ฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิต JWD InfoLogistics เป็น BB+(tha) แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) ของบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD เป็น BB+(tha) จาก BBB-(tha) และปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-term Rating) ของบริษัทฯ เป็น B จาก F3(tha) ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) ของโครงการหุ้นกู้สกุลเงินบาท ที่ได้รับการค้ำประกันโดย Credit Guarantee and Investment Facility (CGIF) ที่ AAA(tha)

แนวโน้มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว มีสเถียรภาพ

การปรับลดอันดับเครดิต สะท้อนถึงอัตราส่วนหนี้สินของ JWD ที่อยู่ในระดับที่สูง โดยวัดจากหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า (Adjusted net debt to EBITDAR) ซึ่งฟิทช์คาดว่าน่าจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่า 5.5 เท่า อย่างน้อยภายในช่วง 18-24 เดือนข้างหน้า อัตราส่วนหนี้สินที่สูงเป็นผลจากแผนการค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนและการลงทุนที่อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ ทั้งนี้ สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อผลประกอบการของ JWD ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ฟิทช์คาดว่ากระแสเงินสดสุทธิ ซึ่งหมายถึงกระแสเงินสดจากการดำเนินงานหลังจากหักค่าใช้จ่ายลงทุนและเงินปันผล (Free cash flow, FCF) น่าจะยังคงติดลบอย่างต่อเนื่องต่อไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้าเนื่องจากค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนและการลงทุนต่างๆ

ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต
การลดลงของอัตราส่วนหนี้สินล่าช้าจากกระแสเงินสดสุทธิที่ติดลบ: ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สิน Adjusted net debt to EBITDAR ของ JWD จะยังคงอยู่ในระดับสูงประมาณ 6 เท่า ในปี 2565 (ไตรมาสแรกปี 2565 อยู่ที่ 6.6 เท่า) ก่อนที่จะลดลงมาอยู่ระดับประมาณ 5.6 เท่าในปี 2566 การลดลงของอัตราส่วนหนี้สิน ล่าช้ากว่าที่ประมาณการไว้เดิม เนื่องจากบริษัทฯ มีการปรับแผนเพิ่มค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนและการลงทุนสำหรับปี 2565-2566 ซึ่งน่าจะส่งผลให้กระแสเงินสดสุทธิของ JWD น่าจะยังคงติดลบต่อไปอีกอย่างน้อยในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า หลังจากที่ติดลบมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

กระแสเงินสดสุทธิที่ติดลบของ JWD เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนและการลงทุนที่สูง ในขณะที่ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ได้รับเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้ากว่า ทำให้อัตราส่วนหนี้สินของ JWD เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

ค่าใช้จ่ายลงทุนเพื่อขยายพื้นที่คลัง: JWD มีแผนค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนประมาณ 1 พันล้านบาท - 1.2 พันล้านบาทต่อปีในปี 2565-2566 ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายลงทุนเพื่อการขยายพื้นที่สำหรับคลังสินค้าห้องเย็น คลังสินค้าทั่วไป และการเพิ่มสาขาสำหรับธุรกิจให้บริการเก็บของใช้ส่วนตัว (Self Storage) เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน ในปี 2565 บริษัทฯ มีแผนการลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท สำหรับลงทุนในกิจการร่วมค้ากับหนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศไทย เพื่อลงทุนพัฒนาคลังสินค้าห้องเย็นและคลังสินค้าทั่วไปแบบ Built-to-Suit รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน ESCO ซึ่งเป็นบริษัทจัดการท่าเทียบเรือตู้สินค้าที่แหลมฉบัง เพื่อได้รับเงินปันผลและเพิ่มโอกาสในธุรกิจโลจิสติกส์

กระแสเงินสดจากการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้น: ฟิทช์คาดว่า EBITDA ของ JWD จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องประมาณร้อยละ 16 ในปี 2565 และร้อยละ 20 ในปี 2566 ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายพื้นที่คลังสินค้าทั้งคลังสินค้าห้องเย็นและคลังสินค้าทั่วไป ที่เลื่อนมาจากปี 2564 เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์โควิด โดยการเติบโตของ EBITDA ในปี 2565 ได้รับปัจจัยสนับสนุนบางส่วนจากการรวมงบการเงินเต็มปีเป็นปีแรกของบริษัท วีเอ็นเอส ทรานสปอร์ต จำกัด (VNS) ซึ่งผู้ให้บริการโลจิสติกส์สำหรับชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อการผลิตรถยนต์ ที่ JWD ถือหุ้นโดยทางอ้อมในสัดส่วนร้อยละ 83 และกิจการร่วมค้าที่ทำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ในประเทศกัมพูชา ซึ่ง JWD ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 60 โดยทั้งสองกิจการได้เริ่มการรวมงบการเงินกับ JWD ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2564

อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ (EBITDA margin) ของ JWD น่าจะยังคงอยู่ประมาณร้อยละ 16 ในปี 2565 เนื่องจากอัตรากำไรที่ต่ำในช่วงแรกของการเปิดให้บริการของคลังสินค้าห้องเย็นใหม่ที่สร้างเสร็จและอัตราส่วนกำไรที่ต่ำของธุรกิจคลังสินค้าทั่วไปในส่วนที่เกินพื้นที่รองรับของบริษัทฯ และต้องเช่าคลังสินค้าจากผู้ประกอบการภายนอกที่ยังคงมีอยู่ รวมถึงกิจกรรมที่จำกัดของธุรกิจให้บริการยกขนและเคลื่อนย้ายตู้สินค้าท่าเทียบเรือชายฝั่ง (Barge Terminal) เนื่องจากอุปกรณ์ที่เสียหาย ฟิทช์คาดว่า EBITDA margin จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 18 ในปี 2566-2567 จากอัตรากำไรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นของคลังสินค้าใหม่และธุรกิจใหม่ๆ ของบริษัทฯ ซึ่งได้แก่ Self Storage ธุรกิจให้บริการด้านอาหาร ซึ่งมีการปรับตัวที่ดีขึ้นมากในช่วงครึ่งหลังของปี 2564

ความได้เปรียบในการแข่งขันในระดับปานกลาง: ฟิทช์เชื่อว่า JWD ได้รับประโยชน์จากการมีอุปสรรคในการเข้าสู่อุตสาหกรรมที่อยู่ในระดับปานกลาง จากความต้องการเงินลงทุนที่สูง ความชำนาญ และประวัติในการให้บริการที่จำเป็นสำหรับสินค้าบางประเภท JWD เป็นผู้ได้รับสัมปทานเพียงรายเดียวในการให้บริการดูแลรับฝากและขนย้ายสินค้าที่เข้าข่ายสินค้าอันตรายตามกฎหมาย ที่ทำการขนส่งผ่านท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย JWD เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการคลังสินค้าและลานวางสินค้าภายในบริเวณท่าเรือแหลมฉบังที่ใหญ่ที่สุดสามรายแรกในด้านขนาดของพื้นที่ ส่วนการให้บริการโลจิสติกส์อื่นๆ ของ JWD ส่วนใหญ่จะอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีผู้ให้บริการหลักๆ เพียงไม่กี่ราย โดยที่ผู้ให้บริการแต่ละรายมีความแตกต่างกันในการให้บริการในระดับหนึ่ง เช่น พื้นที่ที่ให้บริการ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

ขนาดของธุรกิจที่เล็ก: ฟิทช์คาดว่าแผนการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งในด้านประเภทของการให้บริการและในด้านภูมิศาสตร์ น่าจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจรวมถึงการกระจายความเสี่ยงได้ในระยะยาว JWD มีขนาดของธุรกิจที่เล็ก เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับที่สูงกว่า JWD เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์อิสระ (Third-party Logistics Services Provider) โดยจะให้บริการลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่สำหรับงานประเภทซึ่งมีการจ้างผู้ให้บริการภายนอก (Outsourcing) แทนหน่วยงานภายในองค์กร ในขณะที่ลูกค้าอีกส่วนหนึ่งจะเป็นผู้ผลิตขนาดกลางและขนาดย่อม จากการขยายธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นมากขึ้นรวมทั้งการขยายไปยังธุรกิจใหม่อื่นๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ความกระจุกตัวของธุรกิจและทรัพย์สินของบริษัทฯ ในบริเวณท่าเรือแหลมฉบังลดน้อยลง

