เช็คให้ชัวร์ไขมันลงพุงหรือว่าเนื้องอกมดลูก

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

พุงโต หน้าท้องไม่แบนราบ ปัญหาของผู้หญิงหลายคนๆ แม้ว่าจะออกกำลังกายก็แล้ว คุมอาหารก็แล้ว พุงก็ยังไม่ยุบ ต้องขอบอกว่าพุงที่เห็น อาจไม่ได้เกิดจากไขมันส่วนเกิน แต่เกิดจากก้อนเนื้อ หรือเนื้องอกมดลูกได้ค่ะ แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่า พุงที่เห็นเกิดจากอะไร พญ. น้ำทิพย์ พันธ์ทิพทวี สูตินรีแพทย์ และ แพทย์ American Board of Anti-Aging Medicine จาก Addlife Clinic ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) มีวิธีสังเกตตัวเองง่ายๆ มาฝากกันค่ะ

เช็คให้ชัวร์ไขมันลงพุงหรือว่าเนื้องอกมดลูก

วิธีสังเกตเบื้องต้น ให้นอนราบ แล้วสังเกตว่ามีพุงป่องขึ้นมาหรือเปล่า เมื่อใช้มือกดคลำบริเวณหน้าท้องว่ามีก้อนหรือไม่ รวมถึงมีอาการอื่นๆ ผิดปกติร่วมด้วย ได้แก่ ท้องอืด แน่นท้อง ปวดท้องประจำเดือนมากขึ้น ประจำเดือนมาผิดปกติ โดยก้อนในช่องท้องที่พบบ่อย ได้แก่ เนื้องอกในมดลูก ซีสต์ในรังไข่ โดยเฉพาะสตรีวัยเจริญพันธุ์ หรือ 25 - 40 ปีค่ะ

อาการเมื่อมีเนื้องอกในมดลูก

อาจไม่มีอาการหรือมีอาการเกิดขึ้นได้ เช่น ปวดท้องประจำเดือนมากกว่าปกติ  ประจำเดือนมามากผิดปกติ ถ้าก้อนมีขนาดใหญ่ อาจมีการคลำพบได้ที่หน้าท้อง ถ้าขนาดโตจนเบียดกระเพาะปัสสาวะ อาจมีอาการปัสสาวะบ่อย ถ้าไปเบียดลำไส้ หรือทวารหนัก อาจมีอาการท้องผูก ถ่ายลำบาก

โดยเนื้องอกที่รังไข่ แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

  1. ก้อนเนื้อตัน เรียกว่า เนื้องอก
  2. ถุงน้ำที่รังไข่ เรียกว่า ซีสต์ที่รังไข่

ถ้าก้อนหรือถุงน้ำขนาดเล็กจะไม่มีอาการ จะมีอาการก็ต่อเมื่อก้อนหรือซีสต์แตก ทำให้มีอาการปวดท้องเฉียบพลับ อาจต้องผ่าตัดฉุกเฉินค่ะ โดยก้อนเนื้อหรือซีสต์ที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะไม่ได้กลายเป็นมะเร็งก็ได้นะคะ ดังนั้น ถ้าคลำพบก้อนก็อย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ

สำหรับก้อนที่จะกลายเป็นมะเร็ง ช่วงแรกๆจะไม่มีอาการ ทำให้สังเกตได้ยาก กว่าจะรู้ตัว หรือแสดงอาการก็เป็นระยะท้ายๆแล้ว อาการที่อาจสังเกตได้เช่น ท้องอืด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อาจคลำพบก้อนในท้องได้

วิธีการป้องกัน

ยังไม่มีวิธีใดที่สามารถป้องกันได้ 100% แต่วิธีการที่ดีที่สุดก็คือ การตรวจสุขภาพประจำปี โดยแนะนำให้ตรวจภายในทุกปี อาจมีการตรวจอัลตร้าซาวด์ร่วมด้วย หรือส่งตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น MRI หรือ CT Scan ในช่องท้อง กรณีคลำเจอก้อน หรือสงสัยว่ามีความผิดปกติค่ะ  ดังนั้น การตรวจภายในเป็นประจำทุกปีจึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้หญิงเรานะคะ


ข่าวน้ำทิพย์ พันธ์ทิพทวี+เนื้องอกมดลูกวันนี้

เชื่อว่า.. ไม่มีอาการผิดปกติก็ไม่ต้องตรวจภายในจริงหรือ?

ตรวจภายใน เป็นวิธีสำคัญในการตรวจหาความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ทั้งในผู้ที่มีอาการ หรือไม่มีอาการผิดปกติ โดยแพทย์จะเริ่มจากการซักประวัติเกี่ยวกับประจำเดือน ตกขาว และอาการ ผิดปกติอื่นๆ จากนั้นจึงทำการตรวจอวัยวะสืบพันธุ์ เช่น ช่องคลอด ปากมดลูก มดลูก และรังไข่ รวมถึงตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก การตรวจภายในสามารถช่วยวินิจฉัยโรคต่างๆ เช่น เนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เนื้องอกรังไข่ การอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน รวมถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย ควรตรวจบ่อยแค่ไหน? หาก

เนื้องอกมดลูก เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่ผิด... "เนื้องอกมดลูก" ความเสี่ยงที่ผู้หญิงต้องเจอ — เนื้องอกมดลูก เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติของเซลล์กล้ามเนื้อในมดลูก อาจเกิดขึ้นภายในเนื้อมดลูก โพรงมดลูก...

สาวๆ เคยสังเกตเห็นก้อนแข็งๆ บริเวณท้องน้อ... พุงโต...ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อาจเป็น "เนื้องอกมดลูก" — สาวๆ เคยสังเกตเห็นก้อนแข็งๆ บริเวณท้องน้อยไหม? บางคนอาจคิดว่าเป็นแค่ไขมันสะสม แต่รู้ไหมว่าอาจเป็น เ...

เนื้องอกในมดลูก (Uterine Fibroids) เป็นก้... 5 อาการเตือน ที่บ่งบอกว่าคุณอาจมี "เนื้องอกมดลูก" — เนื้องอกในมดลูก (Uterine Fibroids) เป็นก้อนเนื้อที่เกิดขึ้นในกล้ามเนื้อมดลูก โดยส่วนใหญ่เป็นเนื้องอ...

3 ตำแหน่งของ "เนื้องอกมดลูก" ที่ผู้หญิงคว... 3 ตำแหน่งของ "เนื้องอกมดลูก" ที่ผู้หญิงควรรู้ — 3 ตำแหน่งของ "เนื้องอกมดลูก" ที่ผู้หญิงควรรู้ เนื้องอกมดลูก เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้ในผู้หญิงทุกวัย โดย...

ผู้หญิงเสี่ยงเป็น "เนื้องอกมดลูก" ได้ทุกค... ผู้หญิงเสี่ยงเป็น "เนื้องอกมดลูก" ได้ทุกคน — ผู้หญิงเสี่ยงเป็น "เนื้องอกมดลูก" ได้ทุกคนเนื้องอกมดลูก เป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ ...

เนื้องอกถูกทำลายมากกว่า 70% ลดอัตราการรัก... PHG ประสบความสำเร็จรักษาผู้ป่วยเนื้องอกมดลูกโดยไม่ต้องผ่าตัดด้วยเทคโนโลยี HIFU — เนื้องอกถูกทำลายมากกว่า 70% ลดอัตราการรักษาซ้ำใน 2 ปี ต่ำกว่า 10% "แพทย์ร...