PLUS ส่งซิกแนวโน้ม Q3 ลุยขยายฐานตลาด คลอดโปรดักส์ใหม่หนุนรายได้ปี 65 โต 50% แตะนิวไฮ 1,500 ลบ.

22 Aug 2022

"บมจ.โรแยล พลัส" หรือ PLUS ส่งซิกแนวโน้มผลงานไตรมาส 3/65 ลุยขยายฐานตลาด หนุนผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังเติบโตแข็งแกร่ง ชูธงหลักออกโปรดักส์ใหม่ เช่น "โคโคนัท โยเกิร์ต" หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายทำให้คำสั่งซื้อเร่งตัวขึ้น พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจ บุกตลาดต่างประเทศ อัพรายได้และกำไรปี 65 โดยวางเป้ารายได้โตก้าวกระโดด 50% แตะนิวไฮที่ระดับ 1,500 ล้านบาท

PLUS ส่งซิกแนวโน้ม Q3 ลุยขยายฐานตลาด คลอดโปรดักส์ใหม่หนุนรายได้ปี 65 โต 50% แตะนิวไฮ 1,500 ลบ.

นายพลแสง แซ่เบ๊ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 3/2565 คาดเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา สนับสนุนผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมา หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายทำให้คำสั่งซื้อเร่งตัวขึ้น ขณะที่สถานการณ์ตู้คอนเทนเนอร์คลี่คลายดีขึ้น ล่าสุดค่าระวางเรือปรับลงจากช่วงก่อนหน้า ถือเป็นปัจจัยบวกต่อบริษัท รวมทั้งการฟื้นตัวของตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดหลักและตลาดตะวันออกกลาง ส่งผลให้สินค้ากลุ่มหลักอย่างน้ำนมมะพร้าวและน้ำมะพร้าวมีการเติบโตที่ดี รวมทั้งได้อานิสงส์เชิงบวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่า เนื่องจากบริษัทมีรายได้เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ราว 63% ของรายได้รวม ล้วนเป็นปัจจัยบวกสะท้อนการเติบโตที่แข็งแกร่ง

นอกจากนี้ ยังเสริมกลยุทธ์วางแผนการออกโปรดักส์ใหม่กลุ่ม Plant-Based ในช่วงครึ่งปีหลัง เป็นเครื่องดื่มน้ำนมมะพร้าว และโยเกิร์ตมะพร้าว ภายใต้แบรนด์ MABU ซึ่งเป็นเครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ โดยใช้วัตถุดิบจากพืชเป็นหลัก (Plant-Based) ในขณะที่ "เครื่องดื่มกลุ่มน้ำมะพร้าว" ยังมีคำสั่งซื้อทยอยเข้ามาอย่างคึกคัก รวมถึงสถานการณ์ค่าระวางและสายเรือดีขึ้น สนับสนุนเป้าหมายการเติบโตของยอดขายในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 50% (YoY) จากปริมาณคำสั่งซื้อที่เข้ามาต่อเนื่อง และมีการขยายช่องทางจัดจำหน่าย โดยปัจจุบันส่งสินค้าเข้าห้าง Walmart แล้วกว่า 2,000 สาขา

ปัจจุบัน PLUS ขยับขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกน้ำผลไม้ลำดับที่ 3 ของประเทศ จากเดิมลำดับที่ 12 และขึ้นชั้นเป็นลำดับที่ 1 ของกลุ่มน้ำผลไม้ผสมจากลำดับที่ 3 เมื่อสิ้นปี 2564 ตอกย้ำศักยภาพในการดำเนินธุรกิจในฐานะผู้ผลิตและส่งออกรายใหญ่ของประเทศ

โดยภาพรวมธุรกิจปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1,500 ล้านบาท เติบโต 50% จากปีก่อน เชื่อว่าจะทำได้ตามแผน เนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ผ่อนคลาย ภาพรวมการบริโภคในประเทศ และการส่งออกคึกคัก ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อกลับเข้ามารับความต้องการผู้บริโภคเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งบริษัทฯ มีแผนขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศในกลุ่ม CLMV และลงทุนในระบบเทคโนโลยีและเครื่องจักรเพิ่มเติม เพื่อขยายตลาดใหม่สอดรับเทรนด์อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่จะเติบโตในอนาคต