BEYOND รายงานงบ 2Q22 รายได้จากโรงแรมเติบโตต่อเนื่อง ลั่น! ครึ่งปีหลังจะโตดีกว่าครึ่งปีแรก คาดปี 2566 พลิกกลับมาทำกำไร

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEYOND ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมและบริการ แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2565 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ทำรายได้รวม 451 ล้านบาท เติบโต 1,500 % YoY และ 3.3% QoQ จากการเข้าลงทุนธุรกิจโรงแรมผ่านการเข้าซื้อหุ้นสามัญของโรงแรมริมน้ำระดับ Ultra-luxury 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ ในไตรมาส 4 ปี 2564 ที่ผ่านมา โดยรายได้จากการประกอบกิจการโรงแรม ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องกว่า 36% QoQ จาก 328 ล้านบาทในไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 445 ล้านบาท โดยรายได้ดังกล่าวมาจากการเติบโตที่โดดเด่นของรายได้ห้องพัก และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของรายได้ร้านอาหาร รวมไปถึงการจัดเลี้ยงภายในโรงแรม

BEYOND รายงานงบ 2Q22 รายได้จากโรงแรมเติบโตต่อเนื่อง ลั่น! ครึ่งปีหลังจะโตดีกว่าครึ่งปีแรก คาดปี 2566 พลิกกลับมาทำกำไร

นางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "รายได้รวมจากโรงแรมทั้ง 2 แห่ง เติบโตได้ดีกว่าที่บริษัทฯ คาดการณ์ไว้ เดิมบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ของไตรมาส 2 ของปี 2565 ไว้ที่ 320 ล้านบาท แต่สามารถทำได้ถึง 445 ล้านบาท ในไตรมาส 3 เราตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 450 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าสามารถพิชิตเป้าได้ไม่ยาก เฉพาะเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 160 ล้านบาท BEYOND รายงานงบ 2Q22 รายได้จากโรงแรมเติบโตต่อเนื่อง ลั่น! ครึ่งปีหลังจะโตดีกว่าครึ่งปีแรก คาดปี 2566 พลิกกลับมาทำกำไร

ในส่วนของตัวชี้วัดผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมก็เติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกมิติ โดยอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (Occ) เพิ่มขึ้นจาก 16% ในไตรมาส 1 มาอยู่ที่ 26% ในไตรมาส 2 ของปี 2565 และราคาค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR) เพิ่มขึ้นจาก 14,060 บาท มาอยู่ที่ 14,866 บาท ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืน (RevPar) เพิ่มขึ้นจาก 2,305 บาท มาอยู่ที่ 3,890 บาท ซึ่ง RevPar ณ ระดับนี้ ถือว่าสูงมากในกลุ่มธุรกิจโรงแรมปัจจุบัน ภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ คาดว่าจะเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากมาตรการยกเลิกระบบ Thailand Pass ที่เพิ่งเริ่มบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะมาจากประเทศไหน ไม่ชอบขั้นตอนการเดินทางที่ยุ่งยากซับซ้อน ภายหลังการยกเลิกระบบ Test & Go และ Thailand Pass ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง"

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา บริษัทฯ รายงานต่อ SET ถึงความคืบหน้าการเข้าลงทุนว่า ปัจจุบัน BEYOND ถือหุ้นครบ 100% ในโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ และโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ  ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้น

นอกจากนี้ นางกมลวรรณ วิปุลากร กล่าวเสริมอีกว่า "แม้งบการเงินรวมของ BEYOND ในไตรมาสนี้ยังคงขาดทุน 183 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบของค่าเสื่อมราคาและดอกเบี้ยจ่าย แต่บริษัทฯ คาดการณ์ว่าผลขาดทุนจะลดลงเรื่อยๆ จากรายได้ที่จะเติบโตก้าวกระโดดในครึ่งปีหลัง และต้นทุนค่าใช้จ่ายที่จะไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก หากดูที่ระดับ EBITDA ของพอร์ตโรงแรมเอง เป็นบวกตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2565 และในไตรมาส 2 สามารถสร้าง EBITDA ในระดับ 40-50 ล้านบาท เชื่อว่าบริษัทฯ มีโอกาสพลิกกลับมาทำกำไรในปีหน้า"

ปัจจัยที่จะสนับสนุนการท่องเที่ยวไทยครึ่งปีหลังค่อนข้างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกมาตรการขาเข้าประเทศที่สำคัญเกือบทั้งหมด ทั้ง Test & Go และ Thailand Pass การยกเลิกข้อกำหนดการกลับเข้าประเทศของประเทศต้นทาง ประเทศจีนเริ่มผ่อนคลายการเดินทางอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน โรงแรมของบริษัทฯ ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากจีนมากที่สุดเป็นอันดับ 4 รองจากลูกค้าชาวไทย สิงคโปร์ และอเมริกา ยิ่งไปกว่านั้น อีกปัจจัยที่น่าสนใจคือ การผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองสร้างสรรค์ มีเศรษฐกิจที่ดี ของผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านการจัดกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมบรรยากาศของกรุงเทพฯ ให้กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง เช่น เทศกาลดนตรีในสวน กรุงเทพกลางแปลง และบางกอกวิทยา เป็นต้น นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังมีแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวครั้งใหญ่ ภายใต้มาตรการ "Booster Shot" ซึ่งเปรียบเสมือนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่ภาคการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย  โดยปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณางบประมาณจากรัฐบาล"


ข่าวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย+ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศวันนี้

ดิ เอราวัณ กรุ๊ป คว้าอันดับ "A" ในการประเมิน SET ESG Ratings 2025

บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มีความยินดีที่จะประกาศว่า บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับ "A" ในการประเมิน SET ESG Ratings 2025 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างเข้มงวด สอดคล้องกับมาตรฐานทั้งในประเทศและระดับสากล การประเมิน SET ESG Ratings ทำการวัดผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และบรรษัทภิบาล (Governance) หรือ ESG ที่มีความสำคัญ การ

นายศรันย์ โรจน์เลิศจรรยา กรรมการผู้จัดการ... NL ขึ้นแท่นหุ้นยั่งยืนประจำปี 2568 ระดับ "BBB" เป็นปีแรก จาก SET — นายศรันย์ โรจน์เลิศจรรยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หร...

บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ห... PRTR ได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ A ประจำปี 2568 — บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PRTR ผู้นำด้านการให้บริการทรัพยากรบุค...

บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มห... ASIMAR ขยับมาตรฐานความยั่งยืน สู่ SET ESG Ratings ระดับ "BBB" ประจำปี 2568 — บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR ได้รับการประเมินด้า...

บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL ผู... PHOL คว้าหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2568 ที่ระดับ "A" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 — บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL ผู้ประกอบธุรกิจสินค้าและบริกา...

บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรื... PTG คว้าหุ้นยั่งยืน "ระดับสูงสุด AAA" จาก SET ESG Ratings ปี 2568 — บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ได้รับผลการประเมินความยั่งยืน SET ESG R...

บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาช... TTA คว้าหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 2568 ระดับสูงสุด "AAA" — บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ได้รับการประเมินให้เป็นหนึ่งใน หุ้นยั...