โครงการก่อสร้างระดับประเทศ "ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์" โฉมใหม่ มั่นใจเลือกใช้เหล็กเอชบีม ไวด์แฟลงก์ คุณภาพ "SYS" ในส่วนของโครงสร้างหลังคาขนาดใหญ่ ชูความโดดเด่น กระบวนการติดตั้งรวดเร็ว ตอบโจทย์งานโครงสร้างที่แข็งแกร่ง มั่นคงปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งระหว่างการก่อสร้าง ตลอดจนเมื่อเปิดใช้งานจริง สะท้อนความเป็นผู้ผลิตเหล็กเอชบีม ไวด์แฟลงก์ คุณภาพ ชั้นนำของไทยมานานกว่า 25 ปี
นายพงษ์ศักดิ์ แห่ล้อม ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด หรือ SYS ผู้ผลิตเหล็กเอชบีม ไวด์แฟลงก์ มานานกว่า 25 ปี กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์เหล็กเอชบีม ไวด์แฟลงก์ของบริษัทฯ ได้รับเลือกให้เป็นส่วนสำคัญของงานโครงสร้างหลังคาในโครงการ "ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ใหม่" หรือ "QSNCC" โดยในกระบวนการติดตั้งโครงเหล็กสำหรับงานโครงสร้างหลังคาขนาดใหญ่ นับว่าเป็นงานที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งนอกจากการใช้เหล็กเอชบีม ไวด์แฟลงก์ ที่มีคุณภาพแล้ว บริษัทฯ ยังได้ร่วมกับ บ. เบคา (ไทยแลนด์) ผู้ออกแบบโครงการ และ บ.นันทวัน (ไทยโอบายาชิ) ผู้รับเหมาก่อสร้างในโครงการนี้ ในการร่วมพัฒนาเหล็กขนาดใหญ่พิเศษเพื่อใช้ในโครงการนี้เป็นครั้งแรก โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีอันทันสมัย ซึ่งโครงสร้างหลังคาขนาดใหญ่ของโครงการนี้ ได้เตรียมชิ้นงานที่โรงงานโดยผู้เชี่ยวชาญก่อนนำมาติดตั้งโครงสร้างที่ไซต์งาน ทำให้ก่อสร้างได้รวดเร็ว การติดตั้งมีมาตรฐาน มีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญดูแลในทุกขั้นตอน ที่สำคัญคือช่วยประหยัดเวลาการก่อสร้างได้มากกว่าการทำงานในระบบทั่วไป เป็นการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการอาคารโครงสร้างเหล็กที่ได้มาตรฐานตามหลักวิศวกรรม และยังเป็นการก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนให้ได้คะแนนตามมาตรฐานอาคารเขียว (LEED) อีกด้วย
"SYS มีความภูมิใจและยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการขนาดใหญ่ระดับประเทศ สะท้อนถึงศักยภาพและความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์เหล็กเอชบีม ไวด์แฟลงก์ ที่มีคุณภาพ รวมทั้งบริการที่มุ่งตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้า จนได้รับความไว้วางใจจากผู้พัฒนาโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่หลายแห่งที่ต้องการความมั่นคงและแข็งแรง เป็นการเริ่มต้นให้ความสำคัญกันตั้งแต่งานโครงสร้างการใช้วัสดุที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ เพื่อโครงสร้างอาคารที่แข็งแรงและความปลอดภัยของผู้ใช้อาคารในระยะยาว" นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
ด้านนายวิทวัส คุตตะเทพ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายโครงการเชิงพาณิชยกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า "เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย หรือ FPT ในฐานะผู้บริหารงานก่อสร้างโครงการ "ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์" โฉมใหม่ (Queen Sirikit National Convention Center หรือ QSNCC) ได้คัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดและทีมงานมืออาชีพในการพัฒนาศูนย์สิริกิติ์ฯ ให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานสากลระดับสูงสุด โดยได้เลือกใช้เหล็กเอชบีม ไวด์แฟลงก์ คุณภาพสูงจาก SYS ในงานโครงสร้างอาคาร เพื่อให้มั่นใจได้ว่าศูนย์การประชุมแห่งนี้มีความมั่นคง แข็งแรง ตอบโจทย์การพัฒนางานก่อสร้างที่สมัยใหม่ อีกทั้งยังปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เลือกผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและมีความน่าเชื่อถือ อย่างบริษัท นันทวัน (ไทยโอบายาชิ) ในการพัฒนาโครงการสำคัญครั้งนี้ FPT มั่นใจว่าด้วยความสามารถและประสบการณ์ของบริษัทฯในการบริหารจัดการโครงการ ประกอบกับทีมงานมืออาชีพทุกส่วน และผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ได้เลือกใช้ในโครงการศูนย์ฯสิริกิติ์นี้ จะทำให้ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โฉมใหม่พัฒนาแล้วเสร็จได้ตามเวลาที่กำหนด จะกลายเป็นอาคารศูนย์ประชุมล้ำสมัยที่ดีที่สุดแห่งภูมิภาค"
FTREIT ปิดดีลขายหุ้นกู้มูลค่า 1,900 ล้านบาท นักลงทุนจองซื้อคึกคัก สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพและผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โอนซื้อทรัพย์สินรอบแรกสำเร็จรวมประมาณ 1,470 ล้านบาท
เปิดไฮไลท์ 'เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้' ในงาน SX2025 จัดเต็ม AR ยกระดับประสบการณ์สำรวจโลกอสังหาฯ ที่ร่วมส่งมอบคุณค่าให้สังคม
"ROYAL JAZZ FOR CHAIPATTANA FOUNDATION VOLUME 2" จัดเต็มอย่างยิ่งใหญ่และทรงพลัง รายได้ทั้งหมดมอบให้มูลนิธิชัยพัฒนา
'เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้' ร่วมสร้างโลกสมดุล โชว์ศักยภาพอสังหาฯ ที่ยั่งยืนในงาน SX2025 วันที่ 26 ก.ย. - 5 ต.ค. นี้
เตรียมจัดใหญ่อีกครั้ง "ROYAL JAZZ FOR CHAIPATTANA FOUNDATION VOLUME 2" รายได้เพื่อมูลนิธิชัยพัฒนา โดยไม่หักค่าใช้จ่าย
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย คว้า 6 รางวัล จากสุดยอดเวทีอสังหาฯ ไทย การันตีคุณภาพ ดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิต และพัฒนาที่อยู่อาศัยสู่ความยั่งยืน
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เผยศักยภาพตลาดอสังหาฯ ภาคอีสาน ชู "แกรนดิโอ โคราช-เทอมินอล" (GRANDIO Korat-Terminal) รับดีมานด์โตต่อเนื่อง
GVREIT ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 เตรียมจ่ายปันผลให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์ 0.1965 บาทต่อหน่วย คิดเป็น 8% ที่ราคาพาร์