บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ "BTG" บริษัทอาหารชั้นนำระดับสากล (World-Class Branded Food Company) โชว์โครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง และผลการดำเนินงานที่มีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลัง "ทริสเรทติ้ง" ปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้เป็น "A" แนวโน้ม "คงที่" สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ตลอดจนศักยภาพการเติบโตของธุรกิจด้วยกลยุทธ์มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์อาหารที่มีมูลค่าเพิ่ม และจุดเด่นของแบรนด์สินค้าซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค
นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า "นับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งของเบทาโกร เมื่อล่าสุดสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (TRIS Rating) ได้จัดอันดับเครดิตองค์กร และหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก "A-" เป็นระดับ "A" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" ซึ่งการปรับเพิ่มอันดับเครดิตดังกล่าว สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ศักยภาพการดำเนินธุรกิจ และโอกาสเติบโตของบริษัทฯ จากโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งขึ้นมาก หลังประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้น IPO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลอดจนผลการดำเนินงานที่เติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง"
โดยมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่าเบทาโกรเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารของไทยมากว่า 55 ปี และมีความสามารถในการรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจดังกล่าวเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยโมเดลธุรกิจแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งอาหารสัตว์ เนื้อสัตว์แปรรูป และผลิตภัณฑ์อาหาร จึงสามารถควบคุมคุณภาพและต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันกลยุทธ์มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม และการจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ซึ่งหลากหลายและเป็นที่รู้จักจากผู้บริโภค ทำให้ช่วยเพิ่มผลกำไรและลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งนี้ คาดว่าเบทาโกรจะรักษาผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่องไปอีกหลายปีข้างหน้า เนื่องจากจะได้รับประโยชน์จากราคาเนื้อสัตว์ที่อยู่ในระดับสูงจากภาวะการขาดแคลนของอุปทาน และความต้องการที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและความกังวลด้านความมั่นคงทางอาหารทั่วโลก
นอกจากนี้ เบทาโกรมีโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งขึ้นมาก หลังสามารถระดมทุนในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนผ่านการทำ IPO ด้วยมูลค่าประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท โดยมีแผนจะนำเงินประมาณ 50% ของจำนวนดังกล่าวไปชำระคืนหนี้เดิม และส่วนที่เหลือจะใช้ในการขยายธุรกิจและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ อีกทั้ง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 บริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA อยู่ที่ 2.2 เท่า ซึ่งลดลงมากเมื่อเทียบกับระดับ 5.6 เท่า ณ สิ้นปี 2564 ดังนั้น เมื่อรวมฐานทุนที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายสำหรับการลงทุนประมาณ 3 - 5 พันล้านบาทต่อปี คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA จะอยู่ที่ระดับ 1.5 เท่าในปี 2565 และ 2.5 - 3.9 เท่าในปี 2566 - 2567 ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนรวม (Debt to Total Capitalization ratio) ของบริษัทฯ จะอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 50% ในช่วงปี 2565 - 2567
"การได้รับปรับเพิ่มเครดิตเรทติ้งในครั้งนี้ ช่วยตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตอย่างมั่งคงและยั่งยืนของเบทาโกร ตลอดจนความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวแก่นักลงทุนและผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ซึ่งอันดับเครดิตที่ A แนวโน้มคงที่นั้น ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Investment Grade ที่ได้รับความน่าเชื่อถือ จึงส่งผลดีต่อต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ที่มีโอกาสลดลงในการระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ในอนาคต โดยเฉพาะในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในช่วงขาขึ้น พร้อมทั้งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและยกระดับผลการดำเนินงานได้ในอนาคต" นายวสิษฐ กล่าวปิดท้าย
เบทาโกร ได้รับการยกระดับ CAC ในระดับสูงสุด ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาล ซื่อสัตย์ และโปร่งใส
'เบทาโกร' รุกตลาดอาหารสิงคโปร์ เข้าซื้อกิจการ Eggriculture มูลค่ากว่า 1,900 ล้านบาท มุ่งขับเคลื่อนกลยุทธ์ "Regional Player" สร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน
ปตท. จับมือ เบทาโกร เดินหน้านวัตกรรมพลังงานและระบบบริหารจัดการของเสีย เสริมศักยภาพอุตสาหกรรมไทย เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
"เบทาโกร" จัดงานครบรอบ 57 ปี รวมพลังขับเคลื่อนองค์กร สร้างการเปลี่ยนแปลง ภายใต้แนวคิด "Transforming Together" เพื่อชีวิตที่ยั่งยืน
"เบทาโกร" โชว์ผลงานครึ่งปีแรก 67 ทำกำไรสุทธิ 503.7 ล้านบาท เติบโตกว่า 10 เท่าตัว สัญญาณดีต่อเนื่องครึ่งปีหลัง ราคาหมู ไก่ ไข่ จ่อขยับ
"เบทาโกร" คว้ารางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านองค์กรนวัตกรรมดีเด่น ประจำปี 2566
56 ปี เบทาโกร ตอกย้ำการเป็นบริษัทอาหารครบวงจรชั้นนำของไทย มุ่งมั่นเพิ่มคุณค่าชีวิตทุกคน ด้วยอาหารที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ยั่งยืน