การปลูกถ่ายตับ คือการตัดเอาตับทั้งหมดของผู้ป่วยออก และทำการปลูกถ่ายตับใหม่เข้าไปในช่องท้องของผู้ป่วย โดยปัจจุบันการผ่าตัดปลูกถ่ายตับถือเป็นหนึ่งในการรักษาที่เป็นมาตรฐานสำหรับภาวะตับที่ผิดปกติหลายประเภท ศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพ พร้อมดูแลผู้ป่วยที่มีโรคเกี่ยวกับตับหรือตับไม่สามารถทำงานได้ตามปกติจนต้องเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับ ซึ่งเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงหรือภาวะแทรกซ้อนที่ต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ด้วยทีมแพทย์ที่มากด้วยประสบการณ์ เครื่องมือทันสมัย และทีมสหสาขาวิชาชีพที่มีความชำนาญ เพื่อให้ผู้ป่วยกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ
ผศ. นพ. สุปรีชา อัสวกาญจน์ ศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านตับ ตับอ่อน และทางเดินน้ำดี และการปลูกถ่ายอวัยวะ ศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า การปลูกถ่ายตับเป็นการรักษาที่เหมาะสมกับบางโรคหรือความผิดปกติทางตับเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันข้อบ่งชี้ของการผ่าตัดปลูกถ่ายตับ ได้แก่ ภาวะตับแข็ง (Cirrhosis) ระยะสุดท้าย เป็นภาวะตับแข็งที่ตับไม่ทำงานแล้วหรือไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายอย่างมาก ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนของตับแข็งรุนแรง เช่น เส้นเลือดดำที่หลอดอาหารโป่งพองผิดปกติ ภาวะท้องมานที่ไม่สามารถควบคุมด้วยยาได้ดี และภาวะโรคทางสมองจากตับทำให้มีอาการสับสน เป็นต้น ภาวะตับวายเฉียบพลัน (Fulminant Hepatic Failure) เป็นภาวะที่ตับไม่ทำงานเฉียบพลัน ทำให้เกิดภาวะโรคทางสมองจากตับ ถ้าปล่อยทิ้งไว้จะมีผลต่อไปถึงอวัยวะต่าง ๆ เช่น หัวใจ ไต และมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้มาก มะเร็งตับระยะแรก (Early Hepatocellular Carcinoma) จากการศึกษาพบว่า กรณีมะเร็งตับที่มีขนาดเล็กและจำนวนไม่มากเกินไปมีอัตราการรอดชีวิตดีและมีอัตราการเกิดซ้ำของมะเร็งตับน้อยในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ภาวะการทำงานของตับผิดปกติโดยกำเนิดบางชนิด อาจมีผลทำให้ตับผิดปกติในลักษณะที่ทำให้มีผลต่ออัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วย
การผ่าตัดปลูกถ่ายตับสามารถแบ่งเป็น 2 แบบตามที่มาของอวัยวะ ได้แก่ ตับจากผู้บริจาคที่มีภาวะสมองตาย (Cadaveric Liver Transplantation) เป็นการผ่าตัดปลูกถ่ายตับโดยนำตับจากผู้บริจาคที่สมองตายแล้ว ในปัจจุบันการผ่าตัดปลูกถ่ายตับในผู้ใหญ่ส่วนใหญ่เป็นการผ่าตัดแบบนี้ และตับจากผู้บริจาคที่มีชีวิตอยู่ (Living - Related Liver Transplantation) เป็นการผ่าตัดปลูกถ่ายตับโดยแบ่งตับส่วนหนึ่งมาจากผู้บริจาคที่มีชีวิต เช่น การผ่าตัดแบ่งตับจากผู้ใหญ่ เช่น บิดา มารดา ไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยเด็ก หรือแบ่งตับผู้ใหญ่ไปปลูกถ่ายในผู้ใหญ่ด้วยกัน การผ่าตัดทั้งสองแบบนี้มีเทคนิคการผ่าตัดที่แตกต่างกันและมีข้อดีข้อเสียรวมถึงภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน จึงมีความเหมาะสมต่อโรคหรือภาวะตับแต่ละแบบต่างกัน โดยจะมีขั้นตอนการประเมินผู้ป่วยก่อนพิจารณาผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะตับ ประกอบไปด้วย การตรวจสภาพการทำงานทั่วไปของร่างกาย การทำงานของหัวใจ การทำงานของปอด ตรวจประเมินสภาพการทำงานของตับ ลักษณะกายวิภาคและภาวะเนื้องอกหรือมะเร็งในตับ โดยตรวจเลือด อัลตราซาวนด์ตับ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ตับ หรือตรวจด้วยการถ่ายภาพโดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ตรวจประเมินคัดกรองหามะเร็งชนิดอื่นในร่างกาย ซึ่งอาจไม่เคยทราบหรือมีอาการมาก่อน เช่น การตรวจแมมโมแกรม เอกซเรย์ปอด ส่องกล้องตรวจลำไส้ (กรณีมีข้อบ่งชี้) เป็นต้น รวมถึงการเจาะเลือดคัดกรองหาความผิดปกติของค่ามะเร็งต่าง ๆ เพราะกรณีที่มีมะเร็งชนิดอื่นในร่างกายแล้วทำการปลูกถ่ายตับ หลังผ่าตัดเมื่อผู้ป่วยรับประทานยากดภูมิคุ้มกันจะทำให้มะเร็งดังกล่าวมีอาการหรือมีความรุนแรงมากขึ้นได้ ตรวจประเมินหาภาวะการติดเชื้อต่าง ๆ ไวรัสตับอักเสบ ไวรัสเอชไอวี รวมถึงการติดเชื้อที่อาจเป็นเรื้อรังหรือไม่แสดงอาการ เพราะหลังปลูกถ่ายตับผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการกดภูมิคุ้มกัน ซึ่งมีโอกาสทำให้มีอาการหรือเป็นรุนแรงมากขึ้นได้ ตรวจคัดกรองสภาพฟันโดยทันตแพทย์ หากมีฟันผุต้องได้รับการรักษาให้ดีก่อน และตรวจประเมินสภาวะทางจิตใจโดยจิตแพทย์เพื่อประเมินความสามารถในการดูแลรักษาตนเองและติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่องได้ ผู้ป่วยต้องหยุดดื่มสุราติดต่อกันอย่างน้อย 6 เดือนก่อนผ่าตัด ยกเว้นกรณีภาวะตับวายเฉียบพลันต้องงดดื่มสุราหลังผ่าตัด เพราะการทำงานของตับหลังปลูกถ่ายจะลดลงและเกิดภาวะตับแข็งได้ถ้ากลับมาดื่มสุรา
