'บมจ. พริมา มารีน' หรือ ("PRM") เผยผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก ทำรายได้รวม 3,177.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.35% จากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา สะท้อนศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง ระบุกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศ และกลุ่ม Offshore Support เติบโตโดดเด่นพร้อมรุกครึ่งปีหลัง เล็งขยายกองเรือเพิ่มอีก 2-3 ลำ หนุนการเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป
นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) ("PRM") ผู้ให้บริการขนส่งและจัดเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และปิโตรเคมีเหลวทางเรือรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2565 (เมษายน-มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,703.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ตอกย้ำศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ PRM ที่แข็งแกร่งจากพอร์ตกองเรือที่หลากหลาย สามารถตอบสนองความความต้องการใช้เรือของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณการบริโภคน้ำมันภายในประเทศ ส่งผลดีต่อรายได้รวมครึ่งปีแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน) ที่ทำได้ 3,177.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แม้ว่าธุรกิจ FSU จะได้รับผลกระทบด้านต้นทุนจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่กลุ่มธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศ และธุรกิจเรือ Offshore Support มีการเติบโตอย่างโดดเด่น นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจเรือขนส่งภายในประเทศยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ตามความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มมากขึ้นภายหลังจากการประกาศให้โรค COVID-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีกำไรในสุทธิไตรมาส 2/2565 อยู่ที่ 212.36 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ มีกำไรจากการขายเรือซึ่งเป็นกำไรพิเศษที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจอยู่ถึง 189.1 ล้านบาท และจากปัจจัยเงินบาทที่อ่อนค่าลงนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับมูลหนี้ที่กู้เป็นสกุลเงินดอลลาร์เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ทางบัญชี จึงทำให้กำไรสุทธิของบริษัทฯ ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่บริษัทฯ จะได้รับประโยชน์ในกรณีที่ค่าเงินบาทอ่อนตัวโดยได้บันทึกเป็นรายได้ค่าบริการที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้ที่เป็นสกุลเงินเหรียญสหรัฐมากกว่ารายได้ที่เป็นสกุลเงินบาท โดยหากพิจารณาเฉพาะกำไรจากการดำเนินงานที่ไม่รวมรายการพิเศษ บริษัทฯ จะมีกำไรจากการดำเนินงานรวมในไตรมาส 2/2565 จำนวน 276.31 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.30% สะท้อนถึงขีดความสามารถการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง
ส่วนทิศทางดำเนินงานครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มุ่งสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยกลุ่มธุรกิจที่เป็นเรือธงในการขับเคลื่อน ได้แก่ กลุ่มธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศ ภายหลังให้บริการเรือ VLCC แก่กลุ่มลูกค้าไทยออยล์เพิ่มเติมอีก 1 ลำ ภายใต้สัญญา Time Charter เป็นระยะเวลา 10 ปี และกลุ่มธุรกิจ Offshore Support ที่มีอัตราการใช้เรือ 100% จากการให้บริการเรือ AWB 2 ลำ และเรือ Crew Boat 13 ลำ แก่กลุ่ม ปตท.สผ. เพื่อสอดรับกับกิจกรรมสำรวจและผลิตน้ำมันปิโตรเลียมในอ่าวไทยที่กำลังขยายตัว ขณะที่กลุ่มเรือขนส่งภายในประเทศจะมีอัตราการใช้บริการเรือที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ส่วนกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บหรือเรือ FSU นั้น บริษัทฯ จะมุ่งเน้นการบริหารจัดการเรือให้มีประสิทธิภาพและเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้จากการให้บริการผสมน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีแผนจัดหาเรือเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งอีก 2-3 ลำ และบริหารจัดการด้านอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อสนับสนุนการเติบโตตามแผนที่วางไว้
PRM จัด Analyst Meeting และ Opp Day โชว์ผลงาน Q1/68 กำไรกระโดด กางแผนธุรกิจ เร่งขยายกองเรือ-บุกตลาดใหม่ มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
PRM มาแรง! โชว์กำไร Q1/68 พุ่ง 769.4 ล้านบาท โต 30.7% เรือใหม่เข้างานครบ เสริมด้วยกำไรพิเศษจากการขายเรือ
PRM โชว์ผลประกอบการปี 67 โตแกร่ง กวาดรายได้ 8,790.6 ล้านบาท มั่นใจปีนี้เติบโตตามแผน
PRM ร่วมงาน Opportunity Day Q3/2024
PRM สุดแกร่ง! Q3 ฟันกำไร 494.3 ล้านบาท พุ่ง 48% กลยุทธ์ขยายกองเรือ Offshore Support เห็นผล!
PRM ร่วมงาน Opportunity Day Q2/2024 เปิดแผนลงทุนครึ่งหลัง มั่นใจภาพรวมธุรกิจปี 2567 โตแกร่ง
PRM ฟอร์มเด่น Q2/67 กำไรพุ่ง 678.6 ลบ. โต 36.4% กลุ่มธุรกิจเรือ OSV- FSU หนุน
PRM คว้างาน ปตท.สผ. พร้อมเคาะจ่ายปันผล 0.10 บ./หุ้น ขึ้น XD 27 พ.ย.นี้ ส่งสัญญาณผลประกอบการ Q4/66 สดใส ธุรกิจเรือขนส่งเข้าสู่ High season
PRM พร้อมลุย! จ่อรับเรือขนส่งปิโตรเคมีลำใหม่เดือนต.ค.นี้ มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10% ตามนัด