ความต้องการและความคาดหวังของผู้บริโภคในโลกดิจิทัลเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จากผลการวิจัยล่าสุดในตลาดเอเชียแปซิฟิกที่ร่วมสำรวจและเผยแพร่โดย TikTok และ Boston Consulting Group (BCG) ในหัวข้อ 'Shoppertainment: APAC's Trillion-Dollar Opportunity' หรือ "Shoppertainment: โอกาสมูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐของเอเชีย-แปซิฟิก" ซึ่งสำรวจตลาด 6 ประเทศทั่วเอเชีย-แปซิฟิก ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ค้นพบว่า Shoppertainment หรือประสบการณ์การซื้อขายที่เกิดจากความบันเทิง กลายเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จเพื่อก้าวไปสู่ยุคอีคอมเมิร์ซ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้ให้ก้าวไปข้างหน้า
อีคอมเมิร์ซได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนและธุรกิจ Shoppertainment เทรนด์การจับจ่ายซื้อของผ่านการรับชมคอนเทนต์ที่มอบความบันเทิงให้แก่นักช้อป เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น เป็นรูปแบบที่น่าสนใจและสร้างความตื่นเต้น จุดประกายความน่าเชื่อถือ ให้แก่ผู้ใช้และสร้างคอมมูนิตี้ให้เกิดขึ้น โดยมีตัวขับเคลื่อนสำคัญหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นครีเอเตอร์ ผู้ใช้ หรือแม้กระทั่งแบรนด์เองก็ตาม จากผลการวิจัยดังกล่าวคาดการณ์ว่า Shoppertainment จะสร้างโอกาสมูลค่าราว 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐให้กับแบรนด์ต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิกภายในปี 2568 โดยตลาดอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้จะมีส่วนร่วม 67% ของมูลค่าตลาดรวม (Gross Market Value - GMV) ใน Shoppertainment ภายในปี 2568 และ Shoppertainment ยังจะเติบโตถึง 63% ต่อปี เมื่อเทียบอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (Compound Annual Growth Rate - CAGR) สำหรับตลาดที่รวมอยู่ในรายงาน ในช่วงสามปีข้างหน้า
นอกจากนี้ ผลการวิจัย 'Shoppertainment: APAC's Trillion-Dollar Opportunity" ยังระบุด้วยว่า Shoppertainment มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันได้แก่ ไทยเวียดนาม และอินโดนีเซีย ตามลำดับ เนื่องจากทั้งสามประเทศนับว่าครองส่วนแบ่งการตลาดอีคอมเมิร์ซใหญ่ที่สุด และภูมิภาคนี้ที่ขับเคลื่อนด้วยความบันเทิง
มีปัจจัยกระตุ้นอุปสงค์และอุปทาน โดยผู้บริโภคในภูมิภาคได้แสดงให้เห็นว่า Shoppertainment มีผลต่อชีวิตของพวกเขาเป็นอย่างมาก
ในบรรดาตลาดทั้ง 6 แห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประเทศไทยอยู่ในอันดับต้นๆ ของการนำ Shoppertainment ไปใช้
- คอนเทนต์วิดีโอ: ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่นิยมเสพคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอมากขึ้น โดยจัดอยู่ในอันดับที่ 4 ที่ใช้เวลาเพิ่มขึ้นในการรับชมคอนเทนต์มากที่สุด รองจากอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และเวียดนาม ซึ่งเป็นโอกาส