เมื่อผู้ป่วยได้รับการประเมินต่าง ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แพทย์เฉพาะทางจะพิจารณาว่าผู้ป่วยสามารถทำการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะตับได้หรือไม่ หลังจากนั้นทางศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพจะดำเนินการกับทางสภากาชาดไทยเพื่อรอการจัดสรรอวัยวะตับเมื่อมีผู้บริจาคอวัยวะและเนื่องจากตับเป็นอวัยวะที่ใหญ่และมีเลือดเลี้ยงเป็นจำนวนมาก จึงมีโอกาสเสียเลือดจำนวนมากระหว่างผ่าตัด อาจมีเลือดค้างในช่องท้อง แผลติดเชื้อหลังผ่าตัด จนอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนขณะและหลังผ่าตัดปลูกถ่ายตับได้ เช่น
การผ่าตัดปลูกถ่ายตับแม้จะมีกระบวนการที่ยุ่งยากและซับซ้อน แต่หากผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดรักษาตามกระบวนการที่เหมาะสมจะได้รับผลการรักษาที่ดี กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีหลังผ่าตัดและมีอัตราการรอดชีวิตที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตามการดูแลรักษาสุขภาพ ออกกำลังกายและทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อตับอยู่เสมอก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถรักษาตับให้สุขภาพดีและอยู่กับเราไปได้อีกนาน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพ โทร. 0 2310 3002, 0 2755 1002 หรือ Contact Center โทร. 1719
โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ภาคภูมิใจอีกครั้งกับการได้รับรางวัล Healthcare Asia Award 2025 สาขา Specialty Hospital รางวัลอันทรงเกียรติที่พิสูจน์ถึงความทุ่มเทในการพัฒนา Center of Excellence โดยเฉพาะศูนย์มะเร็งและศูนย์หัวใจ ตลอดจนศูนย์สมองและระบบประสาท ศูนย์กระดูกและข้อ และศูนย์อุบัติเหตุที่ได้มาตรฐานการรักษาระดับภูมิภาค เน้นการดูแลรักษาผู้ป่วยแบบองค์รวม ผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมด้วยทีมแพทย์และทีมสหสาขาที่มีความชำนาญ พร้อมดูแลครบทุกมิติ ศ.พิเศษ นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลวัฒ
แบรนด์ซุปไก่สกัด ผนึกกำลัง รพ. กรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล จุดประกายภารกิจครั้งใหญ่ ยกระดับความรู้ ปกป้องคนไทยจากโรคหลอดเลือดสมอง ภัยเงียบที่ต้องรู้ทัน!
—
แบรนด์ซุปไก...
โรงพยาบาลกรุงเทพติดอันดับ Top 5 ของไทย ในรางวัล The World's Best Hospitals 2025 - Thailand
—
โรงพยาบาลกรุงเทพภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็...
รพ.กรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนลคว้า 3 รางวัลคุณภาพระดับเอเชีย Asia's Top Private Hospital 2025 ด้วยผลการรักษาที่เป็นเลิศสำหรับผู้ป่วยสมองและกระดูก
—
โรงพยาบาลกร...
เพอเซ็ปทรา โชว์ศักยภาพ AI ทางการแพทย์ในงานประชุมนานาชาติรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล (PMAC) 2025
—
คณะผู้บริหารและทีมงานจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยา...
สุขภาพดีรับปีใหม่! คุณหมอแอมป์นำทัพคนรักสุขภาพ สร้างคอมมูนีตี้คนสุขภาพดีทั่วไทย ส่งต่อความรู้ด้าน Lifestyle Medicine
—
ส่งต่อสุขภาพดีรับปีใหม่! นายแพทย์ตน...
รพ.กรุงเทพ คว้ารางวัล THAILAND BEST EMPLOYER BRAND AWARDS 2025
—
โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ได้รับรางวัล "Thailand Best Employer Brand Awards 2025" จาก...
รพ.กรุงเทพ ฉลองความสำเร็จกับรางวัล GREAT PLACE TO WORK พร้อมเปิดตัว DR.HEALTH AVATAR ตัวแทนความสุขยกระดับสุขภาพ
—
โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ คว้ารางวัล...
สารัชถ์ รัตนาวะดี แชมป์เศรษฐีหุ้น 2567 รวย 2.4 แสนล้านบาท
—
"สารัชถ์ รัตนาวะดี" แห่งอาณาจักรกัลฟ์ แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2567 รวย 2.4 แสนล้านบาท ครองแชมป์ 6...