กรมวิชาการเกษตรชู "แมงลักป่า" วัชพืชฆ่าวัชพืช

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรมวิชาการเกษตร ค้นพบสารสำคัญในแมงลักป่าฆ่าวัชพืชได้ เตรียมวิจัยพัฒนาต่อยอดสารสกัดจากแมงลักป่า นำน้ำมันหอมระเหยจากแมงลักป่าไปวิเคราะห์จำแนกชนิดสารออกฤทธิ์ที่สำคัญ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพสารออกฤทธิ์แต่ละชนิด พร้อมดูแนวโน้มนำสารออกฤทธิ์ไปสังเคราะห์ต่อเป็นแนวทางหาสารชนิดใหม่ใช้กำจัดวัชพืชในอนาคต

กรมวิชาการเกษตรชู "แมงลักป่า" วัชพืชฆ่าวัชพืช

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรได้ให้ความสำคัญต่อนโยบายลด ละ เลิก การใช้สารเคมีทางการเกษตรตามนโยบายของนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้เกษตรกรสามารถผลิตผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพ เป็นไปตามมาตรฐาน มีความปลอดภัยต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค ซึ่งมีงานวิจัยสนับสนุนว่ามีพืชหลายชนิดที่มีอัลลีโลพาธี (Allelopathy) คือกระบวนการที่พืชปล่อยสารออกมาแล้วไปมีผลส่งเสริมหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของพืช หรือจุลินทรีย์อีกชนิดหนึ่งที่อยู่ข้างเคียง ซึ่งความรุนแรงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิดและความเข้มข้นของสารที่ปล่อยออกมา ดังนั้นกลุ่มวิจัยวัชพืช สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร จึงได้ศึกษาวิจัยค้นหาพืชที่มีศักยภาพสูงเพื่อนำมาใช้กำจัดวัชพืชและได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการกำจัดวัชพืชของ"แมงลักป่า" ซึ่งเป็นวัชพืชฤดูเดียว สามารถเจริญเติบโตได้ตลอดทั้งปี มีกลิ่นฉุนรุนแรง พบได้ทั่วไปทุกภาคของประเทศไทย สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการกำจัดวัชพืชได้ กรมวิชาการเกษตรชู "แมงลักป่า" วัชพืชฆ่าวัชพืช

สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช ร่วมกับ กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร ได้พัฒนานำส่วนของใบแมงลักป่าในระยะออกดอก มาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย ซึ่งในน้ำมันหอมระเหยจากแมงลักป่ามีกลุ่มสารสำคัญ คือสารกลุ่มเทอร์พีนอยด์ โดยสารที่พบปริมาณมากและเป็นองค์ประกอบหลักในน้ำมันหอมระเหยจากแมงลักป่า ได้แก่ ซาบีนีน เบต้า-ไพนีน 1,8-ซินีโอล ทรานส์ คาริโอฟิลลีน และคาริโอฟิลลีน ออกไซด์ และได้นำน้ำมันหอมระเหยมาวิจัยเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ได้เป็นสูตรสารละลายน้ำมันเข้มข้น ซึ่งได้สูตรที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ 2 สูตร คือ ผลิตภัณฑ์สูตร A 60% EC และ ผลิตภัณฑ์สูตร B 60% EC ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกำจัดวัชพืช ได้แก่ ไมยราบยักษ์ และหญ้าข้าวนก ในห้องปฏิบัติการ และมีประสิทธิภาพในการกำจัดผักโขมหนามได้ถึง 93-96 เปอร์เซ็นต์ ในสภาพเรือนทดลอง ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 สูตร มีลักษณะการเข้าทำลายแบบสัมผัสตาย คือเมื่อละอองสารสัมผัสกับวัชพืชทำให้เกิดอาการฉ่ำน้ำ ใบเหี่ยว และแห้งตาย

จากนั้นได้ดำเนินการทดสอบประสิทธิภาพในการกำจัดวัชพืชและทดสอบความเป็นพิษต่อพืชปลูกในสภาพไร่ ในแปลงปลูกมะเขือเปราะ โดยใช้พ่นระหว่างแถวปลูกมะเขือเปราะ อายุ 1 เดือนหลังย้ายกล้า และวัชพืชมีจำนวนใบ 3-5 ใบ หรือมีความสูงไม่เกิน 10 เซนติเมตร ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 สูตร มีความเป็นพิษต่อมะเขือเปราะเล็กน้อย ทำให้เกิดจุดสีน้ำตาลที่ใบแต่ไม่มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโต และมีประสิทธิภาพในการกำจัดวัชพืชประเภทใบกว้าง ได้แก่ ผักเบี้ยหิน วัชพืชประเภทใบแคบ ได้แก่ หญ้านกสีชมพู และวัชพืชประเภทกก ได้แก่ กกทราย ได้ดี ทำให้วัชพืชมีอาการตาย 90 - 100 เปอร์เซ็นต์

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ถึงแม้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหยจากแมงลักป่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดวัชพืชได้ดี แต่ต้องใช้วัตถุดิบตั้งต้นปริมาณมากในการสกัด อีกทั้งปริมาณสารผลิตภัณฑ์ที่ใช้พ่นต้องมีปริมาณมากที่อาจจะไม่คุ้มทุนในการผลิตและนำไปใช้ของเกษตรกร  แต่อย่างไรก็ตาม กรมวิชาการเกษตรมีแนวทางในการวิจัยเพื่อพัฒนาต่อยอดสารสกัดจากแมงลักป่า โดยนำน้ำมันหอมระเหยจากแมงลักป่าไปวิเคราะห์จำแนกชนิดของสารออกฤทธิ์ที่สำคัญ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์แต่ละชนิด และดูแนวโน้มการนำสารออกฤทธิ์ดังกล่าวไปสังเคราะห์ต่อ เพื่อเป็นแนวทางในการหาสารชนิดใหม่ในการนำไปใช้กำจัดวัชพืชในอนาคตต่อไป อีกทั้งนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เน้นย้ำและให้ความสำคัญกับผลงานวิจัยการเกษตร ต้องสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง และเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร และผู้ประกอบการภาคการเกษตรและอาหาร กรมวิชาการเกษตรจึงเตรียมจัดการประชุมผลงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตรโดยมีนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เป็นประธานเปิดประชุมผลงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตรที่จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ในระหว่างวันที่ 18-20 ก.ค. 2565 เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ดำเนินการเสร็จสิ้นและพร้อมที่จะนำไปใช้ประโยชน์สู่สาธารณชน รวมทั้งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการดำเนินงานวิจัยของนักวิจัย และเป็นเวทีรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอีกด้วย


ข่าวการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์+ระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์วันนี้

ไทย - จีน จับมือสร้างความสัมพันธ์ พร้อมเปิดตลาดสินค้าด้านการเกษตร

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ นายหานจื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย (H.E. Mr. Han Zhiqiang) โดยมี ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมกรมวิชาการเกษตร นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร นายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ผู้

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชากา... อธิบดีกรมวิชาการเกษตรลงพื้นที่ เร่งช่วยเหลือชาวสวนทุเรียนภาคตะวันออกที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย — นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า...