สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) ในกลุ่มบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASPS ประเมินภาพรวมการลงทุนของตลาดหุ้นไทยในช่วง 1Q66 ยังได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ การเติบโตของกำไรบริษัทฯ Fund Flow ที่มีแนวโน้มไหลเข้าและความคาดหวังต่อนโยบายเศรษฐกิจใหม่เมื่อใกล้เข้าสู่เลือกตั้ง แต่แนวโน้มดอกเบี้ยฯขาขึ้น ภาษีขายหุ้นและความผันผวนของ DELTA อาจเป็นปัจจัยที่จำกัด Upside ประเมินเป้าหมายดัชนีปีนี้อยู่ที่ 1,667-1,740 จุด
คุณเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่าในช่วง 1Q65 ตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในช่วงการปรับขึ้นโดยมี 4 ปัจจัยสนับสนุน 1) ภาพรวมเศรษฐกิจไทยถือว่าเติบโตโดดเด่นกว่าเศรษฐกิจโลก โดยคาด GDP Growth 66F ของไทยขยายตัว 3.8% มากกว่าเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวเพียง 2.6% โดยมีแรงหนุนมาจากภาคการท่องเที่ยวที่มีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วขึ้นหลังจากจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 2) กำไรบริษัทจดทะเบียนปี 2566 คาดอยู่ที่ 1.27 ล้านล้านบาท คิดเป็น EPS ที่ 99.2 บาท/หุ้น เติบโต 6% โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม non - energy คาดเติบโตได้ถึง 11.7% และ 3) ทิศทาง Fund Flow ที่มีแนวโน้มไหลเข้าจากค่าเงินบาทเสถียรภาพของเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่า ตามดุลบัญชีเดินสะพัดและทุนสำรองระหว่างประเทศที่มีแนวโน้มสูงขึ้น และ 4) ความคาดหวังเชิงบวกต่อนโยบายใหม่ๆ ยามเข้าใกล้ช่วงเลือกตั้ง ซึ่งจากสถิติในอดีตนับจาก 2544-2562 พบว่าก่อนการเลือกตั้ง 3 เดือน SET Index ให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ย 3.9%
แต่อย่างไรก็ตามยังมี 4 ปัจจัยที่เป็นตัวจำกัดการขึ้นของ SET Index เริ่มจาก 1) ความเสี่ยงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปที่มีโอกาสสูงที่เข้าสู่ภาวะ Recession สะท้อนจาก Bloomberg Consensus คาดโอกาสในยุโรปมากถึง 80% และสหรัฐฯ 65% ซึ่งสร้าง Sentiment เชิงลบต่อตลาดหุ้นภูมิภาครวมถึงบ้านเรา แม้ไทยโอกาสเกิด Recession อยู่ต่ำเพียง 13% ก็ตาม 2) การขึ้นดอกเบี้ยฯ ของ กนง. ซึ่งจะทำให้ส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนในตลาดหุ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรแคบลง โดยฝ่ายวิจัยฯ คาด กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยฯ ในปีนี้ไม่เกิน 2 ครั้งจากปัจจุบันอยู่ที่ 1.25% 3) การเก็บภาษีขายหุ้นที่คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในช่วงต้น 2Q66 ซึ่งน่าจะกระทบต่อทิศทางตลาดช่วงปรับสมดุลโดยเฉพาะช่วงก่อนเก็บภาษีจริง และ 4) ความผันผวนของ DELTA ที่อาจกลับมาสร้างแรงกดดันต่อตลาดหลังจากปรับขึ้นตั้งแต่ พ.ย.65 ถึงปัจจุบัน 45% จนระดับ PER 66F ขึ้นมาสูงถึง 64 เท่า (เทียบกับกลุ่มที่ PER66F เฉลี่ยอยู่ที่ 16 เท่า) ถือเป็นระดับที่ยากจะอธิบายในมุมปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งทุกๆ การเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น DELTA 1% กระทบ SET Index 0.85 จุด
ภายใต้ปัจจัยแวดล้อมข้างต้นทำให้ SET Index ในช่วง 1Q66 ปรับขึ้นได้โดยประเมินเป้าหมายดัชนี บนสมมติฐาน Market Earning Yield Gap ที่ 4.2% ,EPS ที่ 99.2 บาท/หุ้น และคาดดอกเบี้ยฯ ปีนี้อยู่ที่ระดับ 1.50% - 1.75% จะทำให้เป้าหมาย SET Index อยู่ที่ 1,677-1,740 จุด แต่อย่างไรก็ตามการขึ้นเกินระดับดังกล่าวต้องระวังขายทำกำไร โดยกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นกำไรมีแนวโน้มเติบโตที่กระจายบน 3 Theme การลงทุน 1) Domestic Consumption: STEC, COM7, GULF 2). China Play: AOT 3). Dividend Play: AP, ASK
กลยุทธ์การลงทุนหุ้นต่างประเทศ "เงินเฟ้อเลยจุดสูงสุดไปแล้ว แต่จะอยู่ไปอีกสักพัก"
ทีมกลยุทธ์ต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) ประเมินว่ายังมีความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อที่ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วแต่จะทรงตัวในระดับสูงอีกระยะ อีกทั้งเรื่องเศรษฐกิจถดถอยในช่วงไตรมาสแรกนี้ แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยดังกล่าวก็สะท้อนไปในราคาแล้วบางส่วน
ทีมกลยุทธ์ต่างประเทศ ยังคงมองว่าเศรษฐกิจจีนเห็นสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนขึ้นจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ การยกเลิกมาตการ Zero Covid เร็วกว่าที่คาด ทำให้ IMF และนักวิเคราะห์ ต่างปรับประมาณการณ์จีน GDP จีนอยู่ที่ 4.9% และ 5.3% ในปี 2023 และ 2024 อีกทั้งมาตการช่วยเหลือกลุ่มอสังหาฯ ที่เป็นเหมือนฟองสบู่ลูกใหญ่ในจีน รวมไปถึงความโปร่งใสที่ดีขึ้นจากการตรวจสอบบัญชี จากผู้ตรวจสอบนอกประเทศจีน ทำให้หุ้นที่อยู่ในธีมเปิดเมือง กลุ่มอสังหาฯ และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมีผลตอบแทนที่โดดเด่นและน่าลงทุนที่สุดในไตรมาสนี้
ในส่วนของสหรัฐถึงแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้วแต่ก็ยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของ FED ที่ 2% อยู่มาก ซึ่งยังคงต้องจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจที่จะกระทบเงินเฟ้ออย่างตัวเลขการจ้างงานและค่าแรง โดยมองตราสารหนี้โดดเด่น ตามด้วยกลุ่ม Defensive อย่าง Utilities , Consumer Staples โดยเฉพาะ กลุ่ม Healthcare
กลุ่มบริษัทเอเซีย พลัส กลุ่มธุรกิจการเงินชั้นนำ ผู้ให้บริการทางการเงินและการลงทุนครบวงจร กางแผนต่อยอดธุรกิจ พร้อมวางกลยุทธ์ 5 ด้านหลัก มุ่งสู่ผู้นำ Wealth Management เต็มรูปแบบในปี 2568 ตอบโจทย์การให้บริการลูกค้าครบวงจร และสร้างผลตอบแทนในระยะยาว เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยง หนุนฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมสู่การเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินชั้นนำแบบครบวงจร เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส
บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ส่งมอบโลหิต ภายใต้โครงการ ASP CARE
—
บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ส่งมอบโลหิต ภายใต้โ...
ตลาดหุ้นไทยไตรมาส 4 มีโอกาสลุ้นกลับทิศเป็นขาขึ้น แนะนำหุ้นราคาน่าสะสม และมีปัจจัยเฉพาะตัวหนุนให้มีโอกาสฟื้นตัวเด่นกว่าตลาด
—
สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ...
เอเชีย พลัสฯ เปิดนิทรรศการครั้งที่ 11 5 ครูศิลปะโชว์เทพ ตวัดปลายพู่กันเปิดงาน
—
บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) จัดงานเปิดตัวนิทรรศการ จิ...
เปิดนิทรรศการจิตรกรรมเอเชีย พลัส ครั้งที่ 11
—
ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร (ที่ 4 จากขวา) ณินทิรา โสภณพนิช กรรมการ (ที่ 4 จากซ้าย)...
จิตรกรรมเอเซีย พลัสฯ ก้าวขึ้นปีที่ 11 เปิดส่งผลงาน ภายใต้โจทย์ " อนาคต " (THE FUTURE)
—
หลังจากประสบความสำเร็จในการส่งเสริมศิลปินหน้าใหม่ให้ได้แจ้งเกิดและ...
ตลาดหุ้นไทย "ไตรมาส 4 ดูดีกว่าทุกไตรมาส" แนะนำลงทุนหุ้น Domestic Play ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และเสริมเกราะการลงทุนด้วยหุ้นในกลุ่ม Defensive
—
สายงานวิจัย...
เอเซีย พลัสฯ เปิดนิทรรศการ "จิตรกรรมเอเซีย พลัส ครั้งที่10"
—
ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาช...