วันนี้ (วันที่ 8 เมษายน 2565) นายนภินทร ศรีสรรพางค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมให้เกียรติเป็นสักขีพยานในการลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent-LOI) ระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บริษัท การบินไทยฯ และบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด ในการวางแผน กระตุ้น และส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากอินเดีย โดยมี นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ นายนนท์ กลินทะ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทยฯ และนายวิเศรษฐ์ สนธิชัย รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด ร่วมลงนาม ณ การบินไทย สำนักงานใหญ่
                                                                                                                                        นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่า ปัจจุบันหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศ ผู้โดยสารมีความต้องการการเดินทางมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวไทย และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ขับเคลื่อนไปได้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การบินไทย และไทยสมายล์ จึงร่วมกันลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent-LOI) วางกลยุทธ์และดำเนินกิจกรรมการตลาด เพื่อส่งเสริมประสบการณ์การท่องเที่ยวของตลาดอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดที่สำคัญ รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย (Joint Promotion) และสิทธิพิเศษแก่นักท่องเที่ยวในเส้นทางเดินทางดังกล่าว การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยกับนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยวพักผ่อน กลุ่มนักกอล์ฟกลุ่มแต่งงาน กลุ่มเยี่ยมญาติเป็นต้น ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องภายในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการยกระดับและพัฒนาการท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้นต่อไป จากจำนวนผู้โดยสารตลาดอินเดียในปี 2562 (ก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19) อยู่ที่ประมาณ 1.9 ล้านคน สร้างรายได้ให้บริษัทฯ กว่า 8,500 ล้านบาท การร่วมมือกันในครั้งนี้จึงคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของไทย หลังจากที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงเวลา2 ปีที่ผ่านมา ให้ฟื้นตัวและขยายตัวอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน การบินไทยและสายการบินไทยสมายล์ ทำการบินเส้นทางระหว่างอินเดียมายังประเทศไทย ดังนี้
                                                            
                                                                                                                            
- เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-นิวเดลี ทำการบินสัปดาห์ละ 14 เที่ยวบิน
 - เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-มุมไบ ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน
 - เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-เจนไน ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน
 - เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-เบงกาลูรู ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน
 - เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-กัลกัตตา ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน (ทำการบินโดยสายการบินไทยสมายล์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2565 เป็นต้นไป)
 - เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ภูเก็ต-มุมไบ ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน (ทำการบินโดยสายการบินไทยสมายล์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2565 เป็นต้นไป)
 
นอกจากความร่วมมือในเส้นทางตลาดอินเดียดังกล่าว การบินไทยยังได้เปิดให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศ
ในตารางบินฤดูร้อน ปี 2565 เพิ่มมากขึ้นกว่า 34 เส้นทางบิน ครอบคลุมทั้งเอเชีย ยุโรป และออสเตรเลีย ผู้โดยสารสามารถเดินทางเชื่อมต่อเส้นทางบินสู่เมืองต่างๆ อย่างสะดวกสบายด้วยสายการบินไทยสมายล์ และสายการบินพันธมิตร รวมทั้งจะมีการพิจารณาเพิ่มจำนวนเที่ยวบินเพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อไปในอนาคตตามนโยบายของภาครัฐต่อไป
                                                                                                                            
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความร่วมมือในวันนี้ กล่าวว่า ตลาดอินเดียเป็นตลาดศักยภาพขนาดใหญ่ของภูมิภาคเอเชียใต้ ทั้งจำนวนขนาด Market Size และผู้ที่มีศักยภาพในการใช้จ่าย หลายประเทศที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวก็ต้องการพึ่งพิงส่วนแบ่งทางการตลาดจากอินเดียเป็นเป้าหมายหลักเช่นกัน การลงนาม LOI ในวันนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีต่อการตลาดเชิงรุกหลังการบรรลุข้อตกลงเรื่องการทำ Air Travel Bubble Arrangement ระหว่างสองประเทศ จึงมั่นใจว่าจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนความสำเร็จในการผลักดันการฟื้นคืนของตลาดอินเดียให้กลับมาเติบโตเพิ่มขึ้น
สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวอินเดีย ถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวที่มีความสำคัญต่อการท่องเที่ยวไทย จากสถิติปี พ.ศ. 2562 นักท่องเที่ยวจากอินเดียเดินทางเข้าไทย 1,995,516 คน ขยายตัวร้อยละ 24.85 สร้างรายได้กว่า 86,372.01 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 27.45 (ที่มา: กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง
ด้าน นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ ททท. เปิดเผยเพิ่มเติมถึงแนวทาง
การส่งเสริมตลาดอินเดียว่า เพื่อให้สอดรับกับแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยประจำปี 2565 "Visit Thailand Year 2022" ททท. จะมุ่งเน้นส่งเสริมตลาดอินเดีย โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพกลุ่มความสนใจพิเศษที่มีการใช้จ่ายสูงผ่านการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงาน ททท. กรุงนิวเดลี และเมืองมุมไบอย่างต่อเนื่อง อาทิ การทำการตลาดผ่าน Celebrity/Influencer เพื่อสื่อสารไปยังผู้ติดตามที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials, ให้ข้อมูลกับบริษัทนำเที่ยวในอินเดียถึงมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทย รวมทั้งสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อนำไปวางแผนทำกิจกรรม Joint Promotion โดยเฉพาะสำหรับตลาดกลุ่มระดับบน (luxury) ในอนาคต, ส่งเสริมกลุ่มแต่งงานอินเดียในประเทศไทย ด้วยการจัด Amazing Thailand Wedding EXPO 2022 ในเดือนเมษายน 2565 เพื่อให้คู่รักได้วางแผนการจัดงานแต่งงานในประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่นิยมจัดในช่วงปลายปี, Kick-off สื่อสารความพร้อมของประเทศไทยในการรุกตลาดผ่านการเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย งาน South Asia Travel and Tourism Exchange (SATTE) 2022 ในวันที่ 18-21 พฤษภาคม 2565 ณ กรุงนิวเดลี เป็นต้น
                                                                                                                            
ทั้งนี้ หากประเมินจาก Load Factor ของการบินไทยและไทยสมายล์ ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป คาดว่าประเทศไทยจะสามารถนำชาวอินเดียเข้ามาท่องเที่ยวได้อย่างน้อย 13,000 คนต่อเดือน ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมผู้เดินทางจากสายการบินอื่น และคาดว่าจะสูงขึ้นถึง 80,000 คนต่อเดือน เมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ
                            
                            จัดเต็ม! ปรากฏการณ์แสง สี เสียง และสื่อผสม ร่วมสัมผัสประสบการณ์ความงามเหนือกาลเวลา ในงาน VIJIT @ Lampang ภายใต้คอนเซปต์ นครลำปาง: เสน่ห์เหนือกาลเวลา Lampang: The Timeless Cit
                        
                            เที่ยวไทยอุ่นใจได้ ททท. เร่งเสริมความเชื่อมั่นการเดินทางท่องเที่ยวไทย เปิดตัวตราสัญลักษณ์ "Trusted Thailand" พร้อมยกระดับมาตรฐานเสริมความมั่นใจนักท่องเที่ยวทุกย่างก้าว เตรียมนำร่องประเมินโรงแรมที่พัก เริ่มภายในกันยายน นี้
                        
                            ททท. เปิดม่านงาน "Amazing Thailand Saneh Thai Gala Night" เชิญแขกคนสำคัญร่วมประกาศ ความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวปีท่องเที่ยวไทย โชว์พลัง Soft Power ย้ำศักยภาพสู่จุดหมายระดับโลก
                        
                            TOA ฉลองส่งท้าย Pride Month ร่วมผนึกกำลัง เดอะมอลล์ กรุ๊ป เอ็ม ดิสทริค และภาครัฐ จัดงาน "LOVE PRIDE ? PARADE, BANGKOK 2025" ขบวนพาเหรดสีรุ้งยาวที่สุดในเอเชีย
                        
                            3 ศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค รับเครื่องหมายมาตรฐานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปี 2568 ตอกย้ำการเป็นสถานที่คุณภาพและบริการมีมาตรฐานเป็นเลิศ
                        
                            ททท. เปิดโครงการ "เมืองน่าเที่ยว Year of Celebration" พร้อมเสิร์ฟ 12 แคมเปญ โปรเด็ดเที่ยวหน้าฝนเจาะกลุ่ม Sub-Culture กระตุ้นเศรษฐกิจเมืองน่าเที่ยว
                        
                            กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมพร้อมจัดงานไหว้ครูมวยไทยโลก ครั้งที่ 17 ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาหนึ่งใน Grand Festivity เสริมพลัง Soft Power ดึงนักมวยทั่วโลกสู่ประเทศไทย
                        
                            ททท. ฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี จัดเทศกาลตรุษจีนยิ่งใหญ่ คาดหนุนรายได้ท่องเที่ยวทั่วประเทศเพิ่ม 4 หมื่นล้านบาท
                        
                            ก.ท่องเที่ยวและกีฬา จัดงาน "Amazing Thailand Countdown 2025"