"พิซซ่า" อาหารยอดนิยมของโลก ได้รับการปรับปรุงให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

คนอร์ (Knorr(R)) เปิดตัวพลิซซ่า (Plizza) พิซซ่าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นตั้งแต่ในตัวแป้งไปจนถึงหน้าพิซซ่า เนื่องในโอกาสวันกินเพื่อทำดีโลก (World Eat for Good Day)

พิซซ่า อาหารยอดนิยมอันดับต้น ๆ ในทั่วโลก ได้รับการยกระดับให้เป็นอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเนื่องในโอกาสวันกินเพื่อทำดีโลกในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ โดยคนอร์ แบรนด์อาหารระดับโลกซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องการเป็นผู้นำรสชาติสู่โต๊ะอาหารทั่วโลก ได้เปิดตัวพลิซซ่า (Plizza) พิซซ่าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในการนี้คนอร์ได้ทำให้เมนูคลาสสิคนี้ใช้พืชแทนเนื้อสัตว์ (plant-based) โดยใช้ส่วนผสมที่ดีกว่าสำหรับทั้งคนและโลก ตั้งแต่ตัวแป้งไปจนถึงหน้าพิซซ่า ทั้งนี้ในแต่ละปีมีการจำหน่ายพิซซ่าเป็นจำนวนราว 5 พันล้านถาดทั่วโลก ดังนั้นด้วยการทำให้พิซซ่ากลายเป็นอาหารที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เราสามารถร่วมกันสร้างผลกระทบเชิงบวกได้หากเปลี่ยนไปใช้ส่วนผสมที่ดีต่อโลกมากกว่า

เนื่องในโอกาสวันกินเพื่อทำดีโลกในปีนี้ จะมีการแจกพลิซซ่าฟรีใน 6 เมืองทั่วโลก ซึ่งจะปรุงสดใหม่และจัดส่งผ่านแอปพลิเคชันส่งอาหารยอดนิยมในแต่ละท้องถิ่น โดยเมืองที่เข้าร่วมโครงการในสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก อินโดนิเซีย แอฟริกาใต้ ไทย และจีนจะมีการแจกพลิซซ่าฟรีในจำนวนจำกัดโดยสามารถสั่งและจัดส่งในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ สำหรับผู้ที่พลาดโอกาสสั่งพลิซซ่าในวันดังกล่าว สามารถเข้าชมสูตรและคลิปวิดีโอขั้นตอนการทำได้ที่ knorrplizza.com

คนอร์พัฒนาพลิซซ่าขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นเรื่องง่ายเพียงใดที่จะเปลี่ยนมื้ออร่อยในทุก ๆ วันให้ลดผลกระทบเชิงลบต่อโลก พร้อมทั้งเพิ่มผลกระทบเชิงบวกต่อสุขภาพร่างกาย ในปัจจุบันระบบอาหารของเราเป็นปัจจัยสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ[2,3] การสูญเสียสายพันธุ์สิ่งมีชีวิต การขาดแคลนน้ำ และการสูญเสียดินและการเสียหายของดิน 75% ของอุปทานอาหารโลกประกอบด้วยพืชเพียง 12 ชนิด และสัตว์เพียง 5 ชนิด[5] ทำให้ระบบอาหารเปราะบางต่อผลกระทบที่สามารถเกิดขึ้นจากโรคภัยและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แต่ข่าวดีคือว่า 'อาหารเป็นเครื่องมือที่แข็งแกร่งที่สุดในการพาสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมไปสู่ระดับสูงสุด[4]' การรับประทานอาหารที่ทำจากพืชอย่างหลากหลายมากขึ้นจะช่วยปกป้องอนาคตของอาหาร พร้อมทั้งเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและลดการใช้ทรัพยากรของโลก การเปิดตัวพลิซซ่านี้เป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจของคนอร์ในการนำอาหารที่ดีสำหรับผู้คนและโลกสู่ 7 พันล้านจานทั่วโลกภายในปี 2568