อันดีสำหรับธุรกิจที่จะทำการตลาดและสื่อสารแบรนด์หรือโปรดักส์ด้วยวิดีโอ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น - คอนเทนต์ความบันเทิงนำไปสู่การซื้อ: คนไทยแสวงหาความบันเทิงและชอบเสพคอนเทนต์ที่ทำให้ตัวเองมีความสุขและตอบสนองความต้องการของตน การผสมผสานระหว่างความบันเทิงกับการช้อปปิ้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสามารถเพิ่มความสนใจในการรับชมและโอกาสในการซื้อที่สูงขึ้น โดยประเทศไทยจัดอยู่อันดับที่สองของตลาดที่คอนเทนต์บันเทิงกลายเป็นปัจจัยที่ทรงพลังที่สุดและส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ ตามด้วยเวียดนาม ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้
- พฤติกรรมการซื้อแบบไม่ได้วางแผนล่วงหน้า: พฤติกรรมการซื้อและทัศนคติของคนไทยได้เปลี่ยนแปลงไป การเติบโตของระบบ e-payment, mobile banking และ e-commerce ส่งผลให้ผู้บริโภคคุ้นชินกับการช้อปปิ้งดิจิทัลมากขึ้นด้วยช่องทางที่หลากหลาย โดยเฉพาะคนไทยเจนเนอเรชั่นใหม่ มีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมการซื้อแบบไม่ได้วางแผนล่วงหน้าจัดอยู่อันดับที่หนึ่ง ตามด้วยออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม
- สรรหาและค้นพบสิ่งใหม่ๆ: คนไทยมีพฤติกรรมที่ต้องการค้นพบประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างความเป็นตัวตนที่แตกต่าง จึงกระตือรือร้นที่จะสรรหาแบรนด์และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ ผู้บริโภคชาวไทยยินดีที่จะลองใช้และซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่จากแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใหม่ แบรนด์ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก หรือแม้แต่แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักแต่ยังไม่เคยลองใช้ หากผลิตภัณฑ์นั้นเหมาะกับสไตล์และความชอบของตน ผลการวิจัยชี้ว่าไทยจัดอยู่ในอันดับที่สองรองจากเวียนาม ในการชอบค้นพบแบรนด์และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตามด้วยอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้
- มีแรงจูงใจจากครีเอเตอร์: คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตตลอดเวลาและใช้งานแพลตฟอร์มต่างๆ อยู่เสมอ มักจะติดตามครีเอเตอร์ที่มีรสนิยมหรือไลฟ์สไตล์คล้ายคลึงกับตน และใช้เวลามากขึ้นในการเสพคอนเทนต์จาก
ครีเอเตอร์เหล่านี้ โดยครีเอเตอร์เหล่านี้มีผลกระทบต่อความตั้งใจในการซื้อและตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคเป็นอย่างมากด้วยแรงจูงใจจากความคิดเห็นส่วนตัวและคำแนะนำ ไทยจัดอยู่เป็นอันดับหนึ่งสำหรับการทดลองใช้และซื้อผลิตภัณฑ์ตามครีเอเตอร์ ตามด้วยเวียดนาม อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ - การปรับใช้ Shoppertainment: ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยได้พัฒนาไปในทิศทางของความบันเทิง
นำการซื้อขาย ไทยจึงเป็นตลาดอันดับหนึ่งในการเปิดรับ Shoppertainment มากที่สุด ตามด้วยเวียดนาม อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย คนไทยชอบเสพคอนเทนต์บันเทิงสนุกที่ทำให้พวกเขามีความสุขโดยไม่ต้องรู้สึกกดดันให้ซื้อ แบรนด์จึงควรหลีกเลี่ยงในการนำเสนอการขายมากเกินไป แล้วหันมาใช้แนวทาง entertainment first, commerce second เพื่อสร้างความประทับใจที่ยอดเยี่ยมและมอบประสบการณ์อันน่าทึ่งแก่ผู้บริโภคระหว่างเส้นทางการซื้อ
ทุกตลาดมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและต้องการกลยุทธ์การเติบโตที่แตกต่างกัน สำหรับแบรนด์แล้ว เวียดนามและไทยนับเป็นตลาดหลัก (Mainstay Markets) ซึ่งนักการตลาดควรพยายามขยายขอบเขตต่อไปในขณะที่ดำเนินการนำร่องในตลาดอื่นๆ ผู้บริโภคชาวไทยนิยมเสพความสุขและความบันเทิง และมีความไว้วางใจอย่างสูงต่อดาราคนดังและอินฟลูเอนเซอร์ที่สำคัญ และชอบติดตามเทรนด์อยู่เสมอ อินโดนีเซียเป็นตลาดที่สำคัญและกำลังเติบโตพร้อมศักยภาพทางการค้าที่มหาศาล (Star Markets) ในขณะที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง (High Potential Markets) และออสเตรเลียเป็นตลาดที่กำลังเติบโตในอนาคต (Future Growth Markets)
แบรนด์สามารถกระโดดข้าม Shoppertainment โดยดำเนินการการตลาดที่ตอบสนองความต้องการทางอารมณ์ของผู้บริโภคด้วยการเล่าเรื่องและให้ความรู้ ผ่านวิดีโอก่อน ไม่บังคับการตัดสินใจ มีความถูกต้อง พร้อมด้วยเสนอเทรนด์และคำแนะนำ ข้อมูลที่ชัดเจน ซึ่งจะนำไปสู่การซื้อของผู้บริโภคโดยทันที
แบรนด์สามารถบรรลุเป้าหมายผ่าน "4C's" ของ Shoppertainment ซึ่งรวมถึง:
- กลยุทธ์แคมเปญที่มีการวางแผนที่ชัดเจนซึ่งช่วยลดปัญหาในขณะที่เน้นความบันเทิงเป็นหลัก
- การแบ่งกลุ่มลูกค้าที่ระบุลูกค้าที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสม เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนพฤติกรรมของความต้องการด้านอารมณ์
- การจัดการช่องทางด้วยทรัพยากรเฉพาะเพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสทางการค้าที่สำคัญของ Shoppertainment
- คู่มือเนื้อหาที่ใช้แนวทางวิดีโอเป็นอันดับแรกเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและนำเสนอข้อมูลแก่ผู้บริโภคเพื่อสร้างแรงจูงใจในการตัดสินใจซื้อ
การเชื่อมโยงความสนใจ รวมถึงผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคผ่านความบันเทิง จะเปิดเส้นทางใหม่ๆ ให้ผู้บริโภคค้นพบประสบการณ์ที่มอบผลลัพธ์ซึ่งนำไปสู่การซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง แบรนด์และธุรกิจจึงมีโอกาสประสบความสำเร็จจากโอกาสมูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ด้วย Shoppertainment อย่างแน่นอน
สามารถอ่านผลวิจัยฉบับเต็ม ได้ที่ http://www.tiktokshoppertainment.com/
เกี่ยวกับ TikTok
TikTok คือ แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นชั้นนำระดับโลก พันธกิจของ TikTok คือ การจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และมอบความสุขให้กับผู้คน TikTok มีสำนักงานอยู่ทั่วโลก ได้แก่ ลอสแอนเจลิส ซิลิคอนวัลเล่ย์ นิวยอร์ค ลอนดอน ปารีส เบอร์ลิน ดูไบ โตรอนโต สิงคโปร์ จาการ์ตา โซล และโตเกียว สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ www.tiktok.com
TMA ขอเชิญชวนองค์กรเข้าร่วมทำ DAI - Digital Acceleration Index (DAI)
"WeOmni" Wins Thailand Digital Excellence Awards 2023 as "Digital Ecosystem Catalyst", Solidifying Position as Leading Digital Organization Driving Positive Impacts through Digital Transformation
"วีออมนิ" คว้ารางวัล Thailand Digital Excellence Awards 2023 ในสาขา "Digital Ecosystem Catalyst" ตอกย้ำความเป็นผู้นำในฐานะองค์กรดิจิทัลที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงท่ามกลาง การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation)
Xiaomi ขยับอันดับขึ้นไปอยู่ในท็อป 50 บริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดของการจัดอันดับโดย Boston Consulting
Capco แต่งตั้งหุ้นส่วนใหม่ Andrew McGinn พร้อมเร่งขยายธุรกิจ ในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้