ผลสำรวจของ EIC สะท้อนว่าตลาดที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างช้า ๆ จากการเลื่อนแผนการซื้อที่อยู่อาศัยออกไป และคนส่วนใหญ่มองว่าการฟื้นตัวของตลาดยังต้องอาศัยมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ขณะที่พฤติกรรมในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่สนใจแนวราบที่ระดับราคาเข้าถึงได้ และตลาดบ้านมือสองยังได้รับความสนใจค่อนข้างมาก
ตลาดที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 หลายด้านทั้งความต้องการที่ชะลอตัวและพฤติกรรมในการเลือกที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไป
นอกเหนือจากทำเล รูปแบบของที่อยู่อาศัย และระดับราคาแล้ว ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับการออกแบบโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการอยู่อาศัยในหลายด้าน รวมถึงบริการหลังการขายที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย
- เทคโนโลยี มีส่วนต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อมากขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับระบบความปลอดภัย และการจัดการพลังงาน ที่จะช่วยอำนวยความสะดวก และประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้อยู่อาศัย
- ความปลอดภัยเป็นปัจจัยที่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยทุกวัยให้ความสำคัญสูงสุด โดยระบบเตือนภัยต่าง ๆ เป็นอุปกรณ์ smart home ที่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยอยากให้มีติดตั้งในที่อยู่อาศัยมากที่สุด รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยภายในโครงการที่ต้องได้มาตรฐาน รองลงมาคือ ปัจจัยด้านพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนหรือจัดสรรใหม่ได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยในแต่ละสถานการณ์
- นอกจาก 2 ปัจจัยหลักข้างต้น ปัจจัยที่คนแต่ละช่วงวัยให้ความสำคัญลำดับถัดมา ได้แก่
- แอปพลิเคชันติดต่อนิติบุคคลเป็นบริการหลังการขายที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยสูงที่สุด สะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการติดต่อ และการเข้าถึงเทคโนโลยีที่จะมีส่วนช่วยอำนวยความสะดวกต่อผู้อยู่อาศัยมากขึ้น
EIC มองว่าผู้ประกอบการยังเผชิญความท้าทายในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีต้นทุนที่สูงขึ้น ในขณะที่ตลาดยังมีข้อจำกัดอยู่มากจากกำลังซื้อที่ยังฟื้นตัวได้ช้า ส่งผลให้ต้องระมัดระวังในการเปิดโครงการใหม่ เน้นตอบโจทย์กลุ่มที่มีศักยภาพ ตลอดจนการบริหารความเสี่ยงและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว อาทิ นำเสนอความคุ้มค่า และสร้างความแตกต่าง
ความท้าทาย
การปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัย
อ่านต่อรายงานฉบับเต็มได้ที่…https://www.scbeic.com/th/detail/product/8292
19 โครงการ ทั้งคอนโดพร้อมอยู่และพร้อมอยู่เร็วๆ นี้ จากแสนสิริ กรุงเทพฯ และปริมณฑล การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงต่อเนื่อง นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อตลาดอสังหาฯ และเป็นปัจจัยบวกในตลาดที่อยู่อาศัยและผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน เนื่องจากจะช่วยลดต้นทุนทางการเงิน เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อ และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ ทำให้การเป็นเจ้าของบ้านเป็นไปได้ง่ายขึ้น ยังรวมถึงปัจจัยบวกจาก มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ และ มาตรการ LTV ใหม่ ที่เปิดโอกาสให้สามารถกู้ได้ 100%* พร้อมลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือเพียง 0
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ขานรับดีมานด์นักท่องเที่ยวภูเก็ตพุ่ง รุกเสิร์ฟบริการอสังหาฯครบวงจร ตอบโจทย์การอยู่อาศัยระดับพรีเมียม
—
นางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรร...
DRT วางกลยุทธ์รุกขยายตลาดใหม่รับมือที่อยู่อาศัยชะลอตัว มุ่งเน้นบริหารต้นทุน ชูสินค้าพร้อมบริการครบวงจร นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ตอบโจทย์งานก่อสร้างหลากหลาย
—
"บมจ.ผลิตภั...
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยทิศทางธุรกิจปี 68 รุกตลาด Luxury Segment เดินหน้าธุรกิจใหม่ ให้ตรงใจลูกค้า ตั้งเป้าดันรายได้ทะลุ 2 พันล้าน บ.
—
คุณสุวรรณี มหณรงค์ชั...
เคล็ด (ไม่) ลับวางแผนเลือกซื้อบ้านใหม่เป็นเรือนหออย่างไรให้รักมั่นคง
—
เมื่อความรักสุกงอมแล้วการวางแผนซื้อเรือนหอร่วมกันถือเป็นก้าวสำคัญของชีวิตคู่ เนื่อง...
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ชี้ปี 2568 ตลาดอสังหาฯ แนวราบยังเติบโต เดินหน้าปรับกลยุทธ์สู่ Agile Organization ผ่าน Digital Transformation
—
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ชี้ปี...
แสนสิริตอกย้ำความเชื่อมั่นในภูเก็ต โชว์แคนวาส เชิงทะเล ยอดขายพุ่ง 60% ลุยเปิดตัว "เดอะ เบส เชิงทะเล" คอนโดใหม่จัดเต็มส่วนกลาง เริ่ม 2.89 ล้าน
—
นายองอาจ สุ...