บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานยอดขายเติบโตดีขึ้น มูลค่ารวม 8.6 ล้านล้านบาท จากการผ่อนคลายมาตรการเฝ้าระวังโควิด แต่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและความสามารถในการทำกำไร
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บจ. จำนวน 759 บริษัท คิดเป็น 96.7% จากทั้งหมด 785 บริษัท (รวม SET และ mai และไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน บจ. ในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC) นำส่งผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2565 สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2565 พบว่ามี บจ. รายงานกำไรสุทธิ 586 บริษัท คิดเป็น 77.2% ของ บจ. ที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด
ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2565 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน บจ. ใน SET มียอดขาย 8,605,952 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.1% แต่มีต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง ทำให้ บจ. มีกำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core profit) 1,078,048 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.9% และมีกำไรสุทธิ 596,594 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.9% ทั้งนี้ อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (Core profit margin) และอัตรากำไรสุทธิปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับฐานะการเงินของกิจการ ณ 30 มิถุนายน 2565 บจ. ไทยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ระดับ 1.59 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 1.53 เท่า เมื่อเทียบกับงวดปีก่อน
หน่วย : ลบ. 1H/2562 1H/2563 1H/2564 1H/2565 % YoY ยอดขาย 5,859,703 5,209,958 6,142,795 8,605,952 40.1 กำไรจากการดำเนินงานหลัก 574,375 374,714 811,052 1,078,048 32.9 กำไรสุทธิ 458,120 216,436 523,783 596,594 13.9 อัตรากำไรจากการดำเนินงานหลัก (%) 9.8 7.2 13.2 12.5 อัตรากำไรสุทธิ (%) 7.8 4.2 8.5 6.9
"การผ่อนคลายมาตรการการควบคุมโรคระบาดตั้งแต่ต้นปี ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ อาหาร แฟชั่น และอุตสาหกรรมบริการ อีกทั้งทิศทางการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย เป็นปัจจัยเร่งให้เกิดอุปสงค์ของกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และทำให้กลุ่มธุรกิจธนาคารมีผลประกอบการดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากกดดันต้นทุนการผลิตและผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจส่วนใหญ่ แม้ผู้ประกอบการมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้น แต่ยังสามารถควบคุมสัดส่วนต่อรายได้ในระดับเดิม" นายแมนพงศ์กล่าว
ด้านผลการดำเนินงานของ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 6 เดือนแรกปี 2565 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มียอดขายรวม 99,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.8% ต้นทุนขาย 79,365 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.2% มีกำไรจากการดำเนินงาน 5,021 ล้านบาท ลดลง 3.6% และมีกำไรสุทธิ 4,275 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.4%
"MGC-ASIA" คว้ารางวัล "ดีเลิศ" ระดับ 5 ดาว จาก CGR ติดกลุ่ม Top Quartile ตอกย้ำธรรมาภิบาลแกร่ง สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
ITEL ตอกย้ำผู้นำธรรมาภิบาล คว้า 5 ดาว "ดีเลิศ" 5 ปีต่อเนื่อง
SGP คว้า CGR ระดับ 5 ดาว `ดีเลิศ` ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน ตอกย้ำศักยภาพการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาล
SMPC คว้า Excellent CG Scoring 5 ดาว 6 ปีซ้อน ตอกย้ำมาตรฐานธรรมาภิบาลสูงสุด
STARM คว้า "CGR 5 ดาว" ดีเลิศต่อเนื่องปีที่ 3 ตอกย้ำองค์กรธรรมาภิบาลแข็งแกร่ง
กสิกรไทยประกาศเตรียมซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 47.39 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 8,800 ล้านบาท เพื่อบริหารทางการเงิน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเงินกองทุน
WICE คว้า CGR ระดับ "ดีเลิศ" 7 ปีซ้อน ในระดับ "Top Quartile" สะท้อนผลงานธรรมาภิบาลสูงสุด
CPW ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการ CGR ประจำปี 2568 ในระดับ "ดีเลิศ"
WP คว้า CGR ระดับ 5 ดาว "ดีเลิศ" ตอกย้ำการกำกับดูแลกิจการที่ดี