การกำหนดอันดับเครดิตโดยสรุป
JWD เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโลจิสติกส์ภาคพื้นดินแบบครบวงจรรายใหญ่ในประเทศไทย รายได้ร้อยละ15-20 ของบริษัทฯ สามารถคาดการณ์ได้ เนื่องจากมีสัญญาสัมปทานและสัญญาระยะปานกลางถึงระยะยาวรองรับ บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF (BBB+(tha)/แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ/สถานะเครดิตโดยลำพัง bbb-(tha)) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านพัฒนาและบริหารศูนย์การค้าขนาดกลางภายใต้แนวความคิดศูนย์การค้าชุมชน ถือเป็นบริษัทที่มีอันดับเครดิตที่เทียบเคียงได้กับ JWD SF มีรายได้ที่สามารถคาดการณ์ได้อยู่ในระดับที่สูงกว่า JWD เนื่องจากมีสัญญาเช่าระยะปานกลางถึงระยะยาวรองรับ อย่างไรก็ตาม SF ได้รับผลกระทบจากสถารการณ์โรคระบาดค่อนข้างมากเนื่องจากส่วนลดค่าเช่าที่จำเป็นต้องให้แก่ผู้เช่าที่ประสบปัญหา อย่างไรก็ตาม ธุรกิจของ SF มีการฟื้นตัวที่รวดเร็วเนื่องจากผู้เช่ามากกว่าร้อยละ 50 ของ SF มาจากผู้เช่าที่เป็นร้านอาหารและซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน

ในขณะเดียวกัน ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ที่ครบวงจรของ JWD รวมถึงฐานลูกค้าที่อยู่ในธุรกิจที่หลากหลาย ทำให้ธุรกิจโดยรวมของ JWD ไม่ได้รับผลกระทบที่มากนักในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งสามารถชดเชยระดับของรายได้ที่สามารถคาดการณ์ได้ที่ต่ำกว่า SF ได้ เนื่องจากแผนค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนและการลงทุนที่สูงอย่างต่อเนื่อง อัตราส่วนหนี้สินของ JWD น่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับ SF ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ในขณะที่ SF มีปัจจัยสนับสนุนความยืดหยุ่นทางการเงินจากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อมูลค่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนที่อยู่ในระดับต่ำและมีทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนซึ่งเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในความต้องการของตลาด ดังนั้น JWD จึงได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตโดยลำพังของ SF อยู่หนึ่งอันดับ

ในขณะที่ JWD มีขนาดของธุรกิจที่เล็กกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC, A-(tha)/แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ สถานะเครดิตโดยลำพัง bbb(tha)) ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันและผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศไทย แต่ IRPC มีความผันผวนของรายได้มากกว่า JWD เนื่องจากต้องเผชิญกับความเสี่ยงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ IRPC ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสมากกว่า JWD อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนหนี้สินของ IRPC น่าจะอยู่ในระดับต่ำกว่า JWD ดังนั้น ด้วยสถานะทางธุรกิจของ IRPC ที่แข็งแกร่งกว่าเนื่องจากขนาดของธุรกิจที่ใหญ่กว่ามาก และสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งกว่า JWD จึงได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ต่ำกว่าสถานะเครดิตโดยลำพัง ของ IRPC อยู่สองอันดับ

สมมุติฐานที่สำคัญ
สมมุติฐานที่สำคัญของฟิทช์ที่ใช้ในการประมาณการ

  • รายได้เติบโตในอัตราประมาณร้อยละ 15 ในปี 2565 จากการขยายพื้นที่คลังสินค้าและการรวมงบการเงินเต็มปีเป็นปีแรก ของบริษัทย่อยใหม่ที่เข้าถือหุ้นในปี 2564 และอัตราการเติบโตของรายได้ประมาณร้อยละ 10 ในปี 2566 และ 2567
  • อัตราส่วน EBITDA margin ยังคงอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 16 ในปี 2565 และปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 18 ในปี 2566-2567
  • ค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนและการลงทุนประมาณ 1.6 พันล้านบาทในปี 2565 และ ประมาณ 1.3 พันล้านบาทต่อปีในปี2566 และ 2567

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
สำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว

ปัจจัยบวก:

  • อัตราส่วนหนี้สิน ซึ่งวัดจากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า (Adjusted net debt to EBITDAR) ลดลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 5.0 เท่าอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยลบ:

  • หนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า (Adjusted net debt to EBITDAR) อยู่ในระดับสูงกว่า 6.0 เท่าอย่างต่อเนื่อง

สำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของโครงการหุ้นกู้สกุลเงินบาท ที่ได้รับการค้ำประกันโดย CGIF

ปัจจัยบวก:

  • การปรับเพิ่มอันดับเครดิตไม่น่าจะเกิดขึ้นเนื่องจากในปัจจุบันอันดับเครดิตภายในประเทศของโครงการหุ้นกู้อยู่ที่ระดับสูงสุดของอันดับเครดิตภายในประเทศแล้ว

ปัจจัยลบ:

  • สถานะทางเครดิตของ CGIF ที่อ่อนแอลงเมื่อเทียบกับอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศของประเทศไทย

สภาพคล่อง
สภาพคล่องอยู่ในระดับที่จัดการได้: JWD มีหนี้สินทั้งหมดประมาณ 5.7 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 โดยจำนวน 1.8 พันล้านบาท จะครบกำหนดชำระภายใน 12 เดือนข้างหน้าสิ้นสุด 31 มีนาคม 2566 ซึ่งรวมถึงหุ้นกู้จำนวน 600 ล้านบาทที่ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 สภาพคล่องของ JWD มีปัจจัยสนับสนุนจากเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้น จำนวน 1 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 รวมถึงกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน JWD ยังมีทรัพย์สินปลอดหลักประกัน ในรูปของที่ดินและอาคารซึ่งมีมูลค่าตามบัญชีประมาณ 1.3 พันล้านบาท ซึ่งฟิทช์เชื่อว่าสามารถใช้เพื่อเป็นหลักประกันเงินกู้ได้ หากมีความจำเป็น

บริษัทฯ ยังมีความสามารถในการกู้ยืมเงินจากธนาคารภายในประเทศ โดยมีวงเงินกู้หมุนเวียนที่สามารถยกเลิกได้ที่ยังไม่ได้เบิกถอน (Uncommitted Facilities) ประมาณ 824 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถออกตราสารหนี้ในตลาดทุนภายในประเทศได้ โดยบริษัทฯได้มีการออกหุ้นกู้จำนวน 1.9 พันล้านบาทและ 500 ล้านบาทในปี 2564 และไตรมาสแรกของปี 2565 ตามลำดับ

ลักษณะธุรกิจ
JWD เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรในประเทศไทย ที่ให้บริการทั้งสินค้าทั่วไป เคมีภัณฑ์ ยานยนต์ และสินค้าควบคุมอุณหภูมิ นอกจากนี้ JWD ยังมีบริการขนย้าย คลังสินค้าเอกสาร และธุรกิจให้บริการเก็บของใช้ส่วนตัว (Self Storaeg) JWD มีการขยายธุรกิจไปยังปรเทศกัมพูชาและอินโดนีเซียในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาด้วย

อันดับเครดิตที่เกี่ยวโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตของโครงการหุ้นกู้ค้ำประกันของ JWD สะท้อนถึงการค้ำประกันโดยไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถ เพิกถอนได้โดย CGIF


ข่าวฟิทช์ เรทติ้งส์+เจดับเบิ้ลยูดีวันนี้

SJWD เคาะอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้อายุ 2 ปี 3.76% ต่อปี และอายุ 3 ปี 4.35% ต่อปี จองซื้อวันที่ 22 และ 25-26 ก.ย.นี้

บมจ.เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ หรือ SJWD ประกาศอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 ชุด อายุ 2 ปี จ่ายดอกเบี้ยคงที่ 3.76% ต่อปี และอายุ 3 ปี จ่ายดอกเบี้ยคงที่ 4.35% ต่อปี ชูอันดับเครดิตองค์กร BBB+(tha) แนวโน้ม Stable และอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ BBB+(tha) จาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) เปิดให้จองซื้อวันที่ 22 และ 25-26 กันยายนนี้ แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ผู้ลงทุนรายใหญ่ และผู้ลงทุนสถาบัน ดร.เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ

ฟิทช์ประกาศให้เครดิตพินิจเป็นบวกแก่อันดับเครดิตของ JWD InfoLogistics

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศให้เครดิตพินิจเป็นบวกแก่อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) ของบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ที่ BB+(tha) และอันดับเครดิตภายในประ...

ฟิทช์ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิต บมจ. เอฟเอ็นเอส โฮลดิ้งส์ เป็น 'CCC+(tha)' และเพิกถอนอันดับเครดิต

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัท เอฟเอ็นเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ FNS เป็น 'CCC+(tha)' จาก 'CCC-(tha)' ...

ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส และ บจก.แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค ที่ 'AAA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) และบริษัท แอดวานซ์ ...

ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศของ บ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ที่ 'A(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ที่ 'A(tha)' แนว...

ฟิทช์ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ สำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศของ บริษัทเอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง และคงอันดับเครดิตที่ 'A(tha)'

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น "แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ" จากเดิม "แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ" และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ...

SAWAD ปลื้ม! ขายหุ้นกู้ 3,150 ล้านบาททะลุเป้า นักลงทุนสถาบัน รายใหญ่ตอบรับล้นหลาม เสริมฐานเงินทุนแข็งแกร่ง สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพและธรรมาภิบาลองค์กร

บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยชั้นนำของประเทศ ประกาศความสำเร็จในการออกและเสนอขาย...