บล.ทิสโก้ชี้ไตรมาส 3 จังหวะเหมาะทยอยเก็บหุ้น คาดตลาดหุ้นไทยฟื้นไตรมาส 4 รับปัจจัยลบผ่อนคลาย พร้อมประเมินดอกเบี้ยขาขึ้นทุกๆ 0.25% เบ็ดเสร็จจะช่วยหนุนภาพรวมกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยเพิ่ม 3,000 ล้านบาท และสถิติ 6 เดือนหลังเข้าสู่วัฎจักรขึ้นดอกเบี้ย ดัชนีจะปรับขึ้นเฉลี่ย 23.9% จากเงินต่างชาติไหลเข้าอานิสงส์เงินบาทมีสเถียรภาพ
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 3/2565 จะยังคงได้รับปัจจัยลบต่อเนื่องมาจากไตรมาสที่ 2/2565 ได้แก่ 1. เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นต่อ โดยคาดว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือนกันยายนจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องแตะระดับสูงสุดที่ +9.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) แล้วค่อย ๆ ปรับตัวเข้าสู่ขาลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2565 เป็นต้นไป 2. การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางสำคัญของโลกหลายแห่ง โดย บล.ทิสโก้คาดว่า การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ จะขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกที่ 0.75% ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่งปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ขณะที่ธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB) คาดว่า จะเริ่มต้นวงจรการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกรกฎาคมนี้
และ 3. กระแสเงินทุนต่างชาติผันผวน โดยต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยเดือนมิถุนายนเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ด้วยแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในระยะข้างหน้า และการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยที่แย่ลง น่าจะกดดันเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าอยู่ ซึ่งปกติจะเป็นปัจจัยลบต่อกระแสเงินทุนต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม แม้ในช่วงไตรมาส 3/2565 บล.ทิสโก้มองว่า มีหลายปัจจัยลบที่ยังกดดันตลาดอยู่ แต่ในช่วงไตรมาส 4/2565 ความกังวลต่าง ๆ ที่เคยกดดันน่าจะทยอยผ่อนคลาย โดยหากเงินเฟ้อสหรัฐฯ ขึ้นแตะระดับสูงสุดในเดือนกันยายน และเริ่มปรับลงตามที่ บล.ทิสโก้คาดไว้ คาดจะช่วยให้การเร่งขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ กลับมาชะลอตัวเพื่อประเมินสภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้น ผสานกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นแตะระดับเดือนละ 1 ล้านคนขึ้นไปในช่วงไตรมาส 4/2565 เป็นต้นไป คาดว่าจะช่วยลดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเสถียรภาพค่าเงินบาทในทิศทางที่แข็งค่าขึ้น และน่าจะเป็นบวกกับกระแสเงินทุนต่างประเทศ
นอกจากนี้ เม็ดเงินลงทุนจากกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) มักไหลเข้ามากสุดในช่วงไตรมาส 4/2565 ของทุกปี โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคมน่าจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดด้วย
สำหรับวัฎจักรดอกเบี้ยในประเทศที่กำลังจะเข้าสู่ขาขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง บล.ทิสโก้มองไม่ใช่สิ่งเลวร้าย จากการวิเคราะห์ความอ่อนไหวของหุ้นที่อยู่ภายใต้การวิเคราะห์ทั้ง 136 ตัว (คิดเป็น 75% ของมูลค่าตลาดโดยรวม) ต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายทุก ๆ 0.25% จะมีผลให้กำไรสุทธิโดยรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 3,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.25% โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากวัฎจักรดอกเบี้ยในประเทศเข้าสู่ขาขึ้น คือ กลุ่ม BANK ซึ่งจากการประเมินของบล.ทิสโก้จะทำให้กำไรทั้งปีของแบงก์ขนาดใหญ่ (BBL, KBANK, KTB) ปรับขึ้นราว +3% ถึง +5% ส่วนแบงก์ที่มีสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยสูง (SCB, TTB) อาจมีกำไรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ประมาณ +1% ถึง +2% ขณะที่หุ้นกลุ่ม FIN และหุ้นที่มีภาระหนี้สูง (High Leveraged Companies) จะเป็นผู้เสียประโยชน์
หากย้อนรอยการขึ้นดอกเบี้ยของไทย 2 รอบล่าสุดเมื่อปี 2547 และปี 2553 พบว่า ก่อนการขึ้นดอกเบี้ยแม้ตลาดหุ้นไทยจะมีความผันผวน ซึ่งน่าจะมาจากความกังวลผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยและกดดันระดับการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมใหม่ แต่หลังจากที่เริ่มเข้าสู่วัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้นแล้ว 1 เดือน, 3 เดือน และ 6 เดือน ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนเป็นบวกทุกช่วงเวลา โดยเฉลี่ยอยู่ที่ +6.5%, +13.9% และ +23.9% ตามลำดับ ซึ่งทั้ง 2 รอบการขึ้นดอกเบี้ยของไทยดังกล่าว ทำให้เงินบาทมีเสถียรภาพในทิศทางที่แข็งค่าขึ้น และดึงเงินทุนต่างประเทศไหลเข้า
โดยสรุป บล.ทิสโก้มองดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ครึ่งปีหลังจะแกว่งตัวในกรอบ 1,500 - 1,680 จุด โดยช่วงไตรมาส 3/2565 ตลาดหุ้นไทยยังเผชิญแรงกดดันหลายอย่าง แต่ บล.ทิสโก้มองเป็นจังหวะในการทยอยสะสมรอบสุดท้ายของปีนี้ เนื่องจากปลายไตรมาส 3/2565 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 4/2565 ความกังวลต่าง ๆ ที่เคยกดดันตลาดคาดว่าจะทยอยผ่อนคลาย ช่วยผลักดันตลาดฟื้นตัวขึ้นได้ (Relief Rally) หุ้นเด่นครึ่งปีหลังสำหรับ Big Cap บล.ทิสโก้แนะนำ BBL, BDMS, BEM, IVL, MAKRO และ MINT / Mid to Small Cap แนะนำ AEONTS, AP, CENTEL, CK, SAPPE และ SMPC
หมายเหตุ : เพื่อเข้าถึงเอกสารที่แนบมานี้ โปรดลงทะเบียนอีเมลของท่าน ที่ https://www.office.com ทั้งนี้ สำหรับเอกสารประเภท Word, Excel, Power point สามารถเปิดใช้งานได้บน Microsoft Office 2013 เป็นต้นไป และเอกสารประเภท pdf, ไฟล์รูปภาพ, Text File สามารถเปิดใช้งานได้บน Microsoft Azure Information Protection Viewer (ดาวน์โหลดได้ฟรี)
บล.ทิสโก้คาดระยะสั้นหุ้นไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวแตะ 1,200 จุด รับเงินกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) และความคาดหวังการเจรจาการค้าเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่มองเป็นจังหวะขายมากกว่าซื้อ หรือหมุนรอบเทรดดิ้งสั้นไวขึ้น นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บล.ทิสโก้มองว่าปัจจุบันดัชนีหุ้นไทย (SET Index) อยู่ในช่วงของการฟื้นตัวจากความหวังการเจรจาการค้าและเงินกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) ไหล
บล.ทิสโก้ชี้ หุ้นไทยปี 68 เจอแรงกดดันเพียบ ! แนะเลือกลงทุน "เน้นปลอดภัย - ทนต่อปัจจัยกดดัน"
—
บล.ทิสโก้เปิดข้อมูลหุ้นไทยปี 2567 ให้ผลตอบแทนติดลบสองปีซ้อนค...
บล.ทิสโก้คาด ดัชนีหุ้นไทยเดือน ธ.ค. เด้งรับเงิน TESG ไหลเข้า เตือนปี 68 น่าห่วง เหตุทรัมป์ลุยนโยบายเข้ม - แรงขาย LTF
—
บล.ทิสโก้คาดดัชนีหุ้นไทยเดือนธันวาค...
บล.ทิสโก้คาดเงิน 'วายุภักษ์' หนุนหุ้น ต.ค. ขึ้น ชี้เป็นจังหวะขายทำกำไร
—
บล.ทิสโก้คาดเงินกองทุนวายุภักษ์หนุนหุ้นไทยเดือนตุลาคมปรับขึ้นช่วงครึ่งเดือนแรก ชี...
บล.ทิสโก้คาด สิ้นปี 67 SET แตะ 1,550 จุด แนะซื้อหุ้นได้ประโยชน์ E-Receipt - ท่องเที่ยวฟื้น และหุ้นปันผล
—
บล.ทิสโก้คาดดัชนีหุ้นไทยปี 2567 ดีกว่าปีก่อน มอง...
บล.ทิสโก้คาด หุ้นไทยมีสิทธิ์กระเตื้อง รับเม็ดเงิน TESG 1 หมื่นล้าน - ฝรั่งหยุดขาย
—
บล.ทิสโก้ชี้ระยะสั้นหุ้นไทยมีสิทธิ์กระเตื้องขึ้น เพราะเงินดอลลาร์อาจอ่...
บล.ทิสโก้ชี้ ! หุ้นไทยอ่อนแอซ้ำซ้อน ขาดปัจจัยหนุน คาดดัชนีผันผวนในขาลงต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี
—
บล.ทิสโก้ชี้ หุ้นไทยอาจผันผวนในขาลงจนถึงสิ้นปี เพราะขาดปัจจัย...
บล.ทิสโก้แนะทยอยสะสมหุ้นไทย - ขายทำกำไรต้นปี 67 หวังเม็ดเงินงบรัฐฯ อัดฉีดเงินดิจิทัลเข้าเศรษฐกิจ
—
บล.ทิสโก้ชี้ไตรมาสที่เหลือของปี 2566 เป็นจังหวะทยอยสะสม...
บล.ทิสโก้แนะ ทยอยขายหุ้นไทย ล็อกกำไรช่วงราคาปรับขึ้น
—
บล.ทิสโก้ แนะนักลงทุนทยอยขายหุ้นล็อกกำไรช่วงราคาปรับขึ้นแรง ชี้นักวิเคราะห์มีแนวโน้มหั่นกำไรบริษัทจ...
บล.ทิสโก้ชี้ ! การเมืองไทยใกล้ "จุดไคลแม็กซ์" หนุนหุ้นไทยเข้าใกล้ 1,600 จุด
—
บล.ทิสโก้คาดความไม่แน่นของการเมืองไทยน่าจะจบในเดือนสิงหาคมนี้ และอานิสงส์การ...