ธนาคารไทยพาณิชย์ ออกมาตรการพิเศษบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมโดยพายุโซนร้อน "โนรู" ในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเปิดให้ลูกค้ายื่นขอพักชำระหนี้ ปรับลดดอกเบี้ย เพิ่มวงเงินพิเศษเพื่อเสริมสภาพคล่อง และยกเว้นการเรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ สำหรับลูกค้าเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ประสบอุทกภัย ตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์มีความห่วงใยลูกค้าและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนโนรู ที่เคลื่อนตัวจากประเทศเวียดนามเข้าประเทศไทยทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งได้รับผลกระทบรุนแรงหลายจังหวัด และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารอย่างเร่งด่วน ครอบคลุมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทางตรง คือ สถานประกอบการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยและทรัพย์สินของกิจการได้รับความเสียหาย และกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทางอ้อม คือ สถานประกอบการตั้งอยู่นอกพื้นที่ แต่มีคู่ค้าอยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยส่งผลให้ธุรกิจของลูกค้าไม่สามารถดำเนินการตามปกติได้ จึงออกมาตรการพิเศษเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและคลายความกังวลใจให้กับลูกค้าเอสเอ็มอีโดยทันที ผ่าน 5 มาตรการหลัก ได้แก่
- พักชำระเงินต้น (Grace Period) สูงสุดนาน 6 เดือน
- พักชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ไม่เกิน 3 เดือน
- ยกเว้นการเรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัดชำระ (อัตราดอกเบี้ยปกติ) สำหรับการผิดนัดชำระไม่เกิน 30 วัน
- เพิ่มวงเงินหมุนเวียนชั่วคราว สูงสุด 20 %ของวงเงิน Working Capital เดิมและไม่เกิน 10 ล้านบาท
- วงเงินกู้สำหรับปรับปรุง ซ่อมแซม หรือซื้อทดแทนทรัพย์สินของกิจการที่เสียหายสูงสุด 20% ของวงเงินรวมเดิม สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท ผ่อนชำระนานสูงสุด 7 ปี
ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์จะยังคงติดตามประเมินผลกระทบในระยะถัดไปอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าด้วยมาตรการเพิ่มเติมต่อไป เพื่อช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยดี และเดินหน้าธุรกิจต่อได้อย่างราบรื่นและเติบโตต่อไป
ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบสามารถขอรับมาตรการช่วยเหลือได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2565 โดยมีเกณฑ์การพิจารณาขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของลูกค้าแต่ละราย และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด โดยลงทะเบียนขอรับมาตรการช่วยเหลือและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ที่ดูแลท่าน หรือ SCB Business Call Center 0-2722-2222
NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ
เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
SAM ห่วงใยลูกหนี้ ออกมาตรการเร่งด่วนครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งผู้ประสบสาธารณภัยพายุ "วิภา" พักเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 3 เดือน ส่วนผู้เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล จัดดอกเบี้ยต่ำ 3-5% ผ่อนยาว 10 ปี เพื่อส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทยเริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงนามบันทึกความเข้าใจ ยกระดับ MOU ร่วมให้ความรู้
NT พร้อมแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast หลังการทดสอบประสบผลสำเร็จ ได้รับข้อความแจ้งเตือนภัยรวดเร็ว แม่นยำ
ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม!
NT ร่วม ปภ. ทดสอบระบบ Cell Broadcast ในพื้นที่ครั้งแรก แจ้งผลมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ครอบคลุม เสริมความพร้อมระบบเตือนภัยแห่งชาติ
NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะ 7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัย รับมือหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์