นางวรางค์ ไชยวรรณ กรรมการและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI เปิดเผยถึงผลประกอบการครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2565) ว่า บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 6,414 ล้านบาท เติบโต 23% เบี้ยประกันภัยรับรวม 40,833.10 ล้านบาท มีส่วนแบ่งการตลาดที่ 14.2% โดยมีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับปีแรกในทุกช่องทาง ทั้งช่องทางตัวแทนประกันชีวิต ช่องทางพันธมิตร และช่องทางอื่นๆ เช่น Telesales โดยเฉพาะช่องทางพันธมิตรที่เติบโตสูงถึง 85%
เมื่อพิจารณาจากรายได้รวม บริษัทฯ มีรายได้รวม 51,872 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.2% กำไรสุทธิ 5,812 ล้านบาท ใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกของปี 2564 ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR Ratio) ที่ 319% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดไว้ที่ 140%
"บริษัทฯ มีเบี้ยประกันรับใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งโดยปกติของธุรกิจประกันชีวิต เบี้ยประกันรับปีแรก จะมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกรมธรรม์ใหม่เพิ่มขึ้น แต่จะรับรู้เป็นกำไรในปีต่อๆ ไป ประกอบกับผลรวมของกำไรจากกรมธรรม์ใหม่ที่คาดว่าจะได้รับตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสิ้นสุดสัญญาของกรมธรรม์ (Value of New Business : VONB) ของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 3,301 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับปีแรกที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก" นางวรางค์กล่าว
โดย ณ 30 มิถุนายน 2565 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 533,110 ล้านบาท เป็นสินทรัพย์ลงทุน 515,741 ล้านบาท โดยมีผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่ 3.91% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2564 เป็นผลจากการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอัตราดอกเบี้ยในช่วงขาขึ้นจะส่งผลในเชิงบวกต่อธุรกิจประกันชีวิต
นางวรางค์กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ มากนัก แม้ว่าค่าใช้จ่ายในส่วนของการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจะเพิ่มขึ้น ก็เป็นการให้ความคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ และสัญญาเพิ่มเติมชดเชยรายได้ระหว่างเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเท่านั้น โดยบริษัทฯ ไม่มีผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยที่คุ้มครองโควิด-19 ในรูปแบบ "เจอ จ่าย จบ" แต่อย่างใด
สำหรับการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรภายใต้สถานการณ์ของธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป โดยให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างผลกำไรได้ในระยาว เช่น ประกันชีวิตประเภทควบการลงทุน (Investment-linked Product) ประกันชีวิตแบบมีส่วนร่วมในเงินปันผล (Participating Product) รวมถึงประกันสุขภาพ (Health Insurance) เพื่อให้สอดรับกับแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน โดยเน้นการขยายตลาดทั้งกลุ่มผู้เอาประกันเดิม และกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เน้นการขยายตลาดไปสู่ลูกค้าระดับบน หรือกลุ่ม High Net Worth และกลุ่มคนวัยทำงาน ตลอดจนให้ความสำคัญกับการขยายช่องทางจัดจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลของบริษัทฯ และพันธมิตรที่มีแพลตฟอร์มการขายออนไลน์ เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และสอดรับกับวิถีชีวิตใหม่
"บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบครบวงจร เพื่อเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต การประกันสุขภาพ และการวางแผนทางการเงิน หรือ Life Solutions Provider เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เอาประกันได้ในลักษณะเฉพาะบุคคล (Personalization) การพัฒนาบริการที่มากกว่าการประกันชีวิต ทั้งบริการ Health Care Solutions บริการด้านสุขภาพอย่างครอบรอบด้าน และบริการที่อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการทำธุรกรรมต่างๆ เช่น แอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต รวมถึงปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ บริการ ช่องทางจัดจำหน่าย บุคลากร และเทคโนโลยี ตลอดจนการดำเนินงาน เพื่อยกระดับความพร้อมในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และความผันผวนทางเศรษฐกิจ" นางวรางค์กล่าว
ไทยประกันชีวิต คว้ารางวัล Best Corporate Insurance Company 2024
เมืองไทยสไมล์คลับ จัดกิจกรรม Special Dining มื้ออร่อยกับคุณพ่อที่ SEKI
นับถอยหลังสู่งาน MEGA COUNTDOWN 2026 อีกหนึ่งปรากฏการณ์คอนเสิร์ตเคานต์ดาวน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ พร้อมบริการรถ รับ-ส่ง ฟรี! วันที่ 31 ธ.ค. 68 ที่เมกาบางนา
"genie Season" รวมตัวพ่อส่งเพลงร็อกต้อนรับเทศกาลดนตรี #G27Fest
ผู้ประกาศข่าวช่อง3 เสิร์ฟฉ่ำ ทำถึง พร้อมส่งพลังบวก ความปัง! กับปฏิทินครอบครัวข่าวประจำปี 2569 ชุด "มุ่งมั่น มั่นคง มั่งมี"
"เมืองไทยประกันชีวิต" รับประกาศนียบัตรแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) การต่ออายุครั้งที่ 3
เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 4 รางวัลใหญ่จาก ก.ล.ต.ตอกย้ำบทบาทองค์กรในการสร้างความรู้ทางการเงินแก่ประชาชนอย่างยั่งยืน
ไทยประกันชีวิต ชู TLI แอปพลิเคชัน ตอบโจทย์บริการด้านสุขภาพ-การเงินแบบครบวงจร
เมืองไทยประกันชีวิต ได้รับการรับรองเป็น "Best Places to Work 2025" จาก WorkVenture ตอกย้ำความเป็นองค์กรที่พนักงานเชื่อมั่นและอยากเติบโตไปด้วยกัน