"DDD" เผยงบไตรมาส 2 ปี 65 ยอดขาย YoY โต 47% มั่นใจตลาดฟิลิปปินส์ดันรายได้ปีนี้เติบโตตามเป้า

11 Aug 2022

บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก อุปกรณ์ตกแต่งทรงผม อุปกรณ์เสริมความงาม ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เครื่องครัว แบรนด์ดัง อาทิ SNAILWHITE, NAMU LIFE PLUS, OXE'CURE, SPARKLE, LESASHA, JASON, EMJOI, BEAR และ @HOME ได้รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2565 ด้วยยอดขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนร้อยละ 47 สวนทางกับต้นทุนที่ลดลงในอัตราส่วน 6 point

"DDD" เผยงบไตรมาส 2 ปี 65 ยอดขาย YoY โต 47% มั่นใจตลาดฟิลิปปินส์ดันรายได้ปีนี้เติบโตตามเป้า

พร้อมรุกตลาดต่างประเทศ โดยมั่นใจตลาดฟิลิปปินส์ดันรายได้ปีนี้เติบโตตามเป้า

นางสาวนันทวรรณ สุวรรณเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD กล่าวรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2565 ว่า "ภาพรวมปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโตร้อยละ 30 โดยผลประกอบการในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาของบริษัท มีรายได้จากการขาย 406 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตร้อยละ 47 เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันในปี 2564 ที่มีรายได้จากการขาย 277 ล้านบาท

โดยในไตรมาส 2 ปี 2565 รายได้จากการขายต่างประเทศมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 39 ของรายได้จากการขายทั้งหมด หรือคิดเป็นมูลค่า 158 ล้านบาท โดยจากรายได้หลักจากการขายต่างประเทศมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เพิ่มขึ้น 87 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 124 เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า โดยเชื่อมั่นว่าตลาดฟิลิปปินส์จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบในช่วงครึ่งปีหลัง

ในขณะที่ต้นทุนสินค้าและบริการสำหรับไตรมาส 2 ปี 2565 มีมูลค่า 140 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 35 ของรายได้จากการขาย โดยลดลงร้อยละ 6 point เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันในปี 2564 ที่มีต้นทุนสินค้าและบริการ 113 ล้านบาท หรือร้อยละ 41ของรายได้จากการขาย จากผลสืบเนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น การรักษาประสิทธิภาพในการลดต้นทุนการผลิต รวมไปถึงการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสำหรับไตรมาส 2 ปี 2565 มีมูลค่า 229 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 56 ของรายได้จากการขาย โดยลดลงร้อยละ 12 point เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันในปี 2564 ที่มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 190 ล้านบาท หรือร้อยละ 69 ของรายได้จากการขาย โดยสอดคล้องกับแผน Synergy Roadmap ภายในกลุ่มบริษัทเพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานภายในกลุ่มของบริษัทอย่างต่อเนื่อง

จากปัจจัยด้านต้นทุนที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ไตรมาส 2 ปี 2565 บริษัทฯมีกำไรจากการดำเนินงานเป็นบวก (Operating Performance Turnaround) และมีอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่ร้อยละ 9 โดยเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 18 point ที่มูลค่า 37 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2564 ที่มีอัตรากำไรจากการดำเนินงานร้อยละ -9"

นอกจากนี้ นางสาวนันทวรรณ สุวรรณเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงโครงสร้างธุรกิจ ว่า "ทางบริษัทฯได้มีการประกาศปรับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทย่อย โดย DDD จะเข้าถือหุ้นโดยตรงใน บริษัท ดู เดย์ ดรีม ฟิลิปปินส์ คอร์ปอเรชั่น (DDDPH) ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัท จำนวน 33.66 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 51 ของทุนจดทะเบียน โดยเข้าซื้อในราคาหุ้นละ 1 เปโซฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นมูลค่าที่ตราไว้ (ราคาทุน) รวมมูลค่า 33.66 ล้านเปโซฟิลิปปินส์ จาก บริษัท ดู เดย์ ดรีม โฮลดิ้ง จำกัด (DDDH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมที่บริษัทถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.99 ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้ DDDPH มีสถานะเป็นบริษัทย่อยทางตรงของบริษัท โดยหลังจากการทำรายการดังกล่าวบริษัทยังคงมีสัดส่วนการถือหุ้นใน DDDPH ที่ร้อยละ 51 เช่นเดิม และดำเนินการลดทุนจดทะเบียนของ DDDH จากเดิม 2 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งเป็นหุ้นสามัญ 2 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1  ดอลล่าร์สหรัฐ ด้วยการลดจำนวนหุ้นสามัญลง 1.7 ล้านหุ้น คงเหลือหุ้นสามัญ 0.3 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 ดอลล่าร์สหรัฐ คงแหลือทุนจดทะเบียน 0.3 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดยบริษัทยังคงสัดส่วนการถือหุ้นใน DDDH ร้อยละ 99.99 เช่นเดิม การปรับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทย่อยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการภายในและเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท"