วิจัยกรุงศรีคาดว่ากนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากส่งสัญญาณการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายมากมีความจำเป็นลดลง การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) (วันที่ 8 มิถุนายน) มีมติ 4 ต่อ 3 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% โดย 3 เสียงเห็นควรให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 0.75% ทั้งนี้ นับเป็นการเปลี่ยนท่าทีอย่างฉับพลันจากการประชุมครั้งก่อนอย่างชัดเจน
วิจัยกรุงศรีประเมินมติที่ไม่เป็นเอกฉันท์ดังกล่าว ชี้มีโอกาสสูงขึ้นที่กนง.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในปีนี้ ซึ่งเร็วขึ้นจากเดิมที่เคยคาดไว้ เนื่องจาก (i) กนง.ประเมินเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปีนี้เติบโต 3.3% จากเดิมคาด 3.2% จากอุปสงค์ในประเทศและแรงส่งจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นขณะที่วิกฤตรัสเซีย-ยูเครนส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยจำกัด (ii) ความกังวลอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและนานกว่าคาด โดยกนง. ประเมินอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงเกินกรอบเป้าหมายตลอดทั้งปีนี้ตามราคาพลังงานโลกและการส่งผ่านต้นทุนภายในประเทศที่สูงขึ้นและกระจายตัวในหมวดสินค้าหลากหลายขึ้น ล่าสุดกนง.ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้เพิ่มขึ้นสูงเป็น 6.2% จากเดิมคาด 4.9% และ (iii) กนง.ระบุว่าการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากในระดับปัจจุบันจะมีความจำเป็นลดลงในระยะข้างหน้า ชี้ถึงความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยที่อาจช้าเกินไปเมื่อเทียบกับแนวโน้มของเงินเฟ้อ ทั้งนี้ วิจัยกรุงศรีคาดกนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ และประเมินว่าจะเป็นการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปไม่รีบเร่งเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยแม้จะมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่มูลค่าของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในปีนี้จะยังคงต่ำกว่าระดับก่อนเกิดการระบาด
โควิด-19
อัตราเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมสูงกว่า 7% และยังมีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะข้างหน้า ขณะที่ความเชื่อมั่นทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการร่วงลงต่อเนื่อง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤษภาคมสูงสุดในรอบกว่า 13 ปีที่ 7.1% YoY เร่งขึ้นจาก 4.65% สาเหตุหลักจากราคาในกลุ่มพลังงานที่ปรับขึ้น อาทิ ราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง (+35.9%) ราคาก๊าซหุงต้มที่มีการทยอยปรับขึ้นหลังสิ้นสุดการตรึงราคา รวมถึงการปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) งวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม รวมถึงราคาสินค้าในหมวดอาหารที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเนื้อสุกร ไก่สด ไข่ไก่ ผักสด และเครื่องประกอบอาหาร ตามการสูงขึ้นของต้นทุนการผลิต ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (หักราคาหมวดอาหารสดและพลังงาน) อยู่ที่ 2.28% เพิ่มขึ้นจาก 2.0% เดือนเมษายน สำหรับในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยอยู่ที่ 5.19% และ 1.72% ตามลำดับ
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงกว่า 7% ต่อเนื่องในเดือนถัดๆ ไป ซึ่งนอกจากผลของฐานที่ต่ำในปีก่อนแล้ว ราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานยังคงปรับสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลที่มีการทยอยปรับขึ้นหลังจากสิ้นสุดการตรึงไว้ที่ 30 บาท/ลิตร จนใกล้แตะกรอบเพดานใหม่ที่ 35 บาท/ลิตรส่งผลต่อต้นทุนการผลิตและการขนส่ง รวมถึงยังมีแนวโน้มปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรในรอบต่อไปอีก (เดือนกันยายน-ธันวาคม) ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิตและวัตถุดิบ ขณะที่ผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ส่งผลให้ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกยังอยู่ในระดับสูง วิจัยกรุงศรีคาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้มีแนวโน้มเฉลี่ยสูงขึ้นราว 6% จากเดิมคาด 4.8% นอกจากนี้ ผลจากภาระค่าครองชีพและภาวะต้นทุนที่ปรับสูงขึ้นฉุดให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคมลดลงต่อเนื่องสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน และ 7 เดือนที่ 40.2 และ 84.3 ตามลำดับ
ข้อมูลเพิ่มเติม
วิจัยกรุงศรี: https://www.krungsri.com/th/research/home
อีเมล: [email protected]
สกพอ. จับมือ Osaka City ลงนาม MOU หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ขับเคลื่อนดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว สู่พื้นที่อีอีซี
"สกพอ. จับมือ กนอ. เยือนนครโอซากา เดินหน้าดึงเอกชนชั้นนำญี่ปุ่น ร่วมลงทุนอุตสาหกรรม BCG การแพทย์ และการพัฒนาเมืองใหม่พื้นที่อีอีซี
สกพอ. ลงนาม MOU ร่วมมือ ป.ป.ท. และ กรมที่ดิน เพิ่มประสิทธิภาพบริการภาครัฐ ป้องกันทุจริต ตอบโจทย์อำนวยความสะดวกนักลงทุน
ดร.คงกระพัน คว้า 2 รางวัล สุดยอดซีอีโอรัฐวิสาหกิจ ในงาน CEO Econmass Awards 2025 ตอกย้ำ ปตท. มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
"สาระ ล่ำซำ" คว้า 2 รางวัลเกียรติยศ "สุดยอดผู้นำองค์กร" ประจำปี 2568 จากงานประกาศรางวัล CEO ECONMASS Awards 2025
ผู้บริหาร SABINA คว้ารางวัลสุดยอดซีอีโอ ประจำปี 2568 จากสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ
ไอแบงก์ ร่วมแสดงความยินดี สคร. ครบรอบ ๒๓ ปี
สกพอ. ร่วมมือ เขตสุขภาพที่ 6 ก.สาธารณสุข และ SCGP ยกระดับระบบบริการสุขภาพประชาชน ในพื้นที่อีอีซี