พลิซซ่าถาดแรก ซึ่งสรรค์สร้างขึ้นโดยเชฟที่มีชื่อเสียงของคนอร์ ใช้วัตถุดิบทำจากพืชและอุดมไปด้วย 50 อาหารแห่งอนาคต (Future 50 Foods) ซึ่งเป็นอาหารที่ดีกว่าสำหรับทั้งคนและโลก[1] สูตรที่ว่านี้กลายเป็นพลิซซ่าได้ด้วยการเปลี่ยนวัตถุดิบเพียง 3 อย่าง ได้แก่การทำแป้งโดยใช้แป้งธัญพืชสเปลท์เต็มเมล็ด (wholegrain spelt flour) การใช้ซอสปรุงรสของคนอร์ซึ่งทำจากวัตถุดิบที่มีการจัดหาอย่างยั่งยืนและถั่วไฟเบอร์สูงที่ช่วยปรับปรุงดิน และการเปลี่ยนหน้าพลิซซ่าให้เป็นผักที่อุดมไปด้วยสารอาหาร อย่างเช่นผักโขมที่เติบโตเร็วและผักสลัดน้ำ (watercress) แบบหว่านเอง

อะไรทำให้พลิซซ่าเป็นมิตรต่อโลกมากกว่า

  • พลิซซ่าใช้วัตถุดิบที่ทำจากพืช กว่า 30% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ปัจจัยหลักของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) มาจากเกษตรกรรมอาหาร ซึ่งกว่า 60% ในนั้นมาจากสัตว์[2,3] การลดปริมาณอาหารที่มาจากสัตว์ในการบริโภคของเราจะช่วยลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากอาหารได้
  • พลิซซ่ามีส่วนผสมที่หลากหลาย 75% ของอุปทานอาหารโลกประกอบด้วยพืชเพียง 12 ชนิดและสัตว์เพียง 5 ชนิด[5] ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาการสูญเสียสายพันธุ์สิ่งมีชีวิต ทำให้ระบบอาหารเปราะบางต่อโรคภัยและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ พลิซซ่าทำจากหลากหลายวัตถุดิบใน 50 อาหารแห่งอนาคตของคนอร์และองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF)[1] เพื่อช่วยสร้างระบบอาหารที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นซึ่งรองรับการบริโภคของประชากรโลกที่กำลังขยายตัวได้
  • ผลิตภัณฑ์ของคนอร์ใช้วัตถุดิบที่เพาะปลูกด้วยความใส่ใจ เป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนอร์ที่วัตถุดิบของเราจะต้องปลูกด้วยความใส่ใจสำหรับทั้งคนและโลก โดย 95% ของผักและสมุนไพรของคนอร์ทั่วโลกปลูกอย่างยั่งยืน และจะมีการเพาะปลูก 80% ของวัตถุดิบหลัก (ผัก สมุนไพร เครื่องเทศ ธัญพืช) ตามหลักการฟื้นฟูการเกษตรของยูนิลีเวอร์ (Unilever Regenerative Agriculture Principles) ภายในปี 2569 ทั้งนี้เมื่อคำนึงว่าผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าขณะนี้มีน้ำเหลือเพียงพอสำหรับการบริโภคไม่ถึง 30 ปี[6] และ 90% ของดิน (ซึ่งใช้เพาะปลูกอาหารของเรา) จะเสื่อมสภาพภายในปี 2593 [7] จึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการเพาะปลูกอาหารด้วยวิธีการที่รักษาและฟื้นฟูธรรมชาติ

เอพริล เรดมอนด์ (April Redmond) รองประธานฝ่ายแบรนด์ระดับโลกของคนอร์ กล่าวว่า "อาหารเป็นพลังที่อร่อยในการทำดี ขณะนี้เรากำลังทำภารกิจเพื่อนำอาหารที่ดีกว่าสำหรับเราและโลกสู่จานอาหารของทุกคน ด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของคนอร์และ 50 อาหารแห่งอนาคต เรากำลังแสดงให้โลกเห็นว่า การรับประทานอาหารเพื่อทำดีนั้นเป็นเรื่องที่มีเสน่ห์เกินต้านทานเพียงใด เราร่วมมือกันเปลี่ยนโลกได้ด้วยการเปลี่ยนสิ่งที่อยู่บนจานอาหารของเรา"

โดโรธี เชเวอร์ (Dorothy Shaver) ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืนอาหารระดับโลกของยูนิลีเวอร์ กล่าวว่า "ในวันกินเพื่อทำดีโลก เราต้องการจะช่วยให้ทุกคนเข้าใจผลกระทบของระบบอาหารของเราต่อโลกและสุขภาพของเรา และนำเสนอแนวทางที่อร่อยในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวก คนอร์มีพันธกิจในการช่วยให้ทุกคนรับประทานพืชที่หลากหลายมากขึ้นซึ่งปลูกอย่างยั่งยืนและช่วยฟื้นฟูสุขภาพของเราและสุขภาพของโลก ด้วยแคมเปญนี้ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ โครงการต่าง ๆ และความสัมพันธ์คู่ค้าของเรา เรามุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนกินเพื่อทำดี"

เข้าร่วมกับคนอร์ในวันกินเพื่อทำดีโลกและเปลี่ยนโลกด้วยการเปลี่ยนสิ่งที่อยู่บนพิซซ่าของคุณ! ดูรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องราวเบื้องหลังพลิซซ่าของคนอร์ รวมถึงแอปพลิเคชันจัดส่ง สูตรอาหาร และคลิปวิดีโอการทำได้ที่ knorrplizza.com #Knorr #Plizza #WorldEatForGoodDay #EatforGood

1 Future 50 Foods | Knorr UK
2https://news.un.org/en/story/2021/03/1086822
3https://www.nature.com/articles/s43016-021-00358-x
4The EAT-Lancet Commission on Food, Planet, Health - EAT Knowledge (eatforum.org)
5What is Agrobiodiversity? (fao.org)
6United Nations world water development report 4: managing water under uncertainty and risk - UNESCO Digital Library
7Global Assessment Report on Biodiversity and Ecosystem Services | IPBES secretariat

เกี่ยวกับคนอร์

ความหลงใหลของคนอร์ในการประกอบอาหารและการรับประทานอาหารที่ดีกว่า มีมาตั้งแต่ในช่วงเริ่มต้นของแบรนด์ในปี 2381 คนอร์ภูมิใจที่ได้เป็นแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปที่ได้รับเลือกสูงสุดอันดับแปดของโลก (จากข้อมูลของคันทาร์ เวิลด์ พาเนล) และเป็นแบรนด์อาหารที่ใหญ่ที่สุดของยูนิลีเวอร์ ผลิตภัณฑ์ของคนอร์วางจำหน่ายในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก และได้รับเลือก 3.1 พันล้านครั้งต่อปีใน 379 ล้านครัวเรือนในแต่ละปี สูตรอาหารในเว็บไซต์และโครงการของคนอร์สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนหลายล้านคนต่อปีในเรื่องการรับประทานอาหารที่ดีกว่าสำหรับพวกเขาและโลก เป้าหมายในระดับโลกของคนอร์คือการปรับปรุงอาหารสำหรับมนุษยชาติด้วยความมุ่งหมายที่จะนำอาหารที่ดีต่อคนและโลกสู่ 7 พันล้านจานภายในปี 2568 ในการนี้ 50 อาหารแห่งอนาคตเป็นกุญแจปลดล็อกอาหารที่ดีต่อคนและโลก จึงเรียกได้ว่าเป็นกุญแจสู่ 'อาหารที่ดี'

คนอร์ ร่วมกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าสากลได้เปิดตัว 50 อาหารแห่งอนาคตเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 โดยได้ระบุอาหาร 50 ชนิดที่เราควรรับประทานให้มากขึ้นเพื่อสุขภาพของเราและสุขภาพของโลก 50 อาหารแห่งอนาคตนี้เป็นส่วนสำคัญของผลิตภัณฑ์ โครงการ และความสัมพันธ์คู่ค้าของคนอร์ หนังสือสูตรอาหารที่ใช้ 50 อาหารแห่งอนาคตสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี และมีจำหน่ายทางแอมะซอน สหราชอาณาจักร

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมายของคนอร์ได้ที่ knorreatforgood.com และดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 50 อาหารแห่งอนาคตของคนอร์ได้ที่ knorrfuture50foods.com

เกี่ยวกับยูนิลีเวอร์

ยูนิลีเวอร์เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ชั้นนำของโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ความงามและการดูแลส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้าน และผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม โดยมีการวางจำหน่ายในกว่า 190 ประเทศและมีผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ 2.5 พันล้านคนในแต่ละวัน ยูนิลีเวอร์มีพนักงาน 149,000 คนและมียอดขาย 5.07 หมื่นล้านยูโรในปี 2563 กว่าครึ่งของการดำเนินธุรกิจของเราอยู่ในตลาดกำลังพัฒนาและตลาดเกิดใหม่ ยูนิลีเวอร์มีแบรนด์ในเครือราว 400 แบรนด์ซึ่งพบได้ในครัวเรือนทั่วโลก รวมถึงแบรนด์ชื่อดังระดับโลกอย่างเช่น โดฟ (Dove), ไลฟ์บอย (Lifebuoy), คนอร์ (Knorr), แม็กนั่ม (Magnum), โอโม่ (OMO) และเซิร์ฟ (Surf) และแบรนด์อื่น ๆ อย่างเช่น เลิฟ บิวตี้ แอนด์ แพลนเน็ต (Love Beauty & Planet), อาวเวอร์กลาส (Hourglass), เซเว่นท์ เจนเนอเรชั่น (Seventh Generation) และเดอะเวจทาเรียน บุทเชอร์ (The Vegetarian Butcher)

Unilever Compass หรือเข็มทิศยูนิลีเวอร์ คือยุทธศาสตร์ธุรกิจยั่งยืนของเราซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้เราดำเนินงานได้อย่างเหนือชั้น และขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ พร้อมทั้ง

  • ยกระดับสุขภาพของโลก
  • ยกระดับสุขภาพ ความมั่นใจ และสุขภาวะของผู้คน และ
  • ร่วมสร้างโลกที่เป็นธรรมมากขึ้นและให้ความสำคัญกับทุกกลุ่มคนในสังคม

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยูนิลีเวอร์และแบรนด์ในเครือของเราได้ที่ www.unilever.com

ติดต่อ 
เพเนโลปี รามิเรซ (Penelope Ramirez) 
อีเมล: [email protected] 

โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1748634/Knorr_Plizza_Logo_1_Logo.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1748636/Knorr_Launches_Plizza.jpg


ข่าวo:editor+o:c_genวันนี้

Yili กวาดรายได้ปีงบการเงิน 2567 เกือบ 115,800 ล้านหยวน ตอกย้ำสถานะบริษัทนมชั้นนำของเอเชีย

Yili Industrial Group Co., Ltd. เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา บริษัท Inner Mongolia Yili Industrial Group Co., Ltd. (600887.SH) ได้รายงานผลประกอบการทางการเงิน ด้วยตัวเลขรายได้รวม 115,780 ล้านหยวนในปีงบการเงิน 2567 ตอกย้ำสถานะบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมชั้นนำของเอเชีย นอกจากนี้ ในไตรมาสแรกของปีงบการเงิน 2568 Yili ยังมีผลประกอบการเติบโตมากเกินคาด โดยรายได้และกำไรสุทธิต่างก็เพิ่มขึ้น แม้จะเผชิญกับสภาพตลาดที่ท้าทายก็ตาม ในปีงบการเงิน 2567Yili เสนอจ่ายเงินปันผล 7,726 ล้านหยวน ซึ่งคิดเป็นอัตราการจ่าย

แค่เริ่มก็เตรียมจุดชนวนเดือดกันได้เลย กับ... เผยภาพแรกภาพยนตร์ "มือปืน" พร้อมจุดชนวนความมันส์! 27 พฤศจิกายนนี้ — แค่เริ่มก็เตรียมจุดชนวนเดือดกันได้เลย กับภาพแรกของ ภาพยนตร์ "มือปืน" โดยมีนักแสดงอย่าง...

Aroma Group ผู้นำด้านธุรกิจกาแฟครบวงจรในป... Aroma Group เปิดตัวกาแฟแคปซูลใหม่ 8 สูตร มอบประสบการณ์กาแฟพรีเมียมที่บ้าน — Aroma Group ผู้นำด้านธุรกิจกาแฟครบวงจรในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกาแฟค...

แผ่นระบายความร้อนแบตเตอรี่แบบไบโอนิกช่วยเ... มาห์เล เตรียมจัดแสดงโซลูชันอี-โมบิลิตี้พร้อมรับอนาคต ที่งานซับคอน ไทยแลนด์ 2025 — แผ่นระบายความร้อนแบตเตอรี่แบบไบโอนิกช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนขอ...

Bionic battery cooling plate enhances bat... MAHLE to showcase future-ready e-mobility solutions at SUBCON Thailand 2025 — Bionic battery cooling plate enhances battery performance and sustainability...

A professor from Chulalongkorn University... THANARA: A Microbiome-Based Skincare Innovation Featuring 4P-Biotics Technology by AL-DNA — A professor from Chulalongkorn University's Faculty of Science...