ศูนย์การเงินนานาชาติดูไบ หรือ ดีไอเอฟซี (Dubai International Financial Centre หรือ DIFC) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินโลกระดับแนวหน้าในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียใต้ มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 โดยผลงานที่แข็งแกร่งนี้ได้ช่วยสนับสนุนยุทธศาสตร์ปี 2573 (Strategy 2030) ของศูนย์การเงินนานาชาติดูไบ ในการขับเคลื่อนอนาคตด้านการเงินและสร้างความโดดเด่นให้กับดูไบในฐานะศูนย์กลางระดับโลกสำหรับบรรดาสถาบันการเงิน บริษัทฟินเทค และบริษัทด้านนวัตกรรม ตลอดจนช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มีบริษัทใหม่รวม 537 แห่งที่จดทะเบียนในศูนย์การเงินนานาชาติดูไบ เพิ่มขึ้น 11% นับตั้งแต่ต้นปี ส่วนจำนวนบริษัททั้งหมดที่ดำเนินงานในศูนย์การเงินนานาชาติดูไบเพิ่มขึ้นจาก 3,297 แห่ง เป็น 4,031 แห่ง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 หรือเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบรายปี
ปัจจุบัน ศูนย์การเงินนานาชาติดูไบเป็นที่ตั้งของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการเงินและนวัตกรรมรวม 1,252 แห่ง เพิ่มขึ้น 22% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 ส่วนจำนวนบริษัทฟินเทคและบริษัทด้านนวัตกรรมเพิ่มขึ้นจาก 406 แห่ง เป็น 599 แห่ง หรือเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบรายปี
ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายและข้อบังคับต่าง ๆ ภายในศูนย์การเงินนานาชาติดูไบ ซึ่งรวมถึงการแก้ไขกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก และเพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของประเทศในการเป็นมาตรฐานสากลด้านการเงินที่เปิดกว้าง (Open Finance) ศูนย์การเงินนานาชาติดูไบได้ก่อตั้งห้องปฏิบัติการด้านการเงินแบบเปิด (Open Finance Lab) แห่งแรกของภูมิภาคตามข้อตกลงกับธนาคารกลางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ ศูนย์การเงินนานาชาติดูไบได้ขยายศูนย์กลางนวัตกรรม (Innovation Hub) ด้วยการเปิดตัวเวนเจอร์ สตูดิโอส์ (Venture Studios) ระดับโลก และเปิดตัวกองทุนหนี้สินร่วมทุน (Venture Debt Fund) มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ ศูนย์การเงินนานาชาติดูไบยังสร้างคลื่นลูกใหม่ที่น่าสนใจในดูไบ ด้วยการร่วมมือกับบริษัทผู้ให้บริการทางการเงินจากสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการเดินสายร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผู้ให้บริการทางการเงินและเทคโนโลยีของอเมริกากว่า 100 แห่งที่มาร่วมงาน นอกจากนั้นยังมีการเดินสายในสาธารณรัฐตุรกี โดยมีการประชุมเชิงกลยุทธ์ร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรรายสำคัญในเมืองอิสตันบูล เพื่อสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับบริษัทต่าง ๆ ในประเทศ ขณะเดียวกัน ศูนย์การเงินนานาชาติดูไบยังประสบความสำเร็จในการจัดประชุมโต๊ะกลมที่เมืองเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ร่วมกับผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าในอนาคตราว 30 รายจากหลากหลายธุรกิจในภาคบริการทางการเงิน
ปัจจุบัน ในบรรดาบริษัททั้งหมด 4,031 แห่งที่ดำเนินงานในศูนย์การเงินนานาชาติดูไบ ประกอบด้วยธนาคาร 17 แห่งที่ติดอันดับ 20 ธนาคารชั้นนำของโลก, ธนาคาร 25 แห่งที่ติดอันดับ 30 ธนาคารที่มีความสำคัญเชิงระบบในระดับโลก, บริษัทประกันภัย 5 แห่งที่ติดอันดับ 10 บริษัทประกันภัยชั้นนำ, ผู้จัดการสินทรัพย์ 5 แห่งที่ติดอันดับ 10 ผู้จัดการสินทรัพย์ชั้นนำ รวมถึงบริษัทกฎหมายและบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกอีกมากมาย
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1894835/DIFC.jpg
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1874040/DIFC_Logo.jpg
CRDB Bank จากแทนซาเนีย เยือน CIMB THAI เพื่อศึกษาความยั่งยืน มิติการเงิน การพัฒนาศักยภาพ และการค้าระหว่างภูมิภาคแอฟริกาและอาเซียน
พร้อมแล้ว ! หุ้นกู้ UNIQ อายุ 2 ปี 6 เดือน ดอกเบี้ย 6.50% ต่อปี เสนอขายผู้ลงทุนทั่วไป 10 - 12 พ.ย.นี้
ภาคอสังหาฯ รวมพลังเปิดมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสให้คนไทยมีบ้านและเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจปลายปี
หุ้นกู้ UNIQ กระแสแรง! อายุ 2 ปี 6 เดือน ดอกเบี้ยคงที่ 6.50% ต่อปี ธุรกิจมั่นคงด้วยมูลค่างานในมือรอรับรู้ 3.7 หมื่นล้านบาท คาดเสนอขายระหว่าง 10 - 12 พ.ย. 2568 ผ่าน 5 สถาบันการเงิน
MONEY EXPO 2025 CHIANGMAI ยกทัพบริการการเงินการลงทุนครบวงจร ทุ่มแคมเปญส่งท้ายปี สู่ชาวเหนือ
UNIQ เตรียมออกหุ้นกู้อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 6.50% ต่อปี พร้อมเสนอขายผู้ลงทุนทั่วไป ผ่านสถาบันการเงิน 5 แห่ง คาดเปิดจองซื้อ 10 - 12 พ.ย. 2568
กสิกรไทย ยก 3 คอนโดแสนสิริ ต้นแบบ 'กรีนโปรเจ็กต์' พร้อมสนับสนุนสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท
Thailand Blockchain Week 2025 มหกรรมงานบล็อกเชนและการเงินแห่งโลกอนาคต
ตลาดคอนโดฯปี'69 ชะลอตัวต่อเนื่อง ลุ้นรัฐบาลใหม่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ฟื้นเศรษฐกิจกระตุ้นกำลังซื้อ