ดีเจดับบลิว โชว์แนวคิด Smart Investment ส่ง Passion House เติมแรงบันดาลใจให้การลงทุน รองรับการลงทุนหลายธุรกิจแบบผลตอบแทนสูง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ดีเจดับบลิว ดัน Passion House โปรเจคโฮม ออฟฟิศ 4 ชั้น การออกแบบแยกฟังก์ชันใช้งาน รูปแบบสัญญาเช่าระยะยาว 20 ปี หวังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การลงทุนหลายธุรกิจของคนรุ่นใหม่ การันตีผลตอบแทนสูง 34% ตั้งเป้าสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ภายในปี 2566

ดีเจดับบลิว โชว์แนวคิด Smart Investment ส่ง Passion House เติมแรงบันดาลใจให้การลงทุน รองรับการลงทุนหลายธุรกิจแบบผลตอบแทนสูง

ดร. จักรพันธ์ งามสุขเลิศกุล กรรมการบริหารสายงานการเงินและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ดีเจดับบลิว ดีเวลลอป จำกัด กล่าวว่า "การลงทุนเริ่มธุรกิจใหม่ในช่วงเวลานี้จำเป็นต้องอาศัยปัจจัยหลายด้านเพื่อประกอบการพิจารณา ยิ่งหากเป็นการลงทุนเรื่องทำเลด้วยแล้วอาจต้องให้น้ำหนักกับเหตุปัจจัยหลายด้านมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเดินทาง การเชื่อมต่อกับพื้นที่ต่าง ๆ ระบบสาธารณูปโภค ทำเลใกล้เคียง พื้นที่ชุมชน ทั้งนี้ Passion House เป็นทางเลือกที่ดีเพื่อที่จะตอบโจทย์การลงทุนสไตล์นักลงทุนยุคใหม่ ที่ต้องคิดให้หลากหลาย ครอบคลุมเพื่อผู้บริโภค" ดีเจดับบลิว โชว์แนวคิด Smart Investment ส่ง Passion House เติมแรงบันดาลใจให้การลงทุน รองรับการลงทุนหลายธุรกิจแบบผลตอบแทนสูง

Passion House อยู่ในพื้นที่โครงการ The Hare Rest  (ดิ แฮ เรสต์) Mixed Use ที่ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ทุกธุรกิจ เป็นจุดแวะพักใหม่บนถนนศรีนครินทร์ พร้อมสรรพด้วย ไลฟ์สไตล์มอลล์  โฮมออฟฟิศ และสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ ที่เป็นจุดแวะพักสุดท้ายก่อนมุ่งหน้าสู่พื้นที่โครงการ EEC บนพื้นที่รวม 10-1-25.3 ไร่ ที่จอดรถสะดวกสบายมากถึง 150 คัน บรรยากาศสบาย ผ่อนคลาย พร้อมสร้างแรงบันดาลใจในช่วงเวลาพักผ่อนระหว่างวัน และเป็นแหล่งสร้างโอกาสการลงทุนด้วยสัญญาเช่าระยะยาว 20 ปี ผลกำไร 34% โดยเมื่อเปรียบเทียบแล้ว Passion House จะใช้งบประมาณน้อยกว่าหากต้องลงทุนอาคารพาณิชย์ หรือ Home Office ในทำเลศรีนครินทร์อยู่ราว 50% อีกทั้งยังได้ทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพสูง การเดินทางสะดวก โอกาสการเติบโตสูงในอนาคต ทั้งด้านการเดินทางเชื่อมต่อกับทำเลอื่น การเดินทางที่สะดวกทั้ง ถนนพัฒนาการ ถนนตัดใหม่ จุดเชื่อมต่อทางด่วน รถไฟฟ้าสายสีเหลือง และครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายที่อยู่ในพื้นที่โครงการ The Hare Rest ในแง่ของนักลงทุน ทำเลที่ตั้งของเราเป็นทำเลที่ติดถนนใหญ่และใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าถึง 2 สถานี ซึ่งเชื่อมต่อทั้งในเมืองและเขตการลงทุนพิเศษ EEC รวมถึงจุดที่เราอยู่ก็เป็นย่านของชุมชนที่มีประชากรอยู่อย่างหนาแน่นประกอบกับหน้ากว้างของโครงการมีพื้นกว้างมากเกือบ 300 เมตร ทำให้เป็นจุดเด่นที่ผู้คนที่สัญจรผ่านสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน เหมาะสำหรับธุรกิจหลากหลายประเภท อาทิ ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจบริการและสุขภาพ (Wellness) เป็นต้น

แยกฟังก์ชันการใช้งาน แยกลงทุนธุรกิจ เมื่อธุรกิจเดียวอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์การลงทุนของนักลงทุนทุกราย การออกแบบของ Passion House จึงออกแบบมาเพื่อแบ่งสัดส่วนการใช้งานของอาคารให้สามารถใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น ตัวอาคารมีบันไดแยกแต่ละชั้น แยกทางเข้าออก สามารถแยกใช้งานธุรกิจ และอยู่อาศัย แบ่งแยกสัดส่วนงานร้านค้าและบริการให้ชัดเจน  อีกทั้งยังสามารถติดตั้งลิฟต์เพื่อใช้งานเพิ่มเติมได้ Passion House อาคาร Home Office 4 ชั้น จำนวน 20 ยูนิต แบ่งออกเป็น 2 ขนาด คือ

แบบ A พื้นที่ใช้สอย 239.5 ตร.ม. สูง 4 ชั้น ทั้งหมด 12 ยูนิต มีพื้นที่สำหรับจอดรถกว้างขวาง รองรับการใช้งาน ขนาดกว้าง 5 เมตร ลึก 12 เมตร โดดเด่นด้วยการออกแบบเป็นโถงสูงที่ชั้น 2 ดูหรูหรา โอ่อ่า กระจกด้านหน้าแสดงให้เห็นความกว้าง โปร่งของตัวอาคาร มีบันไดแยกนอกตัวอาคารทำให้สามารถแบ่งใช้สอย หรือให้เช่า ราคาเริ่มต้นเพียง  7 ล้านบาท เหมาะกับธุรกิจประเภทที่มีการใช้พื้นที่บริการในด้านล่าง อาทิ สถาบันเสริมความงาม / ร้านอาหาร / ร้านกาแฟ เป็นต้น

แบบ B พื้นที่ใช้สอย 252 ตร.ม. พิเศษเพียง 8 ยูนิต พร้อมที่จอดรถหน้าอาคารถึง 4 คัน เน้นความโปร่งของตัวอาคารที่ ชั้น 2 และ ชั้น 3 ที่เปิดโล่ง มีห้องน้ำแยกทุกชั้น สะดวกต่อการแยกใช้สอย และคุ้มค่าการลงทุนด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 7 ล้านบาท ด้านล่างเหมาะกับธุรกิจร้านค้า โชว์รูม กระจกเปิดโล่งสามารถแสดงให้เห็นสินค้าอย่างชัดเจน อาคารด้านบนเหมาะกับธุรกิจที่ต้องให้พื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัว เช่น คลินิก สปา

"Smart Investment ในรูปแบบของ Passion House คือ นักลงทุนจะสามารถตอบโจทย์แรงบันดาลใจต่อความต้องการของการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่า ฟังก์ชันการใช้งานของอาคารจะสามารถผลักดันให้แนวคิดธุรกิจของคุณไปได้ไกลแบบไร้ขีดจำกัด พร้อมทั้งนำเสนอการลงทุนที่คุ้มค่าและเหนือกว่าทุกการลงทุนในทำเลนี้ เนื่องจากทำเล และรูปแบบการลงทุนบนพื้นที่พัฒนาการ-ศรีนครินทร์ ที่มีเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนมาโดยตลอด จึงสามารถการันตีผลตอบแทนการลงทุนสูงถึง 34% มอบผลตอบแทนในปีแรกสูง 14% และมีผลตอบแทนในปีที่ 2-4 ที่ 7% ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าเริ่มก่อสร้างกลางปี 2565 และพร้อมเข้าอยู่ปลายปี 2566" ดร. จักรพันธ์กล่าวเสริม


ข่าวจักรพันธ์ งามสุขเลิศกุล+การออกแบบวันนี้

บี.กริม ร่วมมือ ศศินทร์ พัฒนาผู้บริหารรับมือโลกที่เปลี่ยนแปลงด้วยทักษะยุคใหม่และความโอบอ้อมอารี

บี.กริม เพาเวอร์ ผนึกความร่วมมือกับ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดโครงการ B.Grimm Executive Partnership Program เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้บริหารระดับสูงขององค์กรให้พร้อมเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล พร้อมทั้งขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ความเข้มแข็งและยั่งยืน โครงการนี้ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบี.กริม "การดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี (Doing Business with Compassion)" โดยเนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่กลยุทธ์ธุรกิจ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI