กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ แจงการเปลี่ยนผ่านการดำเนินงานแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณ (แปลง G1/61) และแหล่งก๊าซธรรมชาติบงกช (แปลง G2/61) ราบรื่น ไร้การสะดุด ก้าวสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการปิโตรเลียมจากระบบสัมปทานสู่ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต เร่งเดินหน้าการผลิตก๊าซธรรมชาติให้ได้ตามเป้าหมายโดยเร็วที่สุด
 
                                                                                                                                        นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า การดำเนินงานช่วงเปลี่ยนผ่านของแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณ (แปลง G1/61) และแหล่งก๊าซธรรมชาติบงกช (แปลง G2/61) เมื่อวันที่ 23-24 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา เป็นไปอย่างราบรื่น โดยสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติจากทั้ง 2 แปลง ได้อย่างต่อเนื่องซึ่งกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้เตรียมพร้อมเพื่อรับมือการดำเนินงานช่วงเปลี่ยนผ่านของแหล่งก๊าซธรรมชาติ แปลง G1/61 และแปลง G2/61 โดยได้จัดตั้งวอร์รูม (War Room) เพื่อรองรับการบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินในลักษณะบูรณาการ ร่วมกับผู้รับสัมปทานรายเดิม ผู้รับสัญญารายใหม่ และผู้รับซื้อปิโตรเลียม โดยมีผู้บริหารของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติบัญชาการที่ห้องวอร์รูม รวมทั้งมีทีมเฉพาะกิจภาคสนามจำนวน 8 ทีม คอยติดตาม ควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิดบนแท่นผลิตในทะเลอ่าวไทย โดยประจำที่แปลง G1/61 และแปลง G2/61 จำนวน 5 จุด และประจำในเรือกักเก็บปิโตรเลียมอีก 3 จุด เพื่อตรวจสอบปริมาณการผลิตปิโตรเลียมรอบสุดท้ายในช่วงเวลาก่อนหมดอายุสัมปทาน รวมทั้งวัดปริมาณปิโตรเลียมที่คงค้างในเรือกักเก็บของทุกแหล่ง ก่อนที่จะมีการส่งมอบให้กับผู้รับสัญญารายใหม่อย่างเป็นทางการ อีกทั้งก่อนหน้านี้ กรมฯ ได้เตรียมความพร้อมโดยได้ตรวจติดตามสภาพความแข็งแรง ปลอดภัยของสิ่งติดตั้งและทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการปิโตรเลียมของทั้ง 2 แปลง รวมทั้งมีการปรับโครงสร้างหน่วยงาน และบรรจุบุคลากรเพิ่มเพื่อรองรับภารกิจดังกล่าวภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิตด้วย
                                                             
                                                                                                                            
ทั้งนี้ หลังจากมีการลงนามในสัญญาแบ่งปันผลผลิต โดยคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (ปตท.สผ.อีดี) เป็นผู้ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/61 และ G2/61 เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติในฐานะคู่สัญญาได้ดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้การผลิตก๊าซธรรมชาติเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม จากกรณีการเข้าพื้นที่เพื่อเตรียมการดำเนินการต่าง ๆ ในช่วงเปลี่ยนผ่าน (Transition period) ระหว่างผู้รับสัมปทานรายเดิม กับผู้รับสัญญารายใหม่ของแปลง G1/61 ไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้นั้นกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศ ได้พยายามประสานการเจรจาในการเข้าพื้นที่ระหว่างผู้รับสัมปทานรายเดิม กับผู้รับสัญญารายใหม่มาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทั้ง 2 ฝ่าย บรรลุข้อตกลงความร่วมมือต่าง ๆ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้รับสัญญารายใหม่สามารถเข้าพื้นที่ในแปลงดังกล่าวได้
"ในวันที่ 24 เมษายนนี้ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ที่จะมีการใช้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิตในกิจการปิโตรเลียม จากที่ใช้ระบบสัมปทานมากว่า 50 ปี ซึ่งกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบการดำเนินงาน ได้มีการเตรียมความพร้อมทุกด้าน และเตรียมแผนรับมือในทุก ๆ จุดที่จะทำให้การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีการสะดุด และทำให้กระบวนการผลิตก๊าซธรรมชาติเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ อัตราการส่งก๊าซธรรมชาติ ณ วันสิ้นสุดสัมปทานของกลุ่มเอราวัณอยู่ที่ 399 ล้านลูกบาศก์ฟุต ประกอบด้วย ก๊าซธรรมชาติจากโครงการ G1/61 จำนวน 376 ล้านลูกบาศก์ฟุต และแหล่งข้างเคียงที่ผลิตร่วมกัน จำนวน 23 ล้านลูกบาศก์ฟุต ส่วนอัตราการส่งก๊าซธรรมชาติ ณ วันสิ้นสุดสัมปทานของกลุ่มบงกชอยู่ที่ 938 ล้านลูกบาศก์ฟุต ประกอบด้วยก๊าซธรรมชาติจากโครงการ G2/61 รวมแหล่งบงกชเหนือและแหล่งบงกชใต้ โดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะเร่งผลักดันให้บริษัท ปตท.สผ.อีดี เข้าดำเนินการพัฒนาแหล่ง และเพิ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติจากแปลง G1/61 โดยเร็วที่สุดเพื่อความเป็นอยู่ของประชาชน และความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศเป็นสำคัญ" นายสราวุธกล่าว
 
                             ปตท.สผ. ร่วมกับภาครัฐ ศึกษาศักยภาพการกักเก็บคาร์บอนของอ่าวไทยตอนบน เพื่อเป้าหมาย Net Zero ของประเทศ
                            ปตท.สผ. ร่วมกับภาครัฐ ศึกษาศักยภาพการกักเก็บคาร์บอนของอ่าวไทยตอนบน เพื่อเป้าหมาย Net Zero ของประเทศ
                         ปตท.สผ. ร่วมฝึกอบรมกับกรมเจ้าท่า เตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
                            ปตท.สผ. ร่วมฝึกอบรมกับกรมเจ้าท่า เตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
                         ปตท.สผ. ร่วมฝึกอบรมกับกรมเจ้าท่า เตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
                            ปตท.สผ. ร่วมฝึกอบรมกับกรมเจ้าท่า เตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
                         เด็กซ์ซอนเปิดบ้านต้อนรับกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ
                            เด็กซ์ซอนเปิดบ้านต้อนรับกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ
                         ปตท.สผ. ชนะการประมูลสิทธิแปลงสำรวจปิโตรเลียม 2 แปลงในอ่าวไทย
                            ปตท.สผ. ชนะการประมูลสิทธิแปลงสำรวจปิโตรเลียม 2 แปลงในอ่าวไทย
                         ปตท.สผ. และกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจัดกิจกรรมวันเก็บขยะชายหาดสากล ร่วมกับหน่วยงานในจังหวัดสงขลา
                            ปตท.สผ. และกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจัดกิจกรรมวันเก็บขยะชายหาดสากล ร่วมกับหน่วยงานในจังหวัดสงขลา
                         ผู้บริหารกลุ่มบริษัทยูนิไทยเข้าพบอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน เนื่องในโอกาสสวัสดีปีใหม่ 2564
                            ผู้บริหารกลุ่มบริษัทยูนิไทยเข้าพบอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน เนื่องในโอกาสสวัสดีปีใหม่ 2564
                         UAC เปิดโรงงาน PPP ต้อนรับคณะกรรมการปิโตรเลียม- ผู้บริหารจากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ก.พลังงาน
                            UAC เปิดโรงงาน PPP ต้อนรับคณะกรรมการปิโตรเลียม- ผู้บริหารจากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ก.พลังงาน