KBank Private Banking ชี้สินทรัพย์ทางเลือกมาแรง เสริมแกร่งพอร์ตแม้ในยามผันผวน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

KBank Private Banking (เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง) เผยกลยุทธ์การลงทุน ผ่าน 5 สินทรัพย์ทางเลือก (Alternative Assets) เพื่อ "เพิ่มทางเลือก แนะทางรอด" ให้กับพอร์ตการลงทุนในยุคเศรษฐกิจผันผวน ที่การลงทุนรูปแบบเดิมไม่อาจตอบโจทย์อีกต่อไป พร้อมชูความสำเร็จจากผลการดำเนินงานเฉลี่ยที่โดดเด่นราว 11-19% ต่อปี ตอกย้ำบทบาทที่ปรึกษาด้านการลงทุนและการบริหารความมั่งคั่งชั้นนำของไทย

KBank Private Banking ชี้สินทรัพย์ทางเลือกมาแรง เสริมแกร่งพอร์ตแม้ในยามผันผวน

ดร.ตรีพล ภูมิวสนะ Senior Managing Director, Private Banking Business Head ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า "ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่พุ่งสูงขึ้น สินทรัพย์ดั้งเดิมที่เคยมี ไม่อาจสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจได้ นักลงทุนจึงต้องแสวงหาโอกาสในการลงทุนรูปแบบใหม่ เพื่อเพิ่มทางเลือก กระจายความเสี่ยง และสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว การลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก หรือ Alternative Assets จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่กลายเป็นทางรอดให้กับนักลงทุนทั่วโลก ด้วยกลยุทธ์การบริหารการลงทุนที่มีความยืดหยุ่นสูง ไปจนถึงราคาของสินทรัพย์นอกตลาดที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของตลาดทุน จึงสะท้อนปัจจัยพื้นฐานของแต่ละสินทรัพย์อย่างแท้จริง KBank Private Banking ในฐานะผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและการบริหารความมั่งคั่ง จึงเล็งเห็นถึงศักยภาพการลงทุนที่เติบโตนี้ และได้แนะนำให้กับลูกค้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 เพื่อเสริมแกร่งพอร์ตการลงทุนแม้ในยามตลาดผันผวน" KBank Private Banking ชี้สินทรัพย์ทางเลือกมาแรง เสริมแกร่งพอร์ตแม้ในยามผันผวน

สินทรัพย์ทางเลือกที่ KBank Private Banking แนะนำประกอบไปด้วย 5 สินทรัพย์ประเภท โดยแบ่งเป็นสินทรัพย์นอกตลาด 3 ประเภท และสินทรัพย์ในตลาดที่มีความยืดหยุ่นในการกลยุทธ์การลงทุนอีก 2 ประเภท ดังนี้

  1. Private Equity
    กองทุนหุ้นนอกตลาดที่ไม่ได้จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เน้นลงทุนในบริษัทที่กำลังระดมทุนเพื่อขยายกิจการและมีศักยภาพในการเติบโตสูง เนื่องจากราคาของหุ้นนอกตลาดไม่มีราคารายวันที่เคลื่อนไหวตามความตื่นตระหนกของตลาดทุนตามปกติ รวมถึงผลตอบแทนที่เกิดขึ้นก็สะท้อนจากปัจจัยพื้นฐานจริงๆ ของบริษัทที่ลงทุนอยู่ โดยรวมจึงมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี ขณะที่ความผันผวนทางด้านราคาในระยะสั้นช่วงตลาดตื่นตระหนกก็ต่ำกว่า อย่างไรก็ดี ก็จะต้องแลกมาด้วยระยะเวลาการลงทุนที่จะถูกล็อคไว้ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการสร้างการเติบโตของบริษัท สินทรัพย์ประเภทนี้จึงเหมาะกับนักลงทุนที่สามารถลงทุนในระยะยาวอย่างน้อย 7-9 ปี
  2. Private Debt
    เปรียบเสมือนการกู้ยืมเงินกันนอกตลาดทุน ซึ่งเป็นการระดมทุนทางเลือกสำหรับบริษัทที่ต้องการต่อยอดธุรกิจแต่อาจจะไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนตามปกติ เช่น การกู้ยืมจากธนาคาร หรือบริษัทที่ต้องการความรวดเร็วในการระดมทุน โดยนักลงทุนจะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมดอกเบี้ยขาขึ้นในปัจจุบันจึงยิ่งน่าสนใจ แต่ก็ต้องแลกกับความเสี่ยงด้านสภาพคล่องที่ต่ำกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หรือหุ้นกู้เอกชนทั่วไปที่สามารถซื้อขายต่อได้ในตลาดทุน สินทรัพย์ประเภทนี้จึงเหมาะกับนักลงทุนที่สามารถลงทุนในระยะยาวอย่างน้อย 5-7 ปี
  3. Private Real Estate
    การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นอกตลาด หรือโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาด เช่น อาคารสำนักงาน ไฟฟ้า และโทรคมนาคม สามารถช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดที่มีความผันผวนได้เช่นกัน โดยอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการเช่าสูง ช่วยให้ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนในรูปแบบค่าเช่าที่สม่ำเสมอ เหมาะกับภาวะการลงทุนในปัจจุบันที่นักลงทุนให้ความสำคัญกับการได้รับกระแสเงินสดที่มั่นคง และสม่ำเสมอ โดยส่วนมากจะแนะนำลงทุนระยะยาว 3 ปีขึ้นไป
  4. Quantitative Hedge Fund
    กองทุนทางเลือกที่กลยุทธ์การลงทุนยืดหยุ่นมาก ส่วนมากจะต้องเชื่อฝีมือผู้จัดการกองทุนเป็นหลัก โดยมีความมุ่งหวังที่จะสร้างผลตอบแทนเป็นบวกตลอดเวลาไม่ว่าสถานการณ์ของตลาดจะเป็นเช่นไร โดยกองทุนสามารถลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท และมักมีการใช้กลยุทธ์ขายชอร์ต (Short) ที่สามารถทำกำไรได้ในตลาดขาลงด้วยการยืมสินทรัพย์มาขายก่อน แล้วไปซื้อสินทรัพย์มาคืนในภายหลังในราคาที่ต่ำลง หรือการใช้ตราสารอนุพันธ์ในการเพิ่มอัตราทดเหมือนกับการการยืมเงินมาลงทุน (Leverage) รวมถึงใช้กลยุทธ์ที่ซับซ้อนด้วยกระบวนการทางคณิตศาสตร์และสถิติจากข้อมูลเชิงปริมาณ เป็นต้น โดยรวมจึงเปรียบเสมือนเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับพอร์ตการลงทุน ทั้งด้านเพิ่มผลตอบแทน และกระจายความเสี่ยง
  5. Structured Note
    หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง คือ ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ผสมผสานคุณสมบัติของหุ้นกู้และตราสารอนุพันธ์ด้วยกลไกการลงทุนที่อ้างอิงกับราคาสินทรัพย์ หรือปัจจัยที่เกี่ยวพันกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดในหลากหลายรูปแบบ เช่น ดัชนีหุ้น และอัตราแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศ เป็นต้น โดยผลิตภัณฑ์ที่นิยมกันในหมู่นักลงทุนไทย คือ หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงแบบ Knock-In Knock-Out หรือ KIKO ที่สามารถเลือกอ้างอิงผลตอบแทนได้ทั้งตะกร้าหุ้นไทย หรือหุ้นต่างประเทศ ซึ่งจะให้ผลตอบแทนดีในช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ และสามารถให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ยรายเดือนที่สม่ำเสมอได้

สินทรัพย์แต่ละประเภทมีความโดดเด่น และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนที่แตกต่างกันได้เป็นอย่างดี นักลงทุนที่สนใจการลงทุนในรูปแบบนี้ จึงควรเริ่มจากการศึกษาและทำความเข้าใจรายละเอียดก่อนการลงทุน โดยอาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอรับคำแนะนำด้านการจัดพอร์ตการลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสม ทั้งนี้ โดยปกติแล้วสินทรัพย์ทางเลือกจะลงทุนเป็นสัดส่วนไม่เกิน 10% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด เพราะ จุดประสงค์หลักมีไว้เพื่อกระจายความเสี่ยง

"จากผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์การลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกที่มีความโดดเด่น และสามารถสร้างผลตอบแทนที่เป็นที่น่าพอใจให้กับลูกค้าได้ ท่ามกลางความผันผวนของตลาด ได้แก่ กองทุนหุ้นนอกตลาด หรือ Private Equity ด้วยอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่สูงถึง 19% ต่อปีสำหรับกองทุน K-GPE19A-UI โดยตลอดช่วงครึ่งปีหลังนี้ KBank Private Banking ยังคงมุ่งมั่นที่จะแนะนำผลิตภัณฑ์ทางเลือกการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ และสอดคล้องไปกับธีมการลงทุนแห่งอนาคต อย่าง Global Private Debt (ตราสารหนี้นอกตลาดทั่วโลก) Global Private Equity (กองทุนหุ้นนอกตลาดทั่วโลก) Global and Local Private Real Estate (อสังหาริมทรัพย์นอกตลาดทั้งทั่วโลก และในประเทศไทย) Quantitative Hedged Fund Strategy (กองทุน Hedge Fund ที่ใช้กลยุทธ์การลงทุนด้วยกระบวนการคณิตศาสตร์และสถิติจากข้อมูลเชิงปริมาณ) และ Exotic Structured Note (หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงแบบต่างๆ) เพื่อเป็นทางรอดให้กับนักลงทุนต่อไป" ดร.ตรีพล กล่าวปิดท้าย


ข่าวธนาคารกสิกรไทย+ตรีพล ภูมิวสนะวันนี้

กสิกรไทย - DKSH - วีซ่า ผนึกกำลังยกระดับโซลูชันรับชำระเงินครบวงจร สนับสนุนธุรกิจกลุ่มสินค้าเฮลท์แคร์และสินค้าอุปโภคบริโภค

นายบุญเติบ จีรภัทร์ (ที่ 2 จากขวา) นางสาวรวีวรรณ มูลทรัพย์ (ขวา) ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย นางสาวภัคนภา บุญประสพ (ที่ 2 จากซ้าย) Director, Country Taxation & Treasury บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด และนางสาวพรทิพย์ สุวิญญัติชัยพร (ซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายขายลูกค้ากลุ่มธุรกิจ บริษัท วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ เพื่อพัฒนาระบบการรับชำระเงินสำหรับ Business to Business ที่เป็นลูกค้าของ DKSH ประเทศไทย โดยเริ่มผลักดันในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์

บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด (orbix) ผู้นำ... ออร์บิกซ์ จับมือ บลูพลัส มอบสิทธิประโยชน์ 2 ต่อ! แก่สมาชิก เสริมกลยุทธ์ "Power Up Your Life" — บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด (orbix) ผู้นำแพลตฟอร์มแลกเปลี่ย...

บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด (orbix) ผู้นำ... ออร์บิกซ์ จับมือ บลูพลัส มอบสิทธิประโยชน์ 2 ต่อ! แก่สมาชิก เสริมกลยุทธ์ "Power Up Your Life" — บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด (orbix) ผู้นำแพลตฟอร์มแลกเปลี่ย...

ธนาคารกสิกรไทย หนุน Orbix Technology สาธิ... KBank จับมือ Orbix Technology ปูทางสู่อนาคต Agentic Economy ด้วยโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชน Quarix — ธนาคารกสิกรไทย หนุน Orbix Technology สาธิตการผสานรวมเทคโ...

เคแบงก์ ไพรเวทแบงก์กิ้ง (KBank Private Ba... เคแบงก์ ไพรเวทแบงก์กิ้งจัดหลักสูตร KPBA The Legend รุ่น 2 — เคแบงก์ ไพรเวทแบงก์กิ้ง (KBank Private Banking) ในฐานะผู้ให้บริการบริหารความมั่งคั่งในประเทศไท...