นักลงทุนรุ่นใหม่ ประเมินการลงทุนไตรมาสสอง สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงกดดันตลาดการลงทุนโลกผันผวนสูง มองอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศและไทยน่าสนใจ เหตุมีความผันผวนต่ำและไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์สงคราม ส่วนหุ้นที่น่าสนใจคือหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ และจีน ด้านตลาดหุ้นไทยยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่อาจจะเข้าสู่ภาวะซึมในช่วงไตรมาสสองและสามเหมือนทุกปี ขณะที่ทองคำและน้ำมัน เน้นเก็งกำไรระยะสั้น ส่วนบิทคอยน์คือสินทรัพย์ทางเลือกสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง
นายณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนและผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนในไตรมาสแรกของปี 2565 ภายใต้ความผันผวนสูงของตลาดทุนทั่วโลกจากผลกระทบของสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน กดดันผลตอบแทนของตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ออกมาติดลบ ไม่ว่าจะเป็น 3 ตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกา ติดลบตั้งแต่ 3-7% และตลาดหุ้นจีน สร้างผลตอบแทนได้แย่ที่สุดในกลุ่มตลาดหุ้นหลัก โดยให้ผลตอบแทนติดลบ 10% ส่วน SET Index ของไทยแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากต้นปี แต่อย่างไรก็ดี ยังมีสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี คือ ทองคำ บิทคอยน์ และน้ำมันดิบ Brent ซึ่งให้ผลตอบแทนในอัตรา 8% 15% และ 60% ตามลำดับ
สำหรับมุมมองการลงทุนในไตรมาสที่สองของปีนี้ มองว่าสินทรัพย์ที่น่าสนใจและสามารถหลบเลี่ยงความผันผวนจากสถานการณ์สงครามที่ยังไม่จบลง คือ อสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ โดยสามารถลงทุนได้ผ่านทางกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) โดยเฉพาะอสังหาฯ ในฝั่งตะวันตกที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 อย่างชัดเจน และจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงไปมากแล้ว น่าจะทำให้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้มากขึ้น อสังหาฯ จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่รับความผันผวนได้ต่ำ
ขณะที่ อสังหาฯ ไทย คาดว่าจะฟื้นตัวจากผลกระทบที่มาจากไวรัสโควิดได้เช่นกันจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาระดับใกล้เคียงกับช่วงเวลาปกติ โดยเฉพาะการผ่อนปรนนโยบายการเข้าประเทศของชาวต่างชาติ น่าจะทำให้อสังหาฯ ประเภทโรงแรม มีผลประกอบการที่ดีขึ้น รวมถึงกลุ่มค้าปลีกที่จะกลับมาเติบโต เพราะน่าจะไม่มีนโยบายปิดเมืองอีกแล้ว อย่างไรก็ตามอสังหาฯ ประเภทสำนักงานให้เช่า อาจจะยังไม่ฟื้นตัว เพราะผู้ประกอบการบางส่วนอาจจะไม่กลับเข้าไปทำงานในสำนักงานอีก
นายณพวีร์ กล่าวว่า ทางด้านกลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้น มองว่าตลาดหุ้นต่างประเทศฝั่งตะวันตก อย่างตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงมีความน่าสนใจ เพราะถือได้ว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาสแรก และกำลังฟื้นตัวขึ้นในไตรมาสที่สอง โดยสามารถลงทุนได้ทั้งหุ้นในธุรกิจดั้งเดิมและหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ส่วนหุ้นเทคโนโลยีขนาดเล็กยังฟื้นตัวได้น้อยกว่า จึงอาจจะต้องมองเป็นการลงทุนระยะยาว
อีกหนึ่งตลาดหุ้นที่น่าสนใจ คือ ตลาดหุ้นเวียดนามที่ปรับตัวลงมาในระดับที่น่าสนใจและสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันได้ ส่วนตลาดหุ้นไทย SET Index แม้จะปรับตัวขึ้นมาแตะระดับ 1,700 จุด แต่ปกติช่วงไตรมาสสองจะเป็นช่วงที่หุ้นไทยค่อนข้างซบเซา และปีนี้ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ ๆ เกิดขึ้น จึงมองภาพระยะสั้นยังไม่น่าสนใจ แต่อาจจะทยอยสะสมระยะกลางเพื่อรอปัจจัยบวกใหม่ ๆ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
ทางด้านตลาดหุ้นจีน เวลานี้สามารถเลือกลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีของจีนที่เริ่มมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนมากขึ้น แต่หุ้นจีนที่อิงกับเศรษฐกิจในประเทศอาจยังไม่ถึงเวลา เนื่องจากมีปัจจัยกดดันจากที่ไวรัสโควิดยังคงแพร่ระบาดในหลาย ๆ เมือง และรัฐบาลยังคงใช้นโยบายปิดเมือง ซึ่งส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ
"การจัดพอร์ตในไตรมาสสองนี้ จึงมองว่ากองทุน REIT ที่ลงทุนในอสังหาฯ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะรับความเสี่ยงได้มาก หรือ น้อย ก็ตาม ส่วนใครที่รับความเสี่ยงได้มากขึ้นลองพิจารณาหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ และหุ้นเทคโนโลยีจีน ส่วนใครที่มองการลงทุนระยะยาวลองทยอยสะสมหุ้นไทยและหุ้นจีนที่หวังผลตอบแทนในระยะ 6 เดือนขึ้นไป"
สำหรับสินทรัพย์ทางเลือก "บิทคอยน์" ยังคงน่าสนใจ เนื่องจากราคาไม่ลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ระดับ 33,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และมีแนวโน้มจะฟื้นตัวในช่วงสั้นจากการคาดการณ์ที่นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED จะไม่เคร่งครัดไปมากกว่าที่ประเมินไว้ ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงสามารถทยอยสะสมได้ โดยมองเป้าหมายราคาหากมีการฟื้นตัว อยู่ที่ระดับ 55,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
"ขณะที่ ทองคำและน้ำมัน ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนได้ดีในไตรมาสแรก แม้ว่าแนวโน้มทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานยังคงสนับสนุนให้ยังคงเป็นขาขึ้น แต่การที่ราคาขึ้นมาค่อนข้างมากและราคาค่อนข้างจะมีความสัมพันธ์กับสถานการณ์สงครามรัสเซียและยูเครน ที่ประเมินสถานการณ์ลำบาก จึงมองว่าควรเน้นเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงอีกมาก" นายณพวีร์ กล่าว
ชมรมสินทรัพย์รอการขายของธนาคารพาณิชย์ (ภายใต้สมาคมธนาคารไทย) เตรียมเปิดบูธงานมหกรรมบ้านธนาคาร 68 ครั้งที่ 1 จ.สุราษฎร์ธานี งานอสังหาริมทรัพย์ ที่ครบที่สุด รวมทรัพย์มือสองทำเลดี ราคาดี พร้อมส่งต่อเพื่อคุณ จากธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐรวมทั้งสถาบันการเงินชั้นนำ อาทิ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยทางธนาคารพาณิชย์ ธนาคารของรัฐและสถาบันการเงินชั้นนำแต่ละสถาบัน "งานมหกรรมบ้านธนาคาร 68 ครั้งที่ 1 จ.สุราษฎร์ธานี" ศูนย์รวมงานแสดงอสังหาริมทรัพย์ ที่รวมทรัพย์มือสองราคาดีที่สุด
"ไททันบุกไทย! เซ็นทรัลเวิลด์ เปิดประตู 'Attack on Titan Final Exhibition' ดื่มด่ำกับปัจฉิมบทของมหากาพย์สะเทือนโลก
—
7 พ.ค. 18 มิ.ย. 68 ที่ 'CentralWorld P...
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จัดหนักดีลแรง "MAY DAY มีดีลดี" รับส่วนลดสูงสุด 300,000 บาท 17-18 พ.ค. นี้เท่านั้น
—
บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ (LALI...
พฤกษาเดินหน้าทศวรรษที่ 4 ยกระดับบริการสู่ Service Excellence มุ่งส่งมอบความ "อยู่ดี มีสุข" เพื่อคนไทยอย่างแท้จริง
—
31 ปีที่ผ่านมา พฤกษา เดินหน้าส่งมอบที่...
Richmont's เปิดโอกาสให้นักลงทุนชาวไทยเป็นเจ้าของอสังหาฯ ใจกลางแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในกรุงลอนดอน
—
โครงการ The Founding ย่าน Canada Water โอกาสทองสำหรับผู้ที่...
IMPACT Growth REIT โชว์วิสัยทัศน์ - ต้อนรับนักลงทุนเยี่ยมชม Sky Entrance
—
คุณพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม...
Richmont's เปิดโอกาสให้นักลงทุนชาวไทยเป็นเจ้าของอสังหาฯ ใจกลางแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในกรุงลอนดอน
—
โครงการ The Founding ย่าน Canada Water โอกาสทองสำหรับผู้ที่...
เจาะลึกจุดเด่น The Only Thai Branded Residence โดย The Residences at Dusit Central Park หนึ่งเดียวจากประเทศไทย
—
"Branded Residences" คือรูปแบบการพัฒนาอสั...
สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เปิดประมูลสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ครั้งที่ 3/2568
—
สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เปิดประมูลสิทธิการเช่าอสังหาริมทรั...