โอสถสภาตอกย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน พัฒนาสารบำรุงพืชจากของเหลวที่เหลือจากผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม พร้อมร่วมมือกับ เค.ซี.เกษตรกรรม ทดลองใช้ในพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ เตรียมขยายผลช่วยเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกรไทย
โอสถสภาตอกย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน สร้างมูลค่าให้ของเหลวที่เหลือจากผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม โดยพัฒนาเป็นสารบำรุงพืช ช่วยเพิ่มคุณภาพและผลผลิตของพืช พร้อมจับมือเค.ซี.เกษตรกรรม ทดลองใช้จริงในพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ เตรียมขยายผลช่วยเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกร เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกรไทย
บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศไทย มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน โดยคำนึงถึงผลลัพธ์ในระยะยาว ซึ่งรวมถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานในองค์กรและการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ ผ่านนโยบายการรีไซเคิล ลดของเสียในรูปแบบต่างๆ อาทิเช่น การนำขยะขวดแก้วมารีไซเคิลเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับผลิตขวดใหม่ การนำไอน้ำที่เกิดขึ้นจากความร้อนในกระบวนการหลอมขวดแก้วมาใช้ในการล้างขวดแก้ว และล่าสุด ได้คิดค้นพัฒนาสารบำรุงพืชจากของเหลวที่เหลือจากผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม
จากการที่โอสถสภาเล็งเห็นว่าของเหลวที่เหลือจากผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มนั้นมีคุณค่าสารอาหาร และสามารถนำไปทำประโยชน์ด้านอื่นได้ต่อ บริษัท สยามคัลเล็ต จำกัด ในเครือโอสถสภา จึงได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ให้การสนับสนุนในการจัดทำโครงการศึกษาค้นคว้าวิจัย เพิ่มมูลค่า เปลี่ยนของเหลวนั้นให้เป็นสารบำรุงพืชที่มีประสิทธิภาพ โดยได้ทดลองใช้กับพืชผักชนิดต่างๆ ในแปลงทดลองกว่า 8 ชนิด ได้แก่ มันสำปะหลัง ข้าวโพด อ้อย ข้าวไรซ์เบอร์รี่ มะเขือเทศ พริก ฝรั่ง และแคนตาลูป นอกจากนี้ ยังนำมาทดลองใช้กับแปลงผักจริงของศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์คนพิการ โรงพยาบาลแก่งคอย ในโครงการ Life must go on ของโอสถสภา และพบว่า สารบำรุงพืชดังกล่าวนั้นมีคุณสมบัติช่วยให้พืชผักเติบโตได้ดี มีคุณภาพ มีรสชาติหวานขึ้น และให้ผลผลิตมากขึ้น จึงมีแผนในการสนับสนุนไปยังศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์คนพิการ ในจังหวัดขอนแก่นและเกษตรกรเครือข่ายที่สนใจ
จากความสำเร็จในระดับแปลงทดลองร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โอสถสภาจึงได้ขยายการทดลองสู่ระดับพาณิชย์โดยร่วมมือกับ บริษัท เค.ซี. เกษตรกรรม จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจปลูกอ้อยรายใหญ่ของประเทศไทย ซึ่งมีการเพาะปลูกอ้อยอย่างเป็นระบบตั้งแต่การปลูก การดูแล จนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งให้โรงงานเพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิตน้ำตาล นำสารบำรุงพืชนี้เข้าสู่การทดสอบในแปลงปลูกพืชจริง บนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ในจังหวัดราชบุรีและกาญจนบุรี โดยทางโอสถสภา และเค.ซี. เกษตรกรรม จะคอยติดตามผลลัพธ์อย่างใกล้ชิด และขอการรับรองจากหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย ก่อนจะขยายผลนำไปแจกจ่ายให้เกษตรกรไทยได้นำไปใช้พัฒนาและเพิ่มผลผลิตในพื้นที่เกษตรกรรมของตน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายด้านความยั่งยืนของโอสถสภา ในการสนับสนุนการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ และการพัฒนาศักยภาพและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของกลุ่มเกษตรกรท้องถิ่น โดยเฉพาะผู้ปลูกอ้อยและมันสำปะหลังซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของโอสถสภา
นายนุกิจ ชลคุป Chief Manufacturing Office บมจ. โอสถสภา กล่าวว่า "การพัฒนาสารบำรุงพืชนี้ นับเป็นการนำของเหลือใช้จากกระบวนการผลิตมาสร้างคุณค่าเพื่อให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรไทย เป็นอีกหนึ่งโครงการที่โอสถสภาได้พัฒนาขึ้นตามนโยบายการบริหารจัดการทรัพยากร เพื่อลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยปฏิบัติตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน ด้วยการสร้างมูลค่าให้แก่ของเสีย พร้อมสร้างรายได้ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้เกษตรกร และสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศ"
นายวิชญ์ ชินธรรมมิตร ผู้จัดการทั่วไป บจก.เค.ซี.เกษตรกรรม กล่าว่า "การทดลองใช้สารบำรุงพืชจากของเหลวที่เหลือจากผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มจากโอสถสภา จะเป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งสำหรับการพัฒนาการเกษตรของไทยต่อไป โดยของเหลวที่เหลือเหล่านี้จะถูกนำมาทดลองในพืชเศรษฐกิจของไทย อาทิ อ้อยสำหรับโรงงานน้ำตาล มันสำปะหลัง ทุเรียน และพืชอื่นๆ กว่า 1,000 ไร่ ใน จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดราชบุรี ผ่านการแนะนำแลกเปลี่ยนความรู้กับกลุ่มโอสถสภา และคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สำหรับแผนการทำงานทดลองจริงนั้น จะดำเนินการฉีดพ่นโดยเครื่องจักรในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการใช้อากาศยานขนาดเล็กอย่างโดรนและเฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็ก รวมถึง Boomspray ติดรถแทรคเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งจักนำมาซึ่งองค์ความรู้ใหม่ๆ ด้านการเกษตรให้เกษตรกรไทยพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป"
'บมจ. โอสถสภา (OSP)' ตอกย้ำศักยภาพการบริหารจัดการที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสถานการณ์โลก ยืนยันเดินหน้าธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับพันธมิตรและผู้บริโภค โดยโรงงานผลิตเครื่องดื่มในประเทศเมียนมาร์ยังคงดำเนินการตามปกติรองรับแผนการดำเนินธุรกิจ นางสาวรติพร ราษฎร์เจริญ Group Chief Financial Officer บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 จุดศูนย์กลางที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ ไม่ได้สร้างความ
หาดทิพย์ (HTC) คว้า 2 รางวัลด้าน ESG ในงาน Future Trends Awards 2025
—
บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มในเครือ "โคคา-โคล่า" ใ...
TSM Group เปิดตัวโครงการ "Sustainable Bio CO2 for Food and Beverage" เดินหน้าธุรกิจสีเขียวเพื่อความยั่งยืน
—
กลุ่มบริษัท TSM Group มีความมุ่งมั่นที่จะเป็น...
TIDLOR ผลประกอบการ Q1/68 แข็งแกร่ง ธุรกิจนายหน้าประกัน-สินเชื่อ โตต่อเนื่อง
—
โชว์กำไรนิวไฮ 1,218 ล้านบาท เติบโต 10.3% (YoY) พร้อมคุม NPL ต่ำ 1.78% เตรียม...
SJWD ผ่านการรับรองแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส
—
นายบรรณ เกษมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท เอสซีจี...
EXIM BANK ขานรับนโยบายรัฐแบ่งเบาภาระภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate เหลือ 6.15% ต่อปี ต่ำที่สุดในระบบ
—
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรม...
TQR ฉลองก้าวเข้าสู่ปีที่ 14 "ก้าวสู่ความสำเร็จไปด้วยกัน (TOGETHER FOR SUCCESS)"
—
นายกฤษณะ บุญยะชัย (ที่ 7 จากซ้าย) ประธานกรรมการ, นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธ...
แนวคิดเรื่องเงินและแรงผลักดัน การเปลี่ยนแปลงเพื่อความสำเร็จของผู้ประกอบการ
—
ผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจจำนวนมากกำลังเผชิญกับความกังวลในใจ ทั้งความไม่มั่...
HENG โชว์ฟอร์มผลงานไตรมาส 1/2568 ร้อนแรง ทำกำไรสุทธิทะยาน 52 ล้านบาท โตพุ่ง 132%
—
มุ่งโฟกัสคุณภาพสินเชื่อ บริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมขยายพอร...
SCB คว้า 6 รางวัลยอดเยี่ยม จาก 4 เวทีชั้นนำระดับโลก ตอกย้ำบทบาทความเป็นผู้นำด้านลูกค้าบุคคลของเมืองไทย
—
ธนาคารไทยพาณิชย์ นำโดย นายวิฑูรย์ พรสกุลวานิช Chi...