ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการศึกษาวิจัยมะเร็งตับและท่อน้ำดี

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการศึกษาวิจัยมะเร็งตับและท่อน้ำดีของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ณ โรงพยาบาลบ้านหลวง อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน วันที่ 9 มิถุนายน 2565

ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการศึกษาวิจัยมะเร็งตับและท่อน้ำดี

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 เวลา 15.12 น. ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
เสด็จไปยัง โรงพยาบาลบ้านหลวง อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน เพื่อทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการศึกษาวิจัยมะเร็งตับและท่อน้ำดี หรือ โครงการ TIGER-LC ของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เพื่อหาแนวทางป้องกันและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่มีอุบัติการณ์เกิดโรคมะเร็งตับ และมะเร็งท่อน้ำดีในจังหวัดน่าน โดยมีพระดำริให้จัดทำโครงการศึกษาวิจัยมะเร็งตับและท่อน้ำดี ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2554 ด้วยทรงมีความห่วงใยในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และทรงเพียรพยายามที่จะช่วยเหลือในการแก้ปัญหาด้านสาธารณสุขของประเทศ

ในการนี้ ทรงรับฟังการกราบทูลรายงานความก้าวหน้า จากคณะนักวิจัยของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เกี่ยวกับ การศึกษาปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี ในพื้นที่อำเภอบ้านหลวง ที่อาจจะช่วยเป็นแนวทางในการป้องกันการเกิดโรค และการคัดกรอง และเฝ้าระวังโรคมะเร็งเซลล์ตับและท่อน้ำดี ในพื้นที่อำเภอบ้านหลวง รวมถึงพื้นที่ที่พบการระบาดเฉพาะถิ่น ซึ่งต่อมาได้มีการพัฒนาแนวทางการคัดกรองโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะช่วยตรวจจับรอยโรคเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคร่วมกับภาพอัลตราซาวด์ เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรคมะเร็งตับได้ในระยะแรกเริ่มได้ ทำให้เพิ่มระยะการรอดชีวิตและระยะปลอดโรค และการดำเนินโครงการอาสาจุฬาภรณ์ รุ่นที่ 2 ซึ่งเป็นโครงการเพื่อพัฒนาศักยภาพของประชาชน ให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในด้านการดูแลสุขภาพอนามัยของตนเอง ครอบครัว และชุมชน รวมถึง การจัดทำแอพพลิเคชั่น การสร้างระบบบริการเชื่อมโยงระหว่างชุมชน โรงพยาบาลในพื้นที่ และโรงพยาบาลจุฬาภรณ์

โอกาสนี้ พระราชทานผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากโครงการวิจัยในพระดำริ ของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ อาทิ เจลแอลกอฮอล์ สบู่เหลวล้างมือ เป็นต้น แก่ผู้แทนตำบลของอำเกอบ้านหลวง 4 ตำบล และผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านหลวง ได้แก่ ตำบลสวด ตำบลบ้านฟ้า ตำบลป่าคาหลวง ตำบลบ้านพี้ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านหลวง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ต่อไป พร้อมกับทรงเยี่ยมราษฎรและผู้ป่วยในโครงการศึกษาวิจัยมะเร็งตับและท่อน้ำดี

โรคมะเร็งตับ เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศและเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต ไม่น้อยกว่าปีละ 15,000 คน โดยมะเร็งชนิดนี้จะแบ่งย่อยได้เป็น มะเร็งเซลล์ตับที่มีสาเหตุหลักเกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี และมะเร็งท่อน้ำดีที่มีปัจจัยเสี่ยงที่ที่เกี่ยวข้องกับ สารเคมีที่ได้รับจากชีวิตประจำวัน การได้รับพยาธิใบไม้ในตับ และอื่น ๆ การรักษาโรคมะเร็งชนิดนี้ยังเป็นปัญหา เนื่องจากจะตรวจพบโรคเมื่ออยู่ในระยะที่เป็นมากแล้ว และมักจะเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งการยังขาดความรู้เกี่ยวกับกลไกการเกิดโรคและยาที่จะใช้รักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ทรงเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องทำการวิจัยโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี และทรงผนึกกำลังระหว่างสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และสถาบันชั้นนำของประเทศไทย ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ร่วมกับ สถาบันชั้นนำของโลก อย่างสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ของสหรัฐอเมริกา ร่วมมือกันทำการวิจัย เพื่อนำไปสู่แนวทางการป้องกันโรค ตลอดจนการตรวจวินิจฉัย และรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยได้มีชีวิตที่ยืนยาว และสามารถใช้ชีวิตได้ปกติสุขต่อไป


ข่าวสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์+โรงพยาบาลจุฬาภรณ์วันนี้

EA ร่วมกับกลุ่มช่วยกัน มอบเครื่องฟอกอากาศ เครื่องกำจัดเชื้อโรค และหน้ากากความดันบวก ให้โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA และผู้ริเริ่มก่อตั้ง “กลุ่มช่วยกัน” พร้อมด้วยคณะกรรมการและผู้บริหาร ทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้หน้าพระรูป ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พร้อมลงนามถวายพระพร ให้ทรงหายจากพระอาการประชวร และมีพระพลานามัยแข็งแรง เป็นมิ่งขวัญแก่ประชาชนสืบไป และในโอกาสเดียวกันนี้ได้มอบเครื่องฟอกอากาศ เครื่องกำจัดเชื้อโรค และหน้ากากความดันบวก แก่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์