กรมวิชาการเกษตรร่วมส่งความสุขให้คนไทย เปิดศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เกษตรรับเทศกาลปีใหม่ 2566

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรมวิชาการเกษตร ร่วมส่งความสุขให้คนไทยท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเปิดให้บริการประชาชนเข้าชมศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตร 23 ศูนย์ (24 แห่ง) 19 จังหวัด และเปิดหน่วยงานในส่วนภูมิภาคให้บริการประชาชนที่เดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 28 ศูนย์ (31 แห่ง) 24 จังหวัด ภายใต้กิจกรรมในโครงการ "ส่งความสุขปีใหม่ มอบให้เกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี พ.ศ.2566"

กรมวิชาการเกษตรร่วมส่งความสุขให้คนไทย เปิดศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เกษตรรับเทศกาลปีใหม่ 2566

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีโครงการ "ส่งความสุขปีใหม่ มอบให้เกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี พ.ศ.2566" โดยกำหนดให้ทุกหน่วยงานจัดกิจกรรมส่งความสุขตามภารกิจของแต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบ ซึ่งในส่วนของกรมวิชาการเกษตรได้จัดกิจกรรมส่งความสุขให้คนไทย เปิดให้บริการประชาชนเข้าชมศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตร 23 ศูนย์ (24 แห่ง) 19 จังหวัด และเปิดหน่วยงานในส่วนภูมิภาคให้บริการประชาชนที่เดินทางพักผ่อนช่วงปีใหม่ 28 ศูนย์ (31 แห่ง) 24 จังหวัด ที่กระจายอยู่ในหน่วยงานส่วนภูมิภาคทั่วประเทศของกรมวิชาการเกษตร เพื่อเป็นของขวัญต้อนรับเทศกาลปีใหม่ให้กับคนไทย ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้เกิดการใช้จ่าย ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเกษตรที่สวยงาม และยังได้รับความรู้ด้านการเกษตรอีกทางหนึ่งด้วย กรมวิชาการเกษตรร่วมส่งความสุขให้คนไทย เปิดศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เกษตรรับเทศกาลปีใหม่ 2566

ปัจจุบันกรมวิชาการเกษตรมีศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตร ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตรทั้งหมด 23 ศูนย์ (24 แห่ง) 19 จังหวัด กระจายอยู่ในแต่ละภูมิภาค อาทิ ภาคเหนือ ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย(วาวี) ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง) ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(แม่จอนหลวง) ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเชียงใหม่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรตาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรแม่ฮ่องสอน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรแพร่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุโขทัย ศูนย์วิจัยพืชสวนสุโขทัย ศูนย์วิจัยเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์ และสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 (สถานีทดลองพืชสวนร่มเกล้า) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ ศูนย์วิจัยพืชสวนเลย และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรหนองคาย ภาคตะวันออก ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจันทบุรี ภาคตะวันตก ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี ภาคใต้ ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร ศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง ศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรภูเก็ต ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรกระบี่ และศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี

นอกจากนี้ ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตรยังจัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าเกษตรคุณภาพราคาพิเศษ อาทิ ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย จำหน่ายพันธุ์พืชคุณภาพดี เช่น โกโก้ ลำไย และถั่วลันเตา ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย(วาวี) จำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปของศูนย์ฯ เช่น กาแฟอาราบิกาคั่วเม็ด กาแฟอาราบิกาคั่วบด มะคาเดเมียอบเกลือ ชาจีน และน้ำผลไม้จาโบติกาบา พร้อมทั้งจัดตลาดนัดชุมชนกระจายสินค้าของเกษตรกร ในพื้นที่ เช่น ผลิตภัณฑ์ชาวเขา เสื้อผ้าชนเผ่า กระเป๋า และผลผลิตทางการเกษตร ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) จัดตลาดนัดชุมชนกระจายสินค้าของเกษตรกรในพื้นที่ เช่น ถั่วหวาน บล็อกโคลี่ และคะน้ายอด ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี จำหน่ายต้นพันธุ์มังคุดคุณภาพดีและราคาถูก

"สำหรับในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 กรมวิชาการเกษตรขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมเปิดประสบการณ์พักผ่อนสัมผัสธรรมชาติและเรียนรู้ด้านการเกษตรได้ที่ ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตร 23 ศูนย์ (24 แห่ง) 19 จังหวัด และหน่วยงานของกรมวิชาการเกษตร 28 ศูนย์ (31 แห่ง) 24 จังหวัด ที่กระจายอยู่ในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ภายใต้กิจกรรมในโครงการ "ส่งความสุขปีใหม่ มอบให้เกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี พ.ศ.2566" ได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 16 มกราคม 2566" อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว


ข่าวท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์+ระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์วันนี้

จิตอาสา ปตท.สผ. ร่วมเปลี่ยนขยะให้มีคุณค่า สร้างประโยชน์แก่ชุมชน

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จัดกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคม "Waste to Value" ณ ชุมชนบ้านขุนสมุทรจีน จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีพนักงานจิตอาสา ปตท.สผ. กว่า 50 คน เข้าร่วมกิจกรรมกับวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านขุนสมุทรจีน เพื่อนำขยะพลาสติก เช่น ฝาขวดพลาสติกซึ่งรวบรวมจากครัวเรือนของพนักงานและภายใน ปตท.สผ. สำนักงานใหญ่ และขวดพลาสติกที่มีในบริเวณชุมชนบ้านขุนสมุทรจีน มาแปรรูปเป็นแผ่นปูพื้นทางเดินเพื่อประโยชน์สาธารณะ และแปรรูปเป็นพวงกุญแจรีไซเคิลซึ่งสามารถนำไปจำหน่าย