GPI ทำกำไรสุทธิปี 64 ที่ 31.45 ล้านบาท ใกล้เคียงปีก่อนแม้เศรษฐกิจชะลอตัว บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.03 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 7 เม.ย.นี้ คาดปีนี้เข้าสู่ช่วงการเติบโต จากการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้า

ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI ผู้นำสร้างสรรค์การจัดกิจกรรมให้บริการข่าวสาร ข้อมูลสาระ เพื่อสร้างประสบการณ์ และความบันเทิงที่น่าประทับใจตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ยานยนต์ เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานปี 2564 บริษัทฯ สามารถรักษาผลกำไรอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แม้จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ท่ามกลางปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 รวมถึงการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วงที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินธุรกิจ 497.54 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีรายได้จากการดำเนินธุรกิจ 509.41 ล้านบาท และสามารถทำกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 31.45 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 34.09 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนมาจากการจัดงาน Bangkok International Motor Show 2021 โดยยังคงเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้และผลกำไรแก่บริษัทฯ

นอกจากนี้ ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) มีมติอนุมัติเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมในอัตรา 0.03 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 18 ล้านบาท เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 7 เมษายน 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 27 เมษายน 2565 โดยก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล จากงวดผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2564 ไปแล้ว ในอัตรา 0.03 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 ดังนั้น GPI จะจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2564 ในอัตรารวม 0.06 บาทต่อหุ้น

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2565 คาดว่าจะเป็นปีแห่งการเติบโตจากรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของธุรกิจโรงไฟฟ้า หลังจากบริษัทฯ ได้เข้าลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะแปรรูป (Refuse Derived Fuel หรือ RDF) ผ่านการเข้าถือหุ้นที่สัดส่วน 25.45% ในบริษัท ทรูเอ็นเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะแปรรูปในจังหวัดนครสวรรค์ กำลังการผลิตติดตั้ง 9 เมกะวัตต์ (MW) และมีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นระยะเวลา 25 ปี (สัญญา 5 ปี และต่อครั้งละ 5 ปีโดยอัตโนมัติ) โดยจะได้รับส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ในอัตรา 3.50 บาทต่อหน่วย (Kwh) เพิ่มจากค่าไฟฐานเป็นระยะเวลา 7 ปี นับจากวันที่เริ่มต้นจำหน่ายไฟฟ้า ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการพิจารณาใบอนุญาตประกอบกิจการผลิตไฟฟ้า โดยการเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลักที่จะสร้างผลกำไรเข้ามาอย่างสม่ำเสมอและมีความมั่นคงในระยะยาว เพราะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟภ. และคาดว่าจะผลักดันให้ผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตได้ดีกว่าปีก่อน

ส่วนความคืบหน้าแผนการจัดงาน Bangkok International Motor Show 2022 (ครั้งที่ 43) ล่าสุดได้รับการตอบรับอย่างคึกคักจากค่ายผู้ผลิตรถยนต์และจักรยานยนต์ชั้นนำจากยุโรปและเอเชีย โดยมียอดจองพื้นที่ล่วงหน้าแล้วกว่า 95% กำหนดจัดงานดังกล่าวในวันที่ 23 มีนาคม - 3 เมษายน 2565 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมความพร้อมในทุกด้านภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย โดยจะมีมาตรการคัดกรองและการรักษาความสะอาดอย่างเข้มงวด เพื่อให้ความมั่นใจแก่ผู้เข้าชมงาน

• ข่าวo:editor
• ข่าวo:bus
• ข่าวo:fin
• ข่าวo:loc