"เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้" ชู 5 กลยุทธ์ พลิกฟื้นบริษัทแบบยั่งยืน หลังล้างขาดทุนหมด ตั้งเป้าปี 65 ยอดขายโตกว่า 100% หรือประมาณ 300 ล้านบาท

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

"บมจ.เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้" ตอกย้ำความเป็นบริษัทพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่เน้นคุณภาพ ชู 5 กลยุทธ์พลิกฟื้นบริษัทแบบยั่งยืน ทั้งด้าน Product, ด้าน Process, ด้านต้นทุน, ด้านการตลาด และกลยุทธ์ด้านธุรกิจใหม่ ประกาศก้าวข้ามปัญหา สู่บริษัทอสังหาฯ ที่มีความโปร่งใส หลังล้างขาดทุนหมด พร้อมเติบโตแบบก้าวกระโดด ตั้งเป้าปี 65 โตกว่า 100% หรือประมาณ 300 ล้านบาท พร้อมเตรียมที่ดินมาพัฒนาโครงการในรูปแบบใหม่ ๆ เตรียมเจรจา "แลนด์ลอร์ด" ร่วมทุนผุดโครงการบ้านพรีเมียม ลั่นฐานะการเงินแกร่ง เป้า 3 ปียอดขาย 2 พันล้านบาท

"เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้" ชู 5 กลยุทธ์ พลิกฟื้นบริษัทแบบยั่งยืน หลังล้างขาดทุนหมด ตั้งเป้าปี 65 ยอดขายโตกว่า 100% หรือประมาณ 300 ล้านบาท

นายสันติ ปิยะทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ "KC" ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แนวราบด้วยคุณภาพอย่างมั่นคงที่ก้าวสู่ปีที่ 40 เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ กลับเข้ามาซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง ตั้งแต่ 19 พฤษภาคม นี้ ในหมวดกลุ่มอสังหาฯและก่อสร้าง และได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี จากนี้ไป บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ เพื่อแก้ไขและปรับปรุงจุดที่ยังไม่สมบูรณ์ให้ดียิ่งขึ้น โดยแบ่งกลยุทธ์ออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่

กลยุทธ์ด้าน Product ในปีนี้เรามีการเพิ่ม Product line ใหม่ ในส่วนที่เป็นเชิงพาณิชย์ ได้แก่ อาคารพาณิชย์ โครงการ เค.ซี.สุวินทวงศ์ 2 เพื่อเติมเต็มหมวดหมู่ของสินค้าเราให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และกลยุทธ์ด้าน Process จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ใน 2 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นถึงปัญหาของความล่าช้าที่เกิดขึ้นในกระบวนการทำงานจากผลกระทบดังกล่าว และได้นำมาปรับปรุงเป็นกระบวนการ FAST process เพื่อทำให้การทำงานของเรารวดเร็ว และถูกต้องมากยิ่งขึ้น

พร้อมทั้ง กลยุทธ์ด้านต้นทุน เราเล็งเห็นถึงปัญหาต้นทุนที่จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้รวมถึงในอนาคต โดยเฉพาะต้นทุนค่าก่อสร้างที่เป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจอสังหาฯ เราจึงเน้นในเรื่องของการควบคุมต้นทุนเชิงรุก ได้แก่การทำ VAVE การปรับปรุง Design เพื่อให้งานก่อสร้างรวดเร็วขึ้น และต้นทุนลดลง รวมถึงการพยายามใช้วัสดุร่วมกัน เพื่อให้เกิด Economy of scale ให้ได้มากที่สุด โดยยังรักษาคุณภาพของงานก่อสร้างที่มีมาตรฐานเป็นสำคัญ

นอกจากนี้ เรายังมี กลยุทธ์ด้านการตลาด ซึ่งในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์มือถือในการค้นหาข้อมูลเป็นหลัก ดังนั้นในปีนี้ และในอนาคต เรามีการเพิ่มสัดส่วนการทำการตลาด Online มากขึ้น เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น และตรงกลุ่มมากขึ้น และสุดท้ายกลยุทธ์ด้านธุรกิจใหม่ จากการที่เราเป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ ที่อยู่ในวงการมากกว่า 40 ปี จึงทำให้เห็นถึงปัญหาของลูกค้าในมุมของความต้องการด้านงานบริการ จึงเป็นที่มาของการพัฒนาธุรกิจที่จะให้บริการด้านงานซ่อมแซม ตกแต่ง ต่อเติม ฯลฯ

นายสันติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับเป้าหมายทางธุรกิจในปี 2565 บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 300 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 2-3 เท่า โดยขณะนี้ เค.ซี. มียอดขายรอรับรู้รายได้ใน 5 โครงการเดิม มูลค่า 106 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายคาดว่าจะเติบโตขึ้น 2-3 เท่า แต่เราจำเป็นต้องบริหารความสามารถในการโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้า เนื่องจากสถาบันการเงินยังคงมีความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อ เนื่องจากลูกค้าที่ซื้อโครงการของ เค.ซี. เป็นอาชีพอิสระ ทำให้ธนาคารไม่ปล่อยกู้ เราหาเครื่องมือทางการเงิน เริ่มจากให้ฝ่ายขายไปคุยกับลูกค้าก่อนล่วงหน้า 6 เดือน และตรวจประวัติลูกค้าอีก เพื่อป้องกันในการก่อหนี้เพิ่มขึ้น เป็นต้น

สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจของ เค.ซี. จากนี้ได้วางเป้าออกเป็นแนวทางแรก การบริหารที่ดินสะสม (แลนด์แบงก์) ที่มีอยู่ในโครงการเดิมประมาณ 4-5 โครงการ สามารถรองรับการพัฒนาโครงการได้ต่อเนื่องถึง 3 ปีจนปิดโครงการได้ ซึ่งที่ดินแต่ละแปลงในแต่ละโครงการเป็นที่ดินต้นทุนเดิมที่สามารถสร้างโครงการในราคาที่ไม่สูง สามารถตอบสนองต่อความต้องการซื้อของลูกค้าได้ในราคาที่เข้าถึงได้

แนวทางที่สอง เป็นการสร้างโอกาสการเติบโตให้ เค.ซี. กับการศึกษาโมเดลที่จะร่วมกับเจ้าของที่ดินในการร่วมกันพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในระดับพรีเมียม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาอยู่ 3-4 แปลงในการทำโครงการบ้านพรีเมียมในเมือง ราคาขายมีตั้งแต่ 20-50 ล้านบาท แต่ละโครงการจะมีมูลค่าเกินกว่า 1,000 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท คาดว่าปลายปี 65 จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน 1 โครงการ มูลค่าในการพัฒนาโครงการไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท หรืออีกรูปแบบอาจจะเป็นการออกหุ้นเพิ่มทุน แปลงที่ดินมาเป็นค่าหุ้น โดยเจ้าของที่ดินเข้ามาถือหุ้น ซึ่งส่วนนี้ผู้ถือหุ้นเดิมยังคงสัดส่วนเท่าเดิม เป็นต้น

ด้าน ดร.พรภัทร์ รอดโพธิ์ทอง บุญถนอม รองกรรมการผู้จัดการ สายงานสนับสนุนการปฏิบัติการ บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการขยายตลาดของ เค.ซี. ว่า ตลาดอสังหาฯ ในต่างจังหวัดยังมีความน่าสนใจ เพราะผู้คนในต่างจังหวัดก็มีความต้องการที่อยู่อาศัยในรูปแบบของโครงการจัดสรรมากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี หรือมีโครงการขนาดใหญ่ที่รัฐเข้ามาลงทุน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวังคือ นโยบายของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้กับกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัด ที่จะมีเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดไม่แพ้ในกรุงเทพฯและปริมณฑล แต่กำลังซื้อของลูกค้าส่วนใหญ่จะต่ำกว่า ดังนั้นการวางแผนโครงการ หรือการเลือก Product จึงต้องวิเคราะห์อย่างรอบคอบ

สำหรับตลาดอสังหาฯ ในปี 2565 เรามีการพูดถึงกันไปพอสมควรแล้ว ทั้งในแง่บวก เช่น การฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ส่วนปัจจัยลบ หลัก ๆ ก็คือสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อกว่าที่คาดการณ์กันไว้ ส่งผลให้ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น และต้นทุนอื่น ๆ ปรับตัวสูงขึ้นตาม รวมไปถึงการขาดแคลนวัตถุดิบในบางตัว ส่งผลให้ราคาอสังหาฯ ต้องปรับตัวสูงขึ้นตาม ขณะที่กำลังซื้อก็ยังไม่ฟื้นตัวดี เป็นโจทย์ที่ผู้พัฒนาอสังหาฯ ทุกเจ้าต้องแก้กันต่อไป สำหรับเรื่องภาษีที่ดิน ที่กลับมาคิดเต็มจำนวนเหมือนเดิม หรือภาษีลาภลอย ที่หากมีการนำมาใช้จริงก็คงจะเป็นการทำให้ต้นทุนที่ดินสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาขายที่ต้องปรับตัวตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามเราพยายามบริหารต้นทุนในส่วนอื่น ๆ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักในการดำเนินงานของ เค.ซี.ฯ อยู่แล้ว


ข่าวอสังหาริมทรัพย์+พร็อพเพอร์ตี้วันนี้

ORI โอนบิ๊กล็อต โครงการ "Origin Plug & Play E22 Station" ให้กับ DELTA กว่า 278 ยูนิต ตุนรายได้เข้ากระเป๋า Q2/2568

ตอกย้ำผู้นำตลาดคอนโดฯ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ พร้อมโอนบิ๊กล็อตห้องชุดคอนโดฯ ใหม่โครงการ Origin Plug & Play E22 Station ให้กับ DELTA จำนวน 278 ยูนิต พร้อมบุ๊ครายได้ในไตรมาส 2/2568 ทันที! ชี้ 4 ปัจจัยหนุนการตัดสินใจซื้อ ติด BTS ใกล้โรงงาน วิวสวย รูปแบบห้องเพดานสูง ตอบโจทย์การอยู่อาศัย นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้ขายห้องชุดบิ๊กล็อตจำนวน 278 ยูนิต ในโครงการ

นายสุรศักดิ์ บุณยะชัย ประธานเจ้าหน้าที่บร... บล.เคพีเอ็ม เผย "ภัทรเฮ้าส์" พร้อมไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด ตอกย้ำวินัยการเงิน — นายสุรศักดิ์ บุณยะชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคพีเอ็ม จ...