กสิกร เอกซ์ (KASIKORN X) เปิดตัว Bigfin เครื่องมือวิเคราะห์และดูแลพอร์ตการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้นักลงทุนทั่วโลกสามารถบริหารพอร์ตการลงทุนของตัวเองได้อย่างง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมตั้งเป้าหมายจะมีผู้ใช้งาน Bigfin มากกว่า 200,000 ราย ภายในปี 2566
นายธนะเมศฐ์ อาริยวัฒน์ Venture Director บริษัท กสิกร เอกซ์ จำกัด (KX) บริษัทในเครือธนาคารกสิกรไทยและ KBTG ที่ดำเนินธุรกิจด้านนวัตกรรมในโลก Decentralized Finance (DeFi) และสินทรัพย์ดิจิทัล เปิดเผยว่า ณ ปัจจุบัน ตลาดคริปโทกำลังมีความผันผวนสูงมาก โดยราคาบิทคอยน์ได้ปรับตัวลงกว่า 70% ในระดับต่ำกว่า 20,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ต่อ 1 BTC เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2565 จากระดับราคาสูงสุดที่ 67,500 เหรียญดอลลาร์ต่อ 1 BTC เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ดิจิทัลจะต้องมีการติดตามข้อมูลการลงทุนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทราบถึงมูลค่าการลงทุน และบริหารความเสี่ยงในการลงทุน ทั้งนี้เครื่องมือที่มีในตลาดยังไม่สามารถให้ข้อมูลสำคัญและมีความหมายแก่นักลงทุนได้ เช่น การแสดงต้นทุนการลงทุนของตนเอง การแจ้งเตือนเมื่อมูลค่าสินทรัพย์ในพอร์ตมีการเปลี่ยนแปลง การดูข้อมูลกำไร-ขาดทุนของพอร์ตรวม และดูแยกเป็นรายสินทรัพย์ เป็นต้น
KX จึงได้พัฒนา Bigfin เครื่องมือวิเคราะห์และดูแลพอร์ตการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมแจ้งเตือนเมื่อมูลค่าพอร์ตมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ใช้งานได้ง่าย เพียงเข้าแพลตฟอร์ม Bigfin ที่เว็บไซต์ https://bigfin.finance และกรอก Wallet Address ของตน ก็จะเห็นการวิเคราะห์การลงทุนทันที โดยจุดเด่นของ Bigfin ได้แก่
- Running Balance ดูมูลค่าพอร์ตปัจจุบัน ผลกำไร-ขาดทุนของพอร์ตรวมและดูแยกเป็นรายสินทรัพย์
- Transaction History ดูรายการธุรกรรมการเข้าออกของสินทรัพย์ใน Wallet และค่าแก๊ส โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ ชัดเจน เข้าใจง่าย
- Editing Cost Basis บันทึกต้นทุนการซื้อขายด้วยตนเองได้ เพื่อวิเคราะห์ผลกำไร-ขาดทุนได้แม่นยำขึ้น
ปัจจุบัน แพลตฟอร์ม Bigfin คัดเลือกคริปโทเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ดิจิทัลที่มี Market Capitalization สูงที่สุด 1,000 อันดับแรกบน Ethereum Chain มาแสดง และจะมีการเพิ่มเติมสินทรัพย์จาก Ethereum Chain รวมถึงการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Blockchain อื่นๆ และ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ Centralized อีกทั้งจะมีการพัฒนาฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์อย่างต่อเนื่อง อาทิ ระบบแจ้งเตือนเมื่อมูลค่าพอร์ตเปลี่ยนแปลงไปยังระดับที่กำหนดไว้ การนำเสนอองค์ความรู้ใหม่ๆ ในการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมบนบล็อกเชน เป็นต้น
นายธนะเมศฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า KX เชื่อมั่นว่า Bigfin จะเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์พอร์ตลงทุนคริปโทเคอร์เรนซีที่ตอบสนองการใช้งานของนักลงทุนได้อย่างตรงจุด ทั้งเรื่องความสะดวกด้วยฟีเจอร์ที่ตรงใจ และการเป็นตัวช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้ เพื่อให้นักลงทุนใช้ประกอบการตัดสินใจอย่างรอบด้าน และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีผู้ใช้งาน Bigfin มากกว่า 200,000 ราย ภายในปี 2566 ผู้ที่สนใจสามารถติดตามแผนการพัฒนาและความเคลื่อนไหวของทีมงานได้ที่ https://bigfin-finance.gitbook.io/
KX ยกระดับ Bigfin เชื่อมต่อกับ Binance กระดานเทรดอันดับหนึ่ง พร้อมรองรับนักลงทุนคริปโททั่วโลก ติดตามพอร์ตได้ง่าย
Coral ชวนล่างานศิลปะฝาท่อตลอดเส้นเยาวราช พร้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์เมือง ผ่านการเที่ยวรูปแบบใหม่ด้วยพาสปอร์ตของสะสมดิจิทัล
KXVC เปิดตัว KX Horizon โปรแกรมส่งเสริมสตาร์ทอัพ AI และ Web3 ระยะเริ่มต้น เพื่อร่วมมือและสนับสนุนแหล่งเงินลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการเทคโนโลยีรุ่นใหม่
Coral ร่วมกับ ไปรษณีย์ไทย จัดแสดงคอลเลกชันภาพแสตมป์ดิจิทัล ชุด 12 นักษัตร ผลงานภาพศิลปะฝีพระหัตถ์ กรมสมเด็จพระเทพฯ ในวาระครบรอบ 140 ปี ไปรษณีย์ไทย ณ ไปรษณีย์กลาง บางรัก
Coral เปิดตัวแอปฯ Coral Collect จับมือกับ GMM Music ส่ง 'NFT Superfan Box Now & Forever Thongchai' และ ของสะสมดิจิทัล MULTIBIRD NFT คอลเลคชัน NFT สุดพิเศษจากคอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์
KBTG ตั้งเป้าภายใน 3 ปี ขึ้นแท่นองค์กรเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
KX ตอกย้ำความสำเร็จยอดขาย NFT ของ Coral พร้อมลุยต่อกับงาน TDAF 2022: THE MASTERPIECES OF NFT COLLECTION
KX ร่วมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมด้วยศิลปินกลุ่ม Thailand Digital Arts Festival (TDAF) เปิดตัวสัญลักษณ์ "(C) Informed to DIP" บนแพลตฟอร์ม Coral