปาง มีเขื่อนขนาดใหญ่ที่สำคัญคือ เขื่อนกิ่วคอหมาและเขื่อนกิ่วลม ความจุรวม 276 ล้าน ลบ.ม. (ลูกบาศก์เมตร) สำหรับใช้เพื่ออุปโภคบริโภค การเกษตร และอุตสาหกรรม รวมทั้งใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังน้ำที่เขื่อนกิ่วคอหมา ส่วนเขื่อนขนาดกลาง มีความจุรวม 313 ล้าน ลบ.ม. แต่พื้นที่ลุ่มน้ำวัง มักประสบปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งเป็นประจำ เนื่องจากขนาดลำน้ำแคบ ทำให้น้ำไหลไม่สะดวก อีกทั้งมีการรุกล้ำการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณทั้งสองฝั่งลำน้ำ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการไหลของน้ำในฤดูน้ำหลาก รวมทั้งไม่สามารถทำการเก็บกักน้ำหลากไว้ใช้ประโยชน์ในช่วงฤดูแล้งได้อย่างเต็มศักยภาพ จากการศึกษา พบว่า ลุ่มน้ำวัง มีพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง 182,000 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 2.70 ของพื้นที่ลุ่มน้ำ โดยมีพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งรุนแรง ได้แก่ บริเวณ ต.บ้านเสด็จ อ.เมืองลำปาง และ ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ดังนั้น สทนช.จึงต้องเร่งดำเนินโครงการศึกษาจัดทำผังน้ำลุ่มน้ำวัง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการวิเคราะห์สภาพน้ำท่วมในเงื่อนไขต่างๆ เพื่อนำผลที่ได้ไปกำหนดรหัสโซนและเสนอแนะการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เหมาะสมกับรหัสโซน สทนช.ติดตามมาตรการรับมือแล้ง จ.ลำปาง เร่งจัดทำผังน้ำลุ่มน้ำวัง หวังเป็นเครื่องมือบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ

สำหรับการจัดทำผังน้ำ เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสนับสนุนแผนป้องกันแก้ไขสภาวะภัยแล้งและอุทกภัย บ่งชี้พื้นที่เก็บน้ำเมื่อคราวน้ำน้อยได้อย่างชัดเจน หรือเมื่อยามน้ำหลากสามารถชี้เส้นทางได้ว่าควรจะระบายน้ำออกในทิศทางใด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ รักษาคุณภาพน้ำ และไม่ทำให้เกิดการรุกล้ำทางน้ำ นอกจากนี้ ผังน้ำยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยตัดสินใจในการสร้างที่อยู่อาศัย โรงงาน นิคมอุตสาหกรรม ว่าจะอยู่ในพื้นที่น้ำหลากหรือไม่ หรืออยู่ในพื้นที่กีดขวางทางระบายหรือไม่ รวมถึงควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินในขอบเขตพื้นที่ตามระบบทางน้ำที่ได้กำหนดแนวเขตไว้ โดยผังน้ำจะกำหนดขอบเขตชัดเจนว่า บริเวณใดเป็นพื้นที่สงวนไว้ให้ทางน้ำโดยเฉพาะ โดยไม่มีสิ่งกีดขวางตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ

รองเลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากการติดตามความก้าวหน้าการจัดทำผังน้ำลุ่มน้ำวังแล้ว ยังได้ติดตามการบริหารจัดการน้ำเขื่อนกิ่วลม-เขื่อนกิ่วคอหมา ตามมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้ง ปี 2564/2565 ด้านความต้องการใช้น้ำ (DEMAND) มาตรการที่ 4 : กำหนดการจัดสรรน้ำฤดูแล้ง ซึ่งเมื่อสิ้นสุดฤดูฝนปี 2564 ปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนกิ่วลมและกิ่วคอหมา จะมีปริมาณน้ำรวมกันอยู่ที่ 174 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 62 ซึ่งกรมชลประทานได้วางแผนการบริหารจัดการน้ำในช่วงวันที่ 1 ธ.ค.64 ถึง 30 เม.ย.65 โดยจัดสรรน้ำสำหรับการอุปโภค-บริโภค 11.74 ล้าน ลบ.ม. เพาะปลูกพืชฤดูแล้ง 34,438 ไร่ รักษาระบบนิเวศและอื่นๆ อีก 18.27 ล้าน ลบ.ม. มั่นใจจะสามารถบริหารจัดการน้ำได้ตามแผนที่วางไว้ ตามนโยบายของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

"นอกจากนี้ พบว่ามีการพัฒนาขุมเหมืองร้างในพื้นที่เหมืองถ่านหินลิกไนต์แม่ทาน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ของ บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด (SCG) โดยสูบน้ำจากขุมเหมืองด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ วันละประมาณ 1,000 ลบ.ม. หรือ 1 ล้านลิตร เพื่อช่วยเหลือประชาชนใน ต.สันดอนแก้ว และ ต.ใกล้เคียง ซึ่งน้ำในขุมเหมืองนี้มีคุณภาพอยู่ในเกรดมาตรฐาน ที่สามารถนำมาอุปโภคได้ สอดคล้องกับมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้ง ปี 2564/2565 มาตรการที่ 2 : จัดหาแหล่งน้ำสำรองในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ โดย จ.ลำปาง จะนำโมเดลของขุมเหมืองแม่ทานไปพัฒนาอีก 10 ขุมเหมืองในพื้นที่ เพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำสำรองไว้ใช้ประโยชน์ในการบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งหน้า อีกทั้งยังสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดใช้กับขุมเหมืองอื่นๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศได้อีกด้วย" รองเลขาธิการ สทนช. กล่าวในตอนท้าย


ข่าวสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ+สำนักงานทรัพยากรน้ำวันนี้

สทนช. จับมือเขื่อนภูมิพล ปรับลดการระบายน้ำบรรเทาท่วมภาคกลาง

สทนช. ประชุมด่วนวางแผนปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล หลังคาดฝนภาคเหนือจะลดลงอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นวันพรุ่งนี้ จาก 55 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เหลือ 50 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน และวันถัดไปปรับลดอีกเหลือ 45 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เพื่อลดมวลน้ำที่ไหลลงสู่ภาคกลาง วันนี้ (15 พฤศจิกายน 2568) นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและวางแผนการบริหารจัดการน้ำเขื่อนภูมิพล โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ

สทนช. ระดมทุกหน่วยเดินหน้าคลี่คลายพื้นที่ท่วมขังหลังฝนตอนบนลดลง

เตรียมปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา พร้อมจับตาฝนตกหนักต่อเนื่องภาคใต้ สทนช. หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นชอบปรับลดการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เหลือ 10 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน พร้อมเตรียมทยอยปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อช่วย...

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติ... เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา — สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า จะ...

สทนช. เปิดศูนย์ส่วนหน้าฯ "ลุ่มน้ำยม-น่าน" จับมือทุกหน่วย คุมจราจรน้ำจากเหนือสู่เจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน

สทนช. เปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน ระดมทุกหน่วยจัดการจราจรน้ำที่ไหลจากภาคเหนือก่อนลงสู่อ่าวไทย โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ...

สทนช. ติดตามการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก พร้อมรับมืออุทกภัยปีนี้

สทนช. บูรณาการหน่วยงานประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าชั่วคราวฯ ลุ่มน้ำโขงเหนือ เร่งติดตามความก้าวหน้าการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก การก่อสร้างพนังกั้นน้ำ และการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ รับมืออุทกภัยปีนี้ พร้อมชู "จ....