บมจ.ดุสิตธานี เดินหน้าจัดโครงสร้างทางการเงินให้แข็งแกร่ง เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ แก่ผู้ลงทุนรายใหญ่และผู้ลงทุนสถาบัน โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ 8% ต่อปี และคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 1 - 10 สิงหาคม 2565 มั่นใจได้รับความสนใจจากผู้ลงทุน เพื่อเตรียมตัวรับนักท่องเที่ยว หลังอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีแนวโน้มฟื้นตัวดีกว่าที่คาด
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด ครั้งที่ 1/2565 หรือ Hybrid Perpetual Bond ให้กับผู้ลงทุนรายใหญ่และผู้ลงทุนสถาบัน จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยกำหนดอัตราผลตอบแทนใน 1 - 5 ปีแรกที่ระดับ 8% ต่อปี จากนั้นจะปรับอัตราดอกเบี้ยทุก ๆ 5 ปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน และคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 1 - 10 สิงหาคมนี้ ผ่าน 5 สถาบันการเงินชั้นนำ บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรที่ระดับ "BBB-" แนวโน้มอันดับเครดิต "Negative" และจัดอันดับหุ้นกู้ด้อยสิทธิ Hybrid Perpetual Bond ที่ระดับ "BB"
ส่วนอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ฯ ในครั้งนี้ ปีที่ 1 - 5 อัตราคงที่อยู่ที่ 8.00% ต่อปี ปีที่ 6 - 10 เท่ากับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปีบวก 5.90% ต่อปี ปีที่ 11 - 30 เท่ากับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปีบวก 6.20% ต่อปี ปีที่ 31 - 50 เท่ากับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปีบวก 6.80% ต่อปี ปีที่ 51 เป็นต้นไปเท่ากับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี บวก 8.00% ต่อปี ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี จะถูกปรับทุกๆ 5 ปีเพื่อให้สะท้อนกับสภาวะดอกเบี้ยในขณะนั้น
สำหรับเงื่อนไขสำคัญของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ประกอบด้วย 1. อายุของหุ้นกู้ หุ้นกู้ครั้งนี้เป็นหุ้นกู้ไม่มีกำหนดอายุ ผู้ถือหุ้นกู้ไม่มีสิทธิให้ผู้ออกหุ้นกู้ไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน แต่ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนเมื่อครบ 5 ปี 2. ลำดับการได้รับคืนเงิน ถ้าบริษัทเลิกกิจการ หุ้นกู้นี้จะมีลำดับการชำระหนี้หลังเจ้าหนี้ทั่วไป แต่ได้ก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ 3. ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิ์เลื่อนชำระดอกเบี้ยได้ หุ้นกู้นี้ผู้ออกหุ้นกู้สามารถเลื่อนจ่ายดอกเบี้ยได้ โดยยกยอดไปจ่ายวันใดๆ ก็ได้ไม่จำกัดระยะเวลา และจำนวนครั้ง แต่หากเลื่อนจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ ผู้ออกหุ้นกู้จะไม่สามารถประกาศหรือจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ 4. อัตราดอกเบี้ยจะมีการปรับทุกๆ 5 ปี โดยอ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี
"เรามั่นใจว่า หุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ที่เสนอขายในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนรายใหญ่และผู้ลงทุนสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอผลตอบแทนที่น่าพอใจ ในขณะที่ภาพรวมของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย จากการปรับประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มขึ้นของหน่วยงานต่างๆ ทำให้มีการปรับการคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และ "ดุสิตธานี" ซึ่งเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจบริการด้านโรงแรมและท่องเที่ยวของไทย ยังคงเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากนักเดินทางทั่วทุกมุมโลก ส่งผลให้การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมโดยรวมจะส่งผ่านมาถึงโรงแรมและรีสอร์ทในเครือของดุสิตธานีอย่างแน่นอน โดยล่าสุดได้ปรับแผนเจาะลูกค้ากลุ่มท่องเที่ยว โดยเน้นลูกค้าในกลุ่มประเทศอินเดีย ภูมิภาคอาเซียน และตะวันออกกลาง แทนลูกค้าจีน ยุโรปและรัสเซีย" นางศุภจีกล่าว
ทั้งนี้ การออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ครั้งที่ 1/2565 ยังเป็นการจัดโครงสร้างทางการเงินเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มดุสิตธานี เพื่อรองรับการเดินหน้าขยายธุรกิจที่จะเตรียมตัวต้อนรับนักท่องเที่ยว สอดรับกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเปิดประเทศต้อนรับนักเดินทางจากทั้งในประเทศและทั่วโลก
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี กล่าวว่า ด้วยศักยภาพของกลุ่มดุสิตธานีที่มีความแข็งแกร่ง หลังจากผ่านความท้าทายในช่วงที่ยากลำบากที่สุดมาแล้ว ทำให้เชื่อว่า การเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ของบริษัทฯ จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจโรงแรม ท่องเที่ยว ให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคงในอนาคต
สำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่และสถาบันที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2565 สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านสถาบันการเงินทั้ง 5 แห่ง ดังนี้
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) โทร. 02-658-5050
บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) หมายเลขโทรศัพท์ : 02-351-1801
บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) หมายเลขโทรศัพท์ 02-080-2888
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หมายเลขโทรศัพท์ 02-658-9500
บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด หมายเลขโทรศัพท์ 0-2088-9100 หรือ 0-2343-9500
เซ็นทาราคว้ารางวัลแห่งความยั่งยืน ในงานรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 15 ประจำปี 2568
โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพ คว้ารางวัลดีเด่นประเภทโรงแรมหรู ในงาน Thailand Tourism Awards 2025 ครั้งที่ 15
ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม คว้า "รางวัลแห่งความยั่งยืน" จาก ททท. ย้ำศักยภาพเป็นแลนด์มาร์กท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช
โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว คว้ารางวัล "Thailand Tourism Sustainability Awards" ครั้งแรกของประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
บางกอกแอร์เวย์สรับรางวัลพระราชทานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ประจำปี 2568 (Thailand Tourism Awards 2025) หนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน
Best Western Chatuchak คว้ารางวัล Best Mid-Range Hotel-Bangkok ในงาน TTG Travel Awards 2025
Let's Relax Onsen & Spa Thonglor คว้ารางวัล Thailand Tourism Hall of Fame Awardsผู้ประกอบการสปาและเวลเนสรายเดียวที่ได้รับเกียรติยศนี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจสปาและออนเซนของไทย
คณะการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คว้า 2 รางวัล อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย Thailand Tourism Awards ครั้งที่ 15 ประจำปี 